รีเซต

11 สถานที่แสวงบุญ แดนศักดิ์สิทธิ์ยุคโบราณ รอบโลก

11 สถานที่แสวงบุญ แดนศักดิ์สิทธิ์ยุคโบราณ รอบโลก
Muzika
20 กันยายน 2565 ( 18:20 )
18.6K
1

     ศาสนานั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์โลกมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว แต่ละยุคแต่ละสมัยเราล้วนต้องการหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ต้องการสิ่งที่จะใช้ในการอธิบายปรากฎการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ และต้องการสถานที่ที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่มีความศรัทธาในแบบเดียวกัน เมื่อมีสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว นั่นจึงทำให้เกิดการจาริกแสวงบุญต่างๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ในหลายๆ ที่ยังถือว่าเป็นที่เที่ยวยอดนิยมด้วย ลองไปดูกันดีกว่าครับ ว่า 11 สถานที่แสวงบุญรอบโลกนั้นมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

 

 

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แดนแสวงบุญยุคโบราณ รอบโลก

 

1. อะโครโพลิส (Acropolis) 
กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ

 

 

     กรุงเอเธนส์ ในอดีตกาลนั้นเป็นดั่งดินแดนแห่งตำนาน ที่เชื่อมโยงระหว่างเทพเจ้า และมนุษย์เข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่น และมีอายุอานามที่เก่าแก่มาก นับย้อนไปได้ก่อนคริตศักราชถึงประมาณ 400 ปี การที่ซากโบราณสถานที่นี่ยังสามารถคงอยู่ได้ถึงปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มาก และมันยังเป็นหลักฐานการตั้งรกรากของมนุษย์ในยุคโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย

 

     คำว่า อะโครโพลิส นั้นมีความหมายว่าปราการบนภูเขาสูง อันที่จริงอะโครโพลิสนั้นมีอยู่มากมายหลายแห่งในกรีซ แต่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็น อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ อันเป็นที่ตั้งของ วิหารพาร์เธนอน อันโด่งดังนั่นเอง ในสมัยกรีกโบราณนั้นที่นี่เป็นดั่งศูนย์กลางรากฐานของอารยธรรมในแถบยุโรปเลยก็ว่าได้ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันมุ่งหน้ามายังวิหารนี้ เพื่อมาบูชาเทพีอะธีนา เทพีแห่งปัญญาและสงคราม

 

 

     วิหารพาร์เธนอนนั้นสร้างจากหินอ่อนทั้งหลัง จึงทำให้มันคงทน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้อีกหลายยุค เคยถูกดัดแปลงให้เป็นทั้งโบสถ์ หรือสุเหร่า แล้วแต่ว่าในสมัยนั้นกรีกตกเป็นเมืองขึ้นของใคร กระทั่งเคยถูกใช้เป็นที่เก็บอาวุธ ค่ายทหารในช่วงสงครามโลกด้วย ได้รับการบูรณะซ่อมแซมถึง 3 ครั้งด้วยกัน และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1987

 

====================

 

2. เยรูซาเลม (Jerusalem)

 

 

     เยรูซาเลม นครศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีความสำคัญข้องเกี่ยวถึงสามศาสนา ได้แก่ ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม อดีตเป็นเมืองศูนย์กลางทั้งด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม ภายในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่หลายแห่งมาก

 

 

     เมืองนี้ถูกก่อสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตกาล กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของศาสนายูดาห์ และมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมายเกิดขึ้นในเมืองนี้ เช่น พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขนที่นี่ พระนบีมูฮัมหมัดเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ที่นี่ ถูกปกครองโดยอาณาจักรโรมัน ถูกปกครองโดยชาวมุสลิม ฯลฯ และเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่ที่หลอมรวมผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างความเชื่อเข้าด้วยกัน

 

====================

 

3. กลาสตันเบอรี่ ทอร์ (Glastonbury Tor)
ประเทศอังกฤษ

 

 

     กลาสตันเบอรี่ ทอร์ เป็นชื่อของเนินเขาในเมืองกลาสตันเบอรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หอคอยสู่สรวงสวรรค์ เซนต์ มิเชลล์ (St. Michael's Tower) ซึ่งสร้างขึ้นช่วงกลางทศวรรษ 400 ตามตำนานเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ และอวาลอน หรือดินแดนสวรรค์ตามตำนานกษัตริย์อาเธอร์ ทุกวันนี้ที่ประเทศอังกฤษยังมีจัดทัวร์แสวงบุญไปยังกลาสตันเบอรี่ ทอร์ และสโตนเฮนจ์ เพื่อรับพลังโบราณจากสถานที่โบราณเหล่านี้ด้วย

====================

 

4. คุมาโนะ โคโดะ (Kumano Kodo)
ประเทศญี่ปุ่น

 

 

     คุมาโนะ โคโดะ นั้น ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าแถบนี้เป็นดินแดนสิงสถิตของเทพเจ้า โดยเป็นเส้นทางแสวงบุญที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดในญี่ปุ่น ในสมัยเฮอัน (794 - 1185) สมัยนั้นราชสำนักต้องใช้เวลาเดินทาง 30 ถึง 40 วัน จากเมืองหลวงเก่าเกียวโต เพื่อมาค้นหาสถานที่ที่เป็นดั่งสวรรค์บนพื้นพิภพ และก็ได้พบกับที่แห่งนี้ จึงทำการสร้าง คุมาโนะ ซันซัง (Kumano Sanzan) ศาลเจ้าใหญ่สามแห่ง ณ บริเวณนี้

 

====================

 

5. ลุมพินีวัน (Lumbini Vana)
ประเทศเนปาล

 

Alexandra Lande / Shutterstock.com

 

     สถานที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน ที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า แต่เดิมนั้นลุมพินีวันเป็นพระราชอุทยานที่กษัตริย์ และชาวเมืองใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จนมัสการพุทธสังเวชนียสถานทั่วทั้งชมพูทวีปรวมถึงที่ลุมพินีวันด้วย ซึ่งนับว่าที่นี่เป็นสังเวชนียสถานเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย

 

By Yves Picq - Own work, CC BY-SA 3.0

 

     ลุมพินีวันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2540 ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธบนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนสำหรับปลูกป่า และสร้างวัดพุทธนานาชาติจากทั่วโลกกว่า 41 ประเทศ โดยโบราณสถานลุมพินีวันตั้งอยู่ทางด้านใต้ มีวัดไทย และวัดพุทธทั่วโลกไปสร้างอยู่จำนวนมาก เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาสักการะแสวงบุญ

====================

 

6. ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia)
อิสตันบูล ประเทศตุรกี

 

 

     ฮาเกีย โซเฟีย อีกหนึ่งศาสนสถานที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์โลก สร้างในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช เพื่อใช้เป็นโบสถ์ของคริสตศาสนา นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ในปี ค.ศ.360 นับเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์ แต่หลังจากนั้น ในปีค.ศ.1453 ที่นี่ก็ถูกครอบครองโดยชาวออตโตมันเติร์ก และเปลี่ยนให้เป็นสุเหร่าหลักของอิสตันบูล โดยสรุปแล้วที่นี่เคยเป็นโบสถ์มานานนับพันปี และเป็นสุเหร่าอีกประมาณ 500 ปี

 

 

     ปัจจุบันฮาเกีย โซเฟีย กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของตุรกี แต่โบสถ์ทรงโดมขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ยังคงความสำคัญในฐานะอนุสรณ์สถานที่สะท้อนถึงแรงศรัทธาของชาวคริสต์ และอิสลามเช่นเดิม

====================

 

7. มักกะฮ์ (Mecca)
ประเทศซาอุดิอาระเบีย

 

 

     มักกะฮ์ นครศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม อันเป็นที่ตั้งของ “กะอ์บะฮ์” (Kaaba) อาคารทรงลูกบาศก์ที่ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลาง ซึ่งตามคัมภีร์อัลกุรอานระบุว่า กะอ์บะฮ์ได้ถูกสร้างขึ้นโดยนบีอิบรอฮีม และอิสมาอีล บุตรชายของท่านตามคำบัญชาของอัลลอฮ์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการเคารพสักการะพระองค์

 

     จากนั้นมา ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลางที่ชาวมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางมาร่วมพิธี "ฮัจญ์" กันสักครั้งหนึ่งในชีวิต สำหรับมุสลิมทุกคนที่มีความพร้อมทั้งด้านสุขภาพ ทรัพย์สิน และมีความปลอดภัยตลอดการเดินทาง พิธีฮัจญ์จะใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน โดยในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเดินทางมาเข้าร่วมประมาณ 3 ล้านคน

 

====================

 

8. วัดทักซัง (Taktshang Monastery)
เมืองพาโร ประเทศภูฏาน

 

 

     ทักซัง วัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูฏาน สำหรับชาวไทยมักจะเรียกที่นี่อีกชื่อว่า "วัดถ้ำเสือ" ตามความหมายในภาษาภูฏาน (ทักซัง แปลว่า รังเสือ) ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า กูรูรินโปเซ ผู้นำศาสนาพุทธวัชรยานเข้ามายังภูฏาน ทรงขี่นางเสือเหาะมา แล้วเข้าบำเพ็ญสมาธิอยู่ในถ้ำรังเสือนานถึงสามเดือน แล้วจึงสำแดงกายสะกดภูติผีปิศาจร้าย และออกเทศนาสั่งสอนผู้คนในหุบเขาพาโรจนหันมายอมรับนับถือพุทธศาสนา

 

By Baldiri - Own work, CC BY-SA 3.0


     การเดินขึ้นเขาทักซังนั้นแม้ระยะทางจะไม่ไกล ไป-กลับใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง แต่ด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,000 เมตร อากาศจึงเบาบาง นับเป็นการพิสูจน์ศรัทธาของผู้แสวงบุญอยู่ไม่น้อย ชาวภูฐานบางคนไม่ได้แสวงบุญด้วยการเดินธรรมดา แต่จาริกด้วยการกราบอัษฏางคประดิษฐ์ตามแบบวัชรยาน คือเดินสามก้าวแล้วก้มลงกราบโดยนอนราบกับพื้น เป็นการใช้ความเพียรอย่างยิ่งยวด

 

====================

 

9. เกาะสเกลลิค ไมเคิล (Skellig Michael)
หมู่เกาะสเกลลิคส์ ประเทศไอร์แลนด์

 

 

     เกาะแห่งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทางด้านศาสนาคริสต์ เป็นชุมชนเล็กๆ และสถานประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 6 ซึ่งการจะเดินทางไปนั้นต้องเดินขึ้นบันไดหินจำนวน 670 ขั้น ปัจจุบันที่นี่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่แล้ว แต่ก็ยังสามารถเดินทางมาสัมผัสกับอารยธรรมโบราณที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณอยู่ เกาะนี้เปิดให้เข้าได้เฉพาะช่วงเดือนเมษายน-กันยายนเท่านั้น เกาะนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996

====================

 

10. วิหารฮรมันดิร ซาฮิบ Harmandir Sahib (The Golden Temple)
รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย

 

 

     วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ วิหารสำคัญที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวซิกข์ในเมืองอัมริตซาร์ รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นกลางสระน้ำอมฤตที่ล้อมรอบอยู่ทั้งสี่ทิศ ชาวซิกข์ทุกคนปรารถนาที่จะมาเยี่ยมคารวะและได้ลงไปอาบน้ำในสระอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยชำระล้างจิตวิญญาณที่ขุ่นมัวของเราทุกคนให้สะอาด

 

     วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1589 วิหารแห่งนี้ถูกเผาทำลายมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละยุคสมัย แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมกลับมาทุกๆ ครั้ง กระทั่งปี ค.ศ. 1762 มหาราชานามว่า รันจิต สิงห์ (Maharaja Ranjit Singh) ได้ทรงบูรณะวิหารใหม่ครั้งใหญ่ โดยประดับด้วยหินอ่อน และทองแดงในปี ค.ศ. 1809 และประดับภายนอกด้วยทองคำเปลวในปี ค.ศ. 1830 ทำให้วิหารแห่งนี้ได้รับชื่อว่าเป็น วิหารทองคำ นับแต่นั้นมา

====================

 

11. นครรัฐวาติกัน (Vatican City)
กรุงโรม ประเทศอิตาลี

 

 

     วาติกัน นครแห่งคริสตศาสนาที่แม้จะมีพื้นที่เพียง 0.44 ตารางกิโลเมตร แต่ก็เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมทรงคุณค่ามากมาย และยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุขสูงสุดของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกด้วย

 

     สิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นที่สุดในนครแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) มหาวิหารแห่งนี้สร้างทับวิหารหลังเดิม ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ สาวกท่านสำคัญของพระเยซู รวมถึงศพของพระสันตะปาปาองค์ต่อๆ มาก็จะฝังไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี โบสถ์ซิสติน (Sistine Chapel) สถานที่คัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ และ พิพิธภัณฑ์วาติกัน ที่เก็บรวบรวมศิลปะสำคัญทางคริสตศาสนาตั้งแต่โบราณอีกด้วย

===============