รีเซต

12 ที่เที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น สวยฟินทุกฤดู งานนี้จะพลาดได้ไง !

12 ที่เที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น สวยฟินทุกฤดู งานนี้จะพลาดได้ไง !
SummerB
24 สิงหาคม 2565 ( 12:30 )
12.2K

        ญี่ปุ่น ประเทศมากเสน่ห์ มีทั้งบรรยากาศเมืองอันแสนทันสมัย และธรรมชาติสวยๆ หลากหลายแนว ไปกี่ครั้งก็ไม่รู้จักเบื่อ ยิ่งสายเที่ยวธรรมชาติ จะต้องไม่พลาด 12 ที่เที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นวิวภูเขา ทะเลสาบ น้ำตก ทะเล และ ทะเลทราย ก็มีครบ สวยอลังการ บอกเลยว่าไปฤดูไหนก็ดีต่อใจ~ 

 

รวมพิกัดธรรมชาติ ที่เที่ยวญี่ปุ่น

สวย น่าเที่ยวทุกฤดู

 

1. Lake Yamanakako

ทะเลสาบยามานากาโกะ

 

 

       ทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanakako) หนึ่งใน 5 ทะเลสาบรอบ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด ด้วยทิวทัศน์สุดอลังการของสายน้ำและขุนเขา ทำให้ทะเลสาบยามานากาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO พร้อมกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และน้ำตกชิระอิโตะ เมื่อปี 2013 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น กดแชะรัวๆ 5 ทะเลสาบ ฟูจิ Fuji วิวสวย สวรรค์สร้าง

 

Lake Yamanakako ที่เที่ยวญี่ปุ่น

 

        รอบๆ ทะเลสาบนั้นมีกิจกรรมให้ทำมากมายค่ะ ใครอยากชมวิวทะเลสาบแบบชัดๆ ก็ต้องไปนั่ง เรือสวอนเลค (Swan Lake) เรือนำเที่ยวรูปหงส์ขนาดใหญ่ และ รสบัส Yamanakako no Hippo รถบัสสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกที่จะพาคุณเที่ยวชมรอบๆ ทะเลสาบ จากนั้นก็ไปชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมก็ต้องห้ามพลาด หมู่บ้านนินจา โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ (Ohshino Shinobi no Sato) หมู่บ้านเก่าแก่ที่พัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มาพร้อมกับการแสดงของเหล่านินจาให้ชมกันอย่างสนุกสนานด้วย

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/gaj2QKWPP8P77aN78 

============

 

2. Nachi Falls

น้ำตกนาชิ

 

 

       ชมความอลังการงานสร้างของ น้ำตกนาจิ (Nachi Falls) น้ำตกที่สูงและใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 133 เมตรและลึก 10 เมตร เคียงคู่กับ วัดนาจิซัง เซกันโทจิ (Seigantoji Temple) หอเจดีย์สีแดงอันงดงาม ซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของ มรดกโลกเส้นทางคุมะโนะโคะโด ในจังหวัดวากายามะ (Wakayama) ภูมิภาคคันไซ นับเป็นแลนด์มาร์คหนึ่งที่ไม่ควรพลาดของญี่ปุ่นเลยค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น Kumano Kodo แดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า หนึ่งในมรดกโลก

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/QEjEr37vy7jyQBuB7 

============

 

3. Arashiyama

อาราชิยามะ

 

 

       อาราชิยามะ (Arashiyama) เป็นเขตท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเกียวโต เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ โดยเฉพาะ ป่าไผ่ซากาโนะ(Sagano bamboo forest) ป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเกียวโต ตลอดเส้นทาง 500 เมตร เราจะได้เห็นต้นไผ่สีเขียวสูงชะลูดเรียงรายทั้งข้างทาง ใครที่เหนื่อยล้า หากได้มาเดินเล่นกลางป่าไผ่ ฟังเสียงธรรมชาติ ก็เหมือนกับการได้พักชาร์จแบ็ตไปในตัวค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยวญี่ปุ่น ป่าไผ่ซากาโนะ Sagano bamboo forest เกียวโต เสน่ห์โลกตะวันออก

 

 

       นอกจากนี้ป่าไผ่แล้ว เขตอาราชิยามะยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก ไม่ว่าจะเป็น วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) วัดเก่าแก่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สวนลิงอาราชิยามะ (Arashiyama Monkey Park Iwatayama) และ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) สะพานข้ามแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) ที่เป็นจุดชมวิวชื่อดังในเกียวโต โดยเฉพาะในช่วงซากุระบาน 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/VE72ofbNbLMqbgEZA 

============

 

4. Urabandai

อุระบันได

 

 

     อุระบันได ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติบันได-อาซาฮิ (Bandai-Asahi National Park) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นศูนย์รวมบึงน้ำ ทะเลสาบ และธรรมชาติอันงดงามบนที่ราบสูงทางทิศเหนือของ ภูเขาบันได (Mount Bandai) ซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในระแวกนั้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 ทำให้มีบึงน้ำและทะเลสาบเกิดขึ้นอยู่มากมายค่ะ ภายในอุทยานฯ นั้นมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอยู่หลายแห่ง แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ เส้นทางโกชิกินุมะชิเซ็นทันโชโร (Goshiki Nature Trail) หรือ เส้นทางทะเลสาบ 5 สี ศูนย์รวมบึงน้ำกว่า 20-30 แห่ง รวมถึง บิชามงนูมะ (Bishamon-numa) บึงน้ำที่มีผืนน้ำสีฟ้ามรกตไล่สีเป็นเฉดสีต่างๆ งดงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ตะลุย ญี่ปุ่น ชมวิวสวย อุระบันได Urabandai ทะเลสาบ 5 สี แห่ง ฟุกุชิมะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/orMkraAq91LP4WjQ6 

============

 

5. Kamikochi

คามิโคจิ

 

 

     คามิโคจิ (Kamikochi) แหล่งธรรมชาติที่สวยงามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) ประเทศญี่ปุ่น โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาขนาดใหญ่และ แม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) แม่น้ำสีฟ้าใสแจ๋วที่ทอดยาวตลอดหุบเขา เป็นจุดชมวิว Japan Alps ที่สวยงามที่สุด จนถูกขนานนามให้เป็น สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น เลยทีเดียว

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ คามิโคจิ Kamikochi ที่เที่ยวญี่ปุ่น ชมวิวใบ้ไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็นฉ่ำ

 

 

       คามิโคจิจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลักๆ อยู่ 2 เส้น คือ เส้นทางระหว่าง บึงไทโช (Taisho Pond) กับ สะพานกัปปะ ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร และ เส้นทาง บึงไทโช ไปจนถึง สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) ในระยะทาง 7 กิโลเมตร ระหว่างทางเราก็จะได้ชมป่าเขา และธารน้ำอันแสนสดชื่นเป็นระยะ ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีความงดงามที่แตกต่างกันออกไปค่ะ 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/JsBtswJoE12czetCA

============

 

6. Daisetsuzan National Park

อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง

 

 

      ขึ้นมาเที่ยวทางเหนือที่ ฮอกไกโด กันบ้างค่ะ อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 2,267 ตารางกิโลเมตรกิน ตั้งแต่ทางตอนใต้ของ เมืองอาซาฮีคาวะ (Asahikawa) เมืองคามิคาวะ (Kamikawa) เมืองบิเอะ (Biei) ตลอดไปจนถึง เมืองฟูราโนะ (Furano) ลักษณะภูมิประเทศภายในอุทยานส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสูง โดยมียอดเขาสูงสุดคือ อะซาฮิดาเกะ (Asahidake) สูง 2,290 เมตร เป็นจุดชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสีอันขึ้นชื่อของฮอกไกโด แถมในฤดูหนาวยังเป็นสถานที่ที่หิมะตกเป็นที่แรกในฮอกไกโดด้วย

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/2CRbLRNfyNThifD8A 

============

 

7. Biei Blue Pond

บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ

 

 

      ยังคงอยู่ในฮอกไกโดกันต่อกับ Blue Pond หรือ Aoi-ike ที่แปลว่า "บ่อน้ำสีฟ้า" เป็นบ่อน้ำที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มของภูเขาไฟในบริเวณเมืองบิเอะ สีของบ่อน้ำนั้นเกิดจากอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่ตกตะกอนอยู่ในน้ำ เมื่อสะท้อนกับแสงแดดก็เกิดเป็นสีฟ้าสดใส และจะสวยสุดๆ เมื่อตัดกับหิมะสีขาวโพลนในช่วงฤดูหนาวค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/QGc6DpQ4yP3Du3Eu9 

============

 

8. Shiratani Unsuikyo

ป่าชิระทานิอันซุยเคียว

 

 

      ป่าชิระทานิอันซุยเคียว (Shiratani Unsuikyo) ผืนป่าอายุกว่าพันปีใน จังหวัดคาโกชิมะ (Kagochima) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO เมื่อปี 1993 นับเป็นพื้นที่ที่มีป่าซีดาร์ (Sugi) หรือ ป่าทึบกึ่งเขตร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีความหลากหลายทางชีวภาพของผืนป่าดึกดำบรรพ์ ความงดงามอันน่าพิศวงทำให้ที่นี่ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของฉากป่าในการ์ตูนจิบลิ โมโนโนเกะฮิเมะ เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke 1997)  รวมถึงเป็นที่เที่ยวธรรมชาติชื่อดังที่ผู้คนมักจะมาตั้งแคมป์ เดินป่า แช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/zar4E4P9y95hSARN9 

============

 

9. Totori Sand Dunes

ทะเลทรายทตโตริ

 

 

       เนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes) เนินทรายขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่ทอดตัวจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกด้วยพื้นที่ทั้งหมด 30 ตารางกิโลเมตร เลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก (East Sea) หรือ ทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) ในความยาว 16 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานธรณีซันอินไคกัง (San’in Kaigan Geopark) เกิดจากการสะสมของตะกอนที่พัดผ่านมาพร้อมกับกระแสน้ำทะเล ทับถมกันเป็นเวลา 100,000 ปีจนเกิดเป็นเนินทรายขนาดใหญ่ แต่ละจุดจะมีระดับความสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เนินทรายแห่งนี้น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ที่เที่ยวญี่ปุ่น เนินทรายทตโตริ Tottori Sand Dunes ขี่อูฐข้ามเนินทรายกว้างใหญ่

 

 

      ไฮไลท์ของการมาเที่ยวเนินทรายทตโตริก็คือ การขี่อูฐ ขึ้นไปบนเนินทราย รวมถึงเล่น แซนบอร์ด และ ร่มร่อนพาราไกลดิ้ง เพื่อชมวิวสวยๆ ของเนินทรายจากมุมสูง นอกจากนี้ก็ยังมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (The Sand Museum) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเนินทรายนัก เป็นสถานที่จัดแสดงประติมากรรมทรายแห่งแรกของโลกและแห่งเดียวของญี่ปุ่น ทำให้เราได้ชมผลงานศิลปะที่สรรสร้างจากทรายได้อย่างไม่ซ้ำกันในแต่ละปี

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/AqKRT9WamCMCtA8m6 

============

 

10. Yurigahama Beach

ชายหาดยูริกาฮามะ

 

 

       นอกจากภูเขาและน้ำตกแล้ว ที่เที่ยวทะเลของญี่ปุ่นเองก็สวยไม่เบาเลยนะ! ชายหาดยูอิกาฮามะ (Yurigahama Beach) ชายหาดสีขาวแสนสวยที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้ามรกต ใสจนเห็นแนวปะการังและโขดหินใต้ท้องทะเลเลย ขนาดของชายหาดจะจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง เหมาะกับการไปเที่ยวในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม เพราะระดับน้ำทะเลจะลดลงต่ำ ทำให้เห็นชายหาดสีขาวได้อย่างชัดเจน และด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปพรีเวดดิ้งยอดนิยมของคู่รักเลยแหละ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/9i931nUCTseY8Z1e6 

============

 

11. Miyako Island

เกาะมิยาโกะ

 

 

         มิยาโกะ (Miyako Island) ตั้งอยู่กลางทะเลห่างจากเกาะโอกินาว่าถึง 300 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโอกินาว่า และใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมิยาโกะ มีไฮไลท์เป็น หาดมาเอะฮามะ (Maehama Beach) หาดโยชิโนะ (Yoshino Beach) หาดสุนายามะ (Sunayama Beach) และ แหลมฮินางาชิ เฮนนาซากิ (Higashi-Hennazaki) จุดชมวิวท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่สวยที่สุดบนเกาะ ส่วนมากผู้คนจะนิยมมาดำน้ำดูปะการัง เล่นน้ำ และเดินเล่นบนหาดทรายกันบนเกาะแห่งนี้ค่ะ 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ 15 ที่เที่ยว โอกินาว่า ญี่ปุ่น น้ำทะเลใส หาดทรายสวย ฤดูไหนก็ดีต่อใจไปหมด ! 😎

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/paKc1bTU6ZwYjTWP6 

============

 

12. Kameiwa Cave

อุโมงค์คาเมวะ

 

 

      ชม ปรากฏการณ์แสงรูปหัวใจ ที่ อุโมงค์คาเมวะ (Kameiwa Cave) และ น้ำตกโนมิโสะ (Nomizo Waterfall) ความงดงามอันน่าอัศจรรย์ใจภายใน สวนชิมิสุ (Shimizu Keiryū Park) เมืองคิมิตสึ (Kimitsu) จังหวัดชิบะ (Chiba) แต่ขอบอกเลยว่าการไปชมปรากฏการณ์นี้ไม่ง่ายเลย เพราะจะมีให้เห็นเฉพาะในวันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากันเท่านั้น โดยในแต่ละปีจะมีเพียง 2 วันในเดือนมีนาคมและเดือนกันยายนค่ะ แต่นอกเหนือจากปรากฏการณ์นี้แล้ว เสน่ห์ของสวนชิมิสุก็ยังมีให้เห็นอยู่ตลอดปี ทั้งการชมหิ่งห้อยในฤดูร้อน และชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ อุโมงค์คาเมวะ Kameiwa Cave ที่เที่ยวญี่ปุ่น ปรากฏการณ์แสงรูปหัวใจ สวยดั่งภาพวาด

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/fFmVNtnAXaZTxbQk7