เที่ยวญี่ปุ่น 10 ที่เที่ยวยามากาตะ แหล่งออนเซ็น ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์
ทำความรู้จักกับ ยามากาตะ ที่เที่ยวญี่ปุ่น หนึ่งในจังหวัดแห่ง ภูมิภาคโทโฮคุ ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวัฒนธรรม และธรรมชาติที่หลากหลาย เป็นแหล่งของออนเซ็นขึ้นชื่อ และวัดวาอารามเก่าแก่ที่โอบล้อมไปด้วยทัศนียภาพของขุนเขาที่สวยงาม หากพร้อมแล้ว ตามเราไปเที่ยว 10 ที่เที่ยวยามากาตะ กันค่ะ เชื่อว่าจะต้องถูกใจสายเที่ยวธรรมชาติอย่างแน่นอน
- 12 ที่เที่ยวโทโฮคุ เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวได้ตลอดปี ต้องเช็คอินให้ครบ
- 40 สถานที่สวยใน ญี่ปุ่น ไปเที่ยวญี่ปุ่น คราวนี้อย่าได้พลาด !
รวมพิกัด ที่เที่ยวยามากาตะ ญี่ปุ่น
1. Ginzan Onsen
กินซันออนเซ็น
หากถามถึงหมู่บ้านออนเซ็นที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หลายๆ คนคงนึกถึง กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen 銀山温泉) หมู่บ้านออนเซ็นใน เมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata Prefecture) ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 20 บรรยากาศภายในหมู่บ้านก็ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย มีอาคารสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเรียงรายริมแม่น้ำตลอดทาง ซึ่งเปิดเป็นเรียวกังให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน และแช่ออนเซ็นอุ่นๆ คลายหนาว อีกทั้งยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังและอาการปวดเมื่อยต่างๆ อีกด้วย
อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ที่เที่ยวญี่ปุ่น Ginzan Onsen หมู่บ้านออนเซ็นโบราณ ถ่ายรูปสวย สุดคลาสสิก
nosonjai / Shutterstock.com
พิกัด : https://goo.gl/maps/Y7rtwbno2WuQ8Bbz9
=============
2. ภูเขาซาโอะ
Mount Zao
ชม ปีศาจหิมะ บน ภูเขาซาโอะ (Mount Zaō 蔵王山) เทือกเขาขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง จังหวัดมิยากิ (Miyagi Prefecture) และ จังหวัดยามากายะ (Yamagata Prefecture) พิกัดยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่รักการผจญภัย มีกิจกรรมสุดเอ็กซ์ตรีมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นั่งกระเช้าไฟฟ้าซะโอ (Zao Ropeway) ชมวิวภูเขา เดินป่า และ ปีนปากปล่องภูเขาไฟ แต่ไฮไลท์ในช่วงฤดูหนาวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ปีศาจหิมะ (Snow Monster) หรือ Juhyo ปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์ที่เกิดจากการทับถมของหิมะ พร้อมกับ เทศกาลประดับไฟปีศาจหิมะ (Juhyo Light Up) ที่จะมาสร้างสีสันในยามค่ำคืนตลอดช่วงฤดูหนาวค่ะ
อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ภูเขาซาโอะ Mount Zao ที่เที่ยวญี่ปุ่น ชมปรากฎการณ์ ปีศาจหิมะ สุดแปลกตา
พิกัด : https://goo.gl/maps/RYGgjZsTyeKi9gzJ8
=============
3. Zao Onsen
ซาโอะออนเซ็น
ซาโอะอนเซ็น (Zao Onsen) เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในยามากาตะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาซาโอะ เต็มไปด้วยเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นแบบแท้ๆ พร้อมน้ำพุร้อนออนเซ็นที่มีสรรพคุณในการคลายความเมื่อยล้า และบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี แถมบรรยากาศก็ยังดีมากๆ ด้วยน้า~
=============
4. Yamadera Temple
วัดยามาเดระ
ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดยามากายะจะเป็นที่ตั้งของ วัดยามาเดระ (Yamadera Temple) หรือ วัดริชาคุจิ (Risshakuji Temple 立石寺) วัดเก่าแก่อายุกว่าพันปีของนิกายเทนไดที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 860 ตั้งแต่สมัยเฮอัน โดยเราจะต้องฝ่าบันไดกว่า 1,015 ขั้นเพื่อขึ้นไปยังจุดสูงสุดของวัด ระหว่างทางก็จะพบกับสิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น อุโบสถสีแดงโนเคียวโด ที่ตั้งอยู่ริมผาหิน และ วิหารโกไดโด ที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของวัดนั่นเอง นอกจากนี้แล้ว บนวัดยังมีจุดชมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็น เมืองยามาเดระ ได้จากมุมสูงอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/qx15nE95ZTTyaKyy8
=============
5. Mogami River
ล่องเรือชมวิว แม่น้ำโมกามิ
นั่งเรือชมวิวไปตาม แม่น้ำโมกามิ (Mogami River) แม่น้ำสายยาวที่สุดในจังหวัดยามากาตะ และเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมากที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือบนแม่น้ำ โดยมี 2 เส้นทางหลักๆ คือ Mogami Valley Basho Line Boat Ride และ Mogami River Yoshitsune Adventure Boat Ride บรรยากาศของแม่น้ำจะแตกต่างออกไปในแต่ละฤดู ดื่มด่ำไปกับความเขียวขจีสดชื่นในช่วงฤดูร้อน สีสันของต้นไม้ที่ผลัดใบในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และหิมะสีขาวที่ปกคลุมในช่วงฤดูหนาว
พิกัด : https://goo.gl/maps/gSoN1cnavkF2RtnC7
=============
6. Kamo Aquarium
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium 鶴岡市立加茂水族館) ตั้งอยู่ใน เมืองสึรุโอกะ (Tsuruoka) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงแมงกะพรุนจำนวนมากที่สุดในโลก โดยมีแมงกะพรุนมากถึง 50 ชนิด มีไฮไลท์เป็น Jellyfish Dream Theatre ที่จัดแสดงแมงกะพรุนกว่า 2,000 ตัว พร้อมด้วยการฉายแสงสีเข้าไปในแทงก์ในรูปแบบ Jellyfish Illumination ทำให้เกิดสีสันสวยงามท่ามกลางความมืด เป็นจุดถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ไม่ควรพลาด
พิกัด : https://goo.gl/maps/DPfqmtqqt1gpZSoA9
=============
7. Mount Haguro
ภูเขาฮากุโระ
ภูเขาฮากุโระ (Mt. Haguro 羽黒山) หนึ่งใน 3 ภูเขา หรือที่เรียกกันว่า เดวะซันซัง (Dewa Sanzan) ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในจังหวัดยามากาตะ ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า ซึ่งเป็นที่สถิตของเทพเจ้าญี่ปุ่น และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ รวมถึง เจดีย์ห้าชั้นฮากุโระซัง โดยทางเดินขึ้นสู่ยอดเขานั้นจะต้องฝ่าบันไดขึ้นไป 2,446 ขั้น สำหรับใครที่เดินไม่ไหว ก็สามารถนั่งรถขึ้นไปยังยอดเขาได้เช่นกันค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/wxPfL2rNaRqTmA5T9
=============
8. พิพิธภัณฑ์ Bunshokan
Dpongvit / Shutterstock.com
Yamagata Local Museum Bunshokan (山形県郷土館「文翔館」) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Bunshokan เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดยามากายะ โดยมีส่วนของนิทรรศการหลัก รวมไปถึงหอศิลป์ที่มีไว้สำหรับจัดงานนิทรรศการหมุนเวียนต่างๆ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1916 ด้วยสถาปัตยกรรมฟื้นฟูเรเนสซองส์ (Neo-Renaissance Style) ซึ่งมีความหรูหรา และบ่งบอกถึงอารยธรรมตะวันตกในช่วงยุคไทโช (Taishō era 1912-1926) ได้เป็นอย่างดี
พิกัด : https://goo.gl/maps/HsN2oyiKAtimRG419
=============
9. Sankyo Warehouse
โกดังซันเคียว
โกดังซันเคียว (Sankyo Warehouse 山居倉庫) เป็นโกดังเก็บข้าวขนาดใหญ่ในเขตเมืองซากาตะ (Sakata) ที่ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โกดังมีทั้งหมด 12 หลัง สามารถเก็บได้มากที่สุดถึง 10,800 ตัน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1893 และยังคงใช้งานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะได้ไปศึกษาเกร็ดความรู้ที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ข้าวโชไน แล้ว ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก และสินค้าต่างๆ ของจังหวัดยามากาตะที่น่าสนใจอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/G3Euptq6SK9YJ5M56
=============
10. Kajo Park
สวนสาธาระคะโจ
สวนสาธารณะคะโจ (Kajo Park 霞城公園) จุดชมซากุระบานอันเลื่องชื่อของยามากาตะ เดิมเป็นที่ตั้งของ ปราสาทยามากาตะ ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1356 แต่ก็ได้ถูกทำลายไปหลายส่วนตามกาลเวลา ภายหลังก็ได้มีการพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นแหล่งพักผ่อนชั้นยอดของเมืองค่ะ