รีเซต

20 ที่เที่ยวต่างประเทศ สุดโรแมนติก วันวาเลนไทน์ พาแฟนเที่ยวไหนดี

20 ที่เที่ยวต่างประเทศ สุดโรแมนติก วันวาเลนไทน์ พาแฟนเที่ยวไหนดี
เอิงเอย
9 กุมภาพันธ์ 2566 ( 21:30 )
54.1K
1

     14 กุมภา วันวาเลนไทน์ !!! วาเลนไทน์ ปีนี้ สำหรับใครที่มีแพลน เที่ยวต่างประเทศ ก็อย่าลืมพาหวานใจไปเติมความหวาน กับ 20 ที่เที่ยวต่างประเทศ สุดโรแมนติก ที่เราได้รวบรวมมาในวันนี้ รับรองได้ไปทั้งทีมีแต่ความฟิน เที่ยวชิลได้ตลอดปี บอกเลยว่าคุณแฟนปลื้มแน่นอน

 

nuu_jeed / Shutterstock.com

รวมพิกัด ที่เที่ยวต่างประเทศ

พาแฟนเที่ยวไหนดี วันวาเลนไทน์

 

1. บาหลี Bali

อินโดนีเชีย

 

 

      บาหลี (Bali) เกาะสวยชื่อดังของอินโดนีเซีย ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชายหาด น้ำตก นาขั้นบันได และวัดวาอารามที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา เช่น น้ำตกเซกุมปุล (Sekumpul Waterfall) หมู่บ้านคิณตามณี (Kintamani) วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple) วัดเลมปุยางค์ (Penataran Lempuyang) เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของคู่รัก มีที่พักสวยๆ บรรยากาศดีมากมายที่เหมาะกับการไปพักผ่อนค่ะ

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวอินโดนีเซีย 15 ที่เที่ยวบาหลี ดินแดนแห่งท้องทะเล สวยอลัง ปังไม่หยุด

 

 

=================

 

2. มัลดีฟส์ Maldives

 

 

      ชวนแฟนไปเดตสุดโรแมนติกกลางน้ำทะเลสีฟ้าใสดั่งกระจกที่ มัลดีฟส์ (Maldives) สวรรค์แห่งท้องทะเล แหล่งที่พักสวยมากมายที่อยู่ใกล้กับชายหาดสีขาวเนียนละเอียด รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีสวย บรรยากาศสดใสถูกใจคนรักทะเลมาก แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น Vaavu Atoll Island, Ihuru Island, Meemu Atoll Island เป็นต้น

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ 8 ที่เที่ยว มัลดีฟส์ Maldives หมู่เกาะในฝัน สวรรค์คนรักทะเล

 

 

=================

 

3. Wisteria Flower Tunnel

Kawachi Fuji Garden ญี่ปุ่น

 

 

      สวนคาวาชิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) สวนดอกไม้แสนสวยภายในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka Prefecture) ประเทศญี่ปุ่น ที่ตกแต่งอย่างสวยงามราวกับอยู่ในโลกแห่งนิทาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาของ Wisteria Festival เทศกาลชมดอกวิสทีเรียประจำปีที่บอกเลยว่าโรแมนติกชวนฝันสุดๆ  ตลอดทางในอุโมงค์ เราจะเห็นดอกวิสทีเรียสีม่วง สีฟ้า สีขาว สลับแซมๆ กันอย่างสวยงาม งานนี้ให้เต็ม 10 ไม่หักเลยจ้า

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น 15 ที่เที่ยวฟุกุโอกะ จุดเช็กอินยอดฮิต เมืองหลวงแห่งคิวชู

 

 

================= 

 

4. Hitachi Seaside Park

ญี่ปุ่น

 

 

       ยังคงเที่ยวในญี่ปุ่นกันต่อกับ สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) หรือ สวน Hitachi Nakakoen สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 153 เฮกเตอร์ ดอกไม้ที่ปลูกที่นี่มีความสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในแต่ละฤดูกาล ทางสวนจะมีการปลูกดอกไม้ที่แตกต่างกัน ทำให้บรรยากาศในแต่ละช่วงเวลาของปีมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหมาะสุดๆ ที่จะพาคุณแฟน หรือครอบครัวมาเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ กลางทุ่งดอกไม้ คู่รักบางคู่ก็มาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วยนะ 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น Hitachi Seaside Park สวนดอกไม้ริมทะเล ทุ่งโคเชีย

 

nuu_jeed / Shutterstock.com

 

=================

 

5. นัมซานทาวเวอร์ N Seoul Tower

Seoul เกาหลี

 

 

      เดินทางมาถึง กรุงโซล (Seoul) ประเทศเกาหลีใต้ แล้ว ก็ต้องไปเช็กอินที่ นัมซานทาวเวอร์ (Namsan Tower) หรือ โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower) ที่เปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คของกรุงโซล รวมถึงสถานที่เดตสุดโรแมนติก โดยมีไฮไลท์เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ นอกจากจะสามารถชมทิวทัศน์ของกรุงโซลได้แบบ 360 องศาแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เหล่าคู่รักจะมา คล้องกุญแจคู่รัก หรือ Love Key Ceremony กันด้วย 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวเกาหลี N Seoul Tower ที่เที่ยวโซล คล้องกุญแจคู่รัก ชมวิวสวยใจกลางเมือง

 

Koreachai photographer / Shutterstock.com

 

=================

 

6. บานาฮิลล์ Bana Hills

Danang เวียดนาม

 

 

      บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) ดินแดนแห่งโลกเทพนิยายใน ดานัง (Danang) ประเทศเวียดนาม ที่ในอดีตเคยเป็นที่พักของนักล่าอาณานิคมชาวฝรั่งเศส ทำให้ยังมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมตะวันตกเหลืออยู่ จนคล้ายกับยกหมู่บ้านในฝรั่งเศสขนาดย่อมมาไว้ที่นี่เลยทีเดียวค่ะ แถมยังมีไฮไลท์เป็น สะพานมือยักษ์ Golden Bridge สะพานสูงเหนือเมฆที่เห็นวิวได้สวยอลังการมาก เชื่อว่าจะต้องเป็นอีกทริปที่น่าประทับใจมากแน่นอน

 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวดานัง เวียดนาม Ba Na Hills นั่งกระเช้าลอยฟ้า สวยเหมือนไปยุโรป

 

 

=================

 

7. กอเตอร์ Kotor

มอนเตเนโกร

 

 

       กอเตอร์ (Kotor) ตั้งอยู่บนอ่าวที่สวยงามของชายฝั่งมอนเตเนโกร เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม ประเพณีอันหลากหลาย ตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12-14 เต็มไปด้วยอนุสาวรีย์ และโบราณสถานของยุคกลาง จึงทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่สำคัญยังมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและสายน้ำที่มาเสริมให้บ้านเมืองในกอเตอร์ดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกเป็นกอง 

 

 

=================

 

8. Cherry Blossom Street

Bonn เยอรมนี

 

 

       จูงมือแฟน พากันไปถ่ายรูปสวยๆ กับมวลดอกไม้สีชมพูที่ Cherry Blossom Street แห่ง เมืองบอนน์ (Bonn) ประเทศเยอรมนี ถนนสายโรแมนติกที่ปลูกต้นซากุระเรียงรายตลอดสองข้างทาง พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมสวยสุดคลาสสิก พอเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถนนเส้นนี้จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่อยากมาชมความงดงามของดอกซากุระกันค่ะ

 

 

=================

 

9. ฟลอเรนซ์ Florence

Tuscany อิตาลี

 

 

        ฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองเล็กๆ ที่มีดีกรีเป็นถึงเมืองหลวงของ แคว้นทัสคานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี แถมยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก และเสน่ห์ของศิลปะที่เฟื่องฟูตลอดมาตั้งแต่สมัยยุคเรเนสซองส์ (Renaissance) หากเดินไปยังริม แม่น้ำอาร์โน (Arno) บริเวณเขตเมืองเก่า เราจะเห็นวิวของแม่น้ำที่ไหลผ่านท่ามกลางตึกอาคารทรงโบราณโทนสีอบอุ่น และทิวเขาที่สวยงาม แถมยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ และมหาวิหารสำคัญต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอศิลป์อุฟฟีซี (The Uffizi Gallery) ปาลาซโซเวคคิโอ (Palazzo Vecchio) มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Cathedral of Santa Maria del Flore) และ สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) นับเป็นเมืองทรงเสน่ห์ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ฟลอเรนซ์ Florence ที่เที่ยวอิตาลี เมืองสุดโรแมนติก สวรรค์ของสายอาร์ต

 

 

=================

 

10. ทะเลสาบโคโม Lake Como

อิตาลี

 

 

      มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนอย่าง ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอิตาลี ที่มาพร้อมกับทัศนียภาพอันงดงามเกินต้าน ไม่ว่าจะเป็นผืนน้ำอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 146 ตารางกิโลเมตร รายล้อมไปด้วยเมืองเล็กๆ ที่มีตึกอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ลองนึกภาพเรานั่งเรือชมวิวสวยๆ บนทะเลสาบไปพร้อมกับคนรู้ใจดูค่ะ ฟินสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวอิตาลี ล่องเรือชม ทะเลสาบโคโม่ Lake Como ความงดงามดังภาพวาด

 

 

=================

 

11. ย่านมงต์มาตร์ Montmartre

Paris ฝรั่งเศส

 

 

      กรุงปารีส (Paris) นั้นได้รับการยอมรับจากใครหลายๆ คนว่าเป็นหนึ่งในเมืองสุดโรแมนติกควรค่าแก่ไปเยือนสักครั้ง แต่วันนี้เราขอชวนไปทำความรู้จักกับ ย่านมงต์มาตร์ (Montmartre) แหล่งแฮงค์เอาท์ชั้นยอดของกรุงปารีสที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 130 เมตร ห้อมล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่สุดชิค ด้วยบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ที่นี่จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจของเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย รวมถึงเป็นสถานที่เดตสุดเก๋ของคู่รักสายอาร์ตด้วย

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวฝรั่งเศส Montmartre ย่านสุดชิคใน ปารีส ต้นกำเนิดศิลปะชิ้นเอก

 

 

=================

 

12. กอลมาร์ Colmar

ฝรั่งเศส

 

 

      กอลมาร์ (Colmar) หมู่บ้านน่ารักเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส ที่ยังคงเสน่ห์ความคลาสสิกของสมัยยุคกลางไว้เป็นอย่างชัดเจน เหมาะกับการพาคู่รักไปเดตสุดๆ  เนื่องจากรอบๆ หมู่บ้านนั้นจะมีลำคลองไหลผ่านตลอดทาง ที่นี่จึงได้รับการขนานนามให้เป็น “Little Venice” (la Petite Venise) รวมถึงยังมีอีกชื่อเรียกว่า Ville Fleurie หรือ Flowering City ซึ่งแปลว่า "หมู่บ้านแห่งดอกไม้" ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลินั้น เราจะได้เห็นดอกไม้หลากสีพร้อมใจกันผลิบาน สร้างความสดชื่นให้กับหมู่บ้านได้เป็นอย่างดีค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ Colmar ฝรั่งเศส เมืองในเทพนิยาย ยุโรปในฝัน

 

RossHelen / Shutterstock.com

 

=================

 

13. ฮัลล์สตัทท์ Hallstatt

ออสเตรีย

 

 

     ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เสน่ห์ของ ฮัลล์สัตทท์ (Hallstatt) ก็ไม่เคยลดน้อยลงไปค่ะ ที่นี่เป็นเมืองชนบทเล็กๆ แสนเงียบสงบริม ทะเลสาบฮัลล์สัตทท์ (Hallstätter See) ซึ่งล้อมรอบด้วยทิวทัศน์สุดอลังการของ เทือกเขาแอลป์ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยยุคกลาง โดยมี โบสถ์ Evangelische Pfarrkirche Hallstatt เป็นไฮไลท์ของเมือง ที่ไม่ว่าใครก็ต้องไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศอันงดงามกันตรงนี้ค่ะ ถ้ามีโอกาสก็ลองพาคนรักไปเที่ยวดูนะคะ ต้องประทับใจมากแน่ๆ 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ฮัลล์สตัทท์ Hallstatt ที่เที่ยวออสเตรีย หมู่บ้านริมทะเลสาบ สวย ฟิน ทุกฤดู

 

 

=================

 

14.  เชสกี้ ครุมลอฟ Cesky Krumlov

สาธารณรัฐเช็ก

 

 

       เชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov) หนึ่งในเมืองมรดกโลกของ สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ที่มีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ล้อมรอบด้วย แม่น้ำ Vltava แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ และกลับอัดแน่นด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยยุคกลางได้เป็นอย่างดี และมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู จึงไม่แปลกใจเลยหากที่นี่จะเป็นหนึ่งในเมืองในฝันที่ใครหลายๆ คนอยากไปเยือนค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ Cesky Krumlov ที่เที่ยวเช็ก เมืองมรดกโลก สุดน่ารัก เหมือนท่องโลกเทพนิยาย

 

 

=================

 

15. ซานโตรินี Santorini

กรีซ

 

 

       เป็นอีกหนึ่งเดสติเนชั่นในฝันของใครหลายๆ คนเลยสำหรับ ซานโตรินี (Santorini) เกาะสวรรค์ของ ประเทศกรีซ (Greece) ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือภาพของอาคารบ้านเรือนสีขาวที่ตั้งไล่เรียงลงมาจากไหล่เขา ตัดกับสีฟ้าสดใสของทะเลอีเจียน ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเก่าแก่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟีร่า (Fira) เอีย (Oia) ธีรา (Thira) พีร์กอส (Pyrgos) และ อิเมโรวิกลี (Imerovigli) ที่ต่างก็มีความงดงามที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ 10 ที่เที่ยว ซานโตรินี กรีซ เกาะกลางทะเลในฝันแดนยุโรป

 

 

=================

 

16. นาฟปลิโอ Nafplio

กรีซ

 

 

       ยังคงอยู่ที่กรีซกันต่อกับ นาฟปลิโอ (Nafplio) เมืองติดชายฝั่งทะเลที่เปรียบเสมือนอัญมณีของกรีซเลยก็ว่าได้ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีวิวของท้องทะเลและภูเขาอันกว้างใหญ่เท่านั้น แต่ยังอบอวลไปด้วยประวัติศาสตร์หลายพันปี และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม บรรยากาศอบอุ่น และคึกคัก ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายกรีกเลยทีเดียวค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/8JxDuEX5baEPmxpj6 

=================

 

17. คัปปาโดเกีย Cappadocia

ตุรกี

 

 

       ลองจินตนาการเล่นๆ ว่า คุณได้ลอยอยู่บนบอลลูนท่ามกลางเมืองมหัศจรรย์อย่าง คัปปาโดเกีย (Cappadocia) แค่นี้ก็ฟินแล้ว ! ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ ตุรกี หรือ ทูร์เคีย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1985 อีกด้วย สีสันของที่นี่คือการขึ้นบอลลูนไปชมรับลมทัศนียภาพของภูเขาหน้าตาแปลกประหลาดไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศชวนฝันสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ 10 ที่เที่ยวคัปปาโดเกีย สุดปัง ถ่ายรูปสวย ที่ตุรกี ต้องตามมาเก็บภาพ

 

 

=================

 

18. อลาคาตี Alacati 

ตุรกี

 

 

      อลาคาตี (Alacati) เมืองเล็กๆ ทรงเสน่ห์ริมชายฝั่งทะเลอีเจียน ที่อบอวลไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากเป็นเมืองที่เคยได้รับอิทธิพลทางศาสนาคริสต์จากกรีกมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเมืองมุสลิมของตุรกีนั่นเองค่ะ ความโดดเด่นของที่นี่ เห็นจะเป็นตึกอาคารสีพาสเทลในเขตเมืองเก่า มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของท้องถิ่นให้เลือกสรรมากมาย แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบเลยด้วย

 

Nejdet Duzen / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/Kp8Qfi8BcYwLcTNk7 

=================

 

19. มาร์ราเกช Marrakech

โมร็อคโค

 

 

      เดินเล่นท่ามกลางตึกอาคารสีชมพูอมส้มใน มาร์ราเกช (Marrakesh) เมืองที่มากล้นไปด้วยเสน่ห์ของ โมร็อคโค จนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงเป็นศูนย์รวมการค้าของโมร็อคโคด้วย ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมร็อคโค ที่มีลวดลายละเอียดประณีต สีสันฉูดฉาด และสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยมี มัสยิด คูตูเบีย (Koutoubia Mosque) เป็นสัญลักษณ์ใจกลางเมืองค่ะ สำหรับคู่รักคู่ไหนที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการท่องเที่ยว มาร์ราเกชเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

 

 

=================

 

20. Glass Beach

แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

 

 

       หลายคู่รักมักมาเดินชิล พูดคุยหยอกล้อกันอย่างโรแมนติกหวานปานมดขึ้น ที่ ชายหาดแก้ว หรือ Glass Beach แห่งนี้ แปลกตรงที่ว่าเดิมที่เป็นที่ทิ้งขยะของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) แต่หลายสิบปีผ่านไป ขยะที่เป็นเศษแก้วถูกคลื่นซัดสาดหายไป จนกลายเป็นชายหาดแสนสวยอย่างน่าอัศจรรย์ใจค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ที่เที่ยวอเมริกา Glass Beach แคลิฟอร์เนีย ชายหาดแก้ว สุด Unseen