รีเซต

คามิโคจิ Kamikochi ที่เที่ยวญี่ปุ่น เดินป่า ใบไม้เปลี่ยนสี การเดินทางไป

คามิโคจิ Kamikochi ที่เที่ยวญี่ปุ่น เดินป่า ใบไม้เปลี่ยนสี การเดินทางไป
SummerB
24 ตุลาคม 2567 ( 10:18 )
26.6K

        เมื่อพูดถึงธรรมชาติสวยๆ ใน ญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายๆ คนคงนึกถึง คามิโคจิ Kamikochi เป็นอันดับแรกๆ เพราะนอกจากจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทางให้นักเดินป่าไปชมวิวสวยๆ ของเทือกเขา Japan Alps แล้ว ยังเป็น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่งดงามสุดๆ ไปเลยด้วย ไปเที่ยวได้หลายฤดู ตอบโจทย์คนรักคนรักธรรมชาติ

เที่ยวญี่ปุ่น คามิโคจิ Kamikochi
ชมใบไม้เปลี่ยนสี Japan Alps

 

ทำความรู้จักกับ คามิโคจิ
Kamikochi

     ท่ามกลางหุบเขาที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร ใน จังหวัดนากาโน่ (Nagano) ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของ คามิโคจิ (Kamikochi 上高地) แหล่งธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาขนาดใหญ่และแม่น้ำสายสำคัญอย่าง แม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) แม่น้ำสีฟ้าใสแจ๋วที่ทอดยาวตลอดหุบเขา เป็นจุดชมวิว Japan Alps ที่สวยงามที่สุด และขนานนามว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ใครๆ ก็อยากไปชมความงดงามเหล่านี้ด้วยตาตนเอง

 

 

       เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่าง เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) และ ทาคายามะ (Takayama) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมไปเที่ยวแบบ One Day Trip แต่ใครที่อยากจะพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในอุทยาน ที่นี่ก็มีจุดกางเต็นท์และที่พักให้บริการเช่นกันค่ะ

 

ฤดูกาลที่เหมาะกับการไปเที่ยว
คามิโคจิ Kamikochi

 

        การจะไปเที่ยว คามิโคจิ นั้น สิ่งที่ควรรู้เป็นอย่างแรกเลยคือ ที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวเพียงปีละ 7 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จนถึง กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่มีแพลนไปเที่ยวคามิโคจิในช่วงฤดูหนาวอาจจะได้ไปเสียเที่ยว เพราะจะเป็นช่วงที่ทางอุทยานฯ จะปิดทำการเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ อีกทั้งสภาพอากาศที่หนาวจัดยังไม่เหมาะแก่การไปเที่ยวในช่วงนั้นอีกด้วย

 

 

        เสน่ห์ของคามิโคจิจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู แต่ช่วงพีคที่สุดของการมาเที่ยวที่นี่ก็คือช่วง ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง ใครที่ชอบความเขียวขจีของป่าเขา ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศอบอุ่นหน่อยก็ต้องไปในช่วงหน้าร้อน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นฤดูกาลแห่งการปีนเขาของคนที่นี่ สายผจญภัยรักธรรมชาติห้ามพลาดเลยแหละ

 

 

         ส่วนใครที่ชอบอากาศเย็นๆ และสีสันของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ต้องมาช่วงเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่เหล่าต้นไม้จะระเบิดสีสันออกมา ตัดกับภูเขาหิมะและสายน้ำสีฟ้าของแม่น้ำอาซุสะได้เป็นอย่างดีเลย

 

ที่เที่ยวไฮไลท์ ที่ คามิโคจิ

 

 

      มาถึง คามิโคจิ ยังไงก็ต้องไปถ่ายรูปกับ สะพานกัปปะ (Kappa Bridge) ที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำอาซุสะพร้อมกับทิวทัศน์ของภูเขาทางด้านหลัง ถือเป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ทุกต้นจะพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ไล่สีอย่างสวยงามอลังการที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมี ภูเขายาเกะดาเกะ (Mt.Yake-dake) พิกัดสุดท้าทายสำหรับสายลุยให้ไปปีนเขาชมธรรมชาติให้เต็มที่

 

Kamikochi ที่เที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น

 

      ในคามิโคจิมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลักๆ อยู่ 2 เส้น เส้นทางแรกคือ เส้นทางระหว่าง บึงไทโช (Taisho Pond) กับ สะพานกัปปะ ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร สำหรับใครที่มีเวลาอยากดื่มด่ำกับธรรมชาตินานๆ ก็แนะนำให้ไปยังเส้นทาง บึงไทโช ไปจนถึง สะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) ในระยะทาง 7 กิโลเมตร เราจะได้ชมธรรมชาติอันร่มรื่นของป่าเขา รวมถึงทักทายกับน้องลิงก้นแดงที่จะออกมาให้เราเห็นหน้าค่าตาเป็นระยะ เพลิดเพลินไปอีกแบบค่ะ แต่ขอเตือนเลยว่าให้เช็คสภาพอากาศมาให้เรียบร้อย โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก เตรียมร่ม ชุดกันฝน และรองเท้ากันน้ำมาให้พร้อม เพราะเท้าของคุณอาจจะจมน้ำได้ และหนาวเย็นสุดๆ เลยแหละ

 

การเดินทางไป คามิโคจิ

       เราสามารถเลือกเดินทางไป คามิโคจิ ด้วยรถบัสหรือรถไฟก็ได้ หากนั่งรถบัสตรงมาจาก โตเกียว ให้ไปขึ้นที่สถานีต่างๆ เช่น ชินจูกุ (Shinjuku) โตเกียว (Tokyo) และ ชิบูย่า (Shibuya) ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมง

      สำหรับใครที่อยากประหยัดเวลา แนะนำให้มาด้วย รถไฟด่วนพิเศษอาซึสะ (Azusa) ที่ สถานทีชินจูกุเพื่อมาลงที่ สถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station) ประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นให้ไปซื้อตั๋วรถบัสในสถานีเพื่อต่อรถไปยังคามิโคจิโดยใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง 50 นาทีค่ะ