นั่งรถไฟเที่ยวญี่ปุ่น ชมวิวนากาโนะ แดนสวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่เราอยากให้มาด้วยกัน
จะว่าไปแล้ว ชื่อของจังหวัด นากาโนะ (หรือนากาโน่) นั้นก็เฉี่ยวไปมาอยู่ในใจเราทุกครั้งเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นเสมอๆ เพราะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโตเกียวซักเท่าไหร่ แถมถ้าดูในแผนที่แล้วเรียกได้ว่าแทบจะอยู่กลางประเทศญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำไป แต่ช่างน่าน้อยใจแทนนากาโนะเหลือเกิน ที่เราไม่เคยคิดจะไปเลย...
ถามว่าทำไม ก็เพราะว่าที่เที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ ส่วนใหญ่มันเป็นสกีรีสอร์ทน่ะสิ สายกีฬาฤดูหนาวเขาน่าจะชอบกัน แล้วสายกิน สายเที่ยวถ่ายรูปชิลชิลอย่างเราน่ะรึ ฝันไปเถอะ
แต่โทษทีเถอะ พอเราได้ดู MV เพลง "อยากให้มาด้วยกัน" (ใครยังไม่ได้ดู เดี๋ยวแปะไว้ให้ข้างล่างนะ) ก็นับว่าพลิกความรู้สึกที่มีต่อนากาโนะไปเหมือนกัน ดูละมุนละไมใจหายมากกว่าที่คิด จนรู้สึกผิดที่เคยมองข้ามที่นี่ไป เลยอยากหาเวลาไปตามรอยที่เที่ยวให้ได้ซักครั้ง ส่วนใครไม่ได้จะตามรอยก็อยากแนะนำให้ไปเหมือนกันครับ เพราะที่นี่มีความดีงามตามธรรมชาติแท้ๆ อยู่ จังหวะของเมืองที่ไม่เร่งรีบเท่าเมืองใหญ่ และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันกว้างใหญ่ไพศาล ใครพร้อมแล้วไปเริ่มต้นเดินทางพร้อมๆ กันได้เลย
1. Resort View Furusato รถไฟขบวนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
เริ่มต้นทริปนี้ ถ้าอยากนั่งรถไฟสายเดียวกันกับน้องแจนจัง และน้องเอิ๊ตแล้วล่ะก็ จู่ๆ จะโดยสารด้วยรถไฟสาย JR ปกตินั้นไม่ได้หรอกหนา เพราะขบวนที่เขานั่งกันนั้นมันคือขบวน Resort View Furusato ที่จะวิ่งแค่จากสถานีนากาโนะ - สถานีมินามิโอทาริ เท่านั้น แล่นขนานไปตามเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ชมวิวทิวทัศน์ชนบทให้สมกับชื่อรถไฟนั่นเอง (Furusato แปลว่า บ้านเกิดในชนบทครับ)
ด้วยความที่เป็นรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ กระจกรถไฟเลยจะกว้างเป็นพิเศษ เห็นวิวได้กว้างกว่ารถทั่วไป แถมยังวิ่งแบบช้าๆ เนิบๆ วิ่งอ้อมกว่าขบวนปกติด้วยเอ้า แต่ก็อย่างว่า นั่งขบวนนี้ต้องไม่รีบครับ เน้นกินลมชมวิว ดื่มด่ำบรรยากาศระหว่างทางอย่างเต็มที่
สามารถจองที่นั่ง Resort View Furusato ผ่านทางออนไลน์ได้ ที่นี่
เริ่มต้นจะออกจากสถานี JR Nagano Station ตลอดเส้นบนรถไฟสาย Resort View Furusato จะคอยจอดพักให้เราได้แวะลงไปทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งชมวิว ชิมอาหารท้องถิ่น ถ่ายภาพ ทัวร์ศาลเจ้า และอีกมากมาย โดยยกตัวอย่างไฮไลท์ เช่น
- JR Obasute Station 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นที่สถานีโอบาสุเตะ เราจะมองเห็นวิวของหมู่บ้านชนบทเบื้องล่างแบบไกลสุดลูกหูลูกตา
- Hotaka Jinja รถไฟจะจอดแวะพักที่สถานี Hotaka ประมาณ 30 นาทีได้ มีเวลาให้แวะไปเยี่ยมชม ศาลเจ้าโฮทากะ จินจะ เดินจากสถานีรถไฟแค่ 3 นาทีเท่านั้น ทั่วทั้งศาลเจ้านี้จะเต็มไปด้วยต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ บางต้นอายุอานามเป็นร้อยๆ ปี ใครได้แวะมาสักการะรับรองได้พลังชีวิตเติมกลับไปอย่างเต็มเปี่ยม
2. Hakuba Valley เขาฮาคุบะ แดนหิมะแห่งนากาโน่
อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนต้นครับ ว่าที่นี่เขาเรียกกันว่าเป็นแดนสวรรค์ของนักเล่นสกี และนักปีนเขา ด้วยความที่เขาฮาคุบะนั้นอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมาก ทำให้มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นคอสกีขนาดนั้น จะมาเที่ยวช่วงฤดูอื่นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน โดยนั่ง Ropeway หรือกระเช้าสลิงที่สูงหวาดเสียวแต่สวยมาก ข้างบนก็จะมีทั้งคาเฟ่ มีทางปั่นจักรยาน ทางเดินเทรล ที่พักแคมป์ปิ้ง ฯลฯ ที่สำคัญคือวิวอลังการมากกก แต่แปลกที่ถ้ามาเดินเขาช่วงหน้าร้อนคนจะน้อย เข้าใจว่าคนญี่ปุ่นเขาจะมากันเยอะช่วงหน้าหนาวมากกว่า
เตือนไว้นิดว่าใครแพลนว่าจะขึ้นไปชมวิว แล้วกลับลงมาช่วงเย็น ขอให้เช็ครอบกระเช้า เช็ครอบรถไฟให้ดีๆ นะครับ เขามีรอบของเขาอยู่ ลงไม่ทันล่ะซวยเลย ส่วนใครจองที่พักรีสอร์ทบนนี้ไว้เรียบร้อยก็ชิลกันต่อตามสบายเลยครับ
3. Hakuba Mountain Harbor
จุดชมวิวที่น่าสนใจบนเขาฮาคุบะ ยังมีที่ Hakuba Mountain Harbor ที่จะอยู่ในรีสอร์ท Iwatake ski resort อีกทีหนึ่งครับ ตรงนี้จะเป็นทั้งคาเฟ่ และจุดชมวิวในที่เดียวกัน โดยจะมีเป็นเทอเรซยื่นออกไปให้เห็นวิวชัดๆ เราจะได้นั่งเอ็นจอยกับขนมเค้ก เครื่องดื่ม และวิวหุบเขาไปพร้อมกัน แถมในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่ต่างกันออกไปด้วยครับ โดยส่วนตัวคิดว่าถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีล่ะก็สวยสุดแน่ๆ ตรงนี้ยังเป็นจุดที่คู่แต่งงานนิยมมาถ่ายพรี-เวดดิ้งกันด้วย
- Hakuba Mountain Harbor เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 - 16.00 น.
- พิกัด :
4. Snow Peak Field Suite Hakuba Kitaone Kogen
และก็มาถึงตำแหน่งสุดท้ายกันแล้ว ใครจองที่พักที่นี่ไว้บอกเลยว่าทริปวันนี้ของคุณจะคอมพลีทขั้นสุด เพราะมันคือที่พักแบบนอนเต็นท์ แคมป์ปิ้งรอบกองไฟท่ามกลางหุบเขากันเลยคุณ! บรรยากาศดีเวอร์ ก็จะมีที่พักให้เลือกหลายแบบ หลายราคา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้องน้ำห้องท่าสะอาดเอี่ยม มีห้องอาหาร มี wifi ฯลฯ เรามีหน้าที่เพียงพักผ่อน และเก็บบรรยากาศดีๆ เอาไว้เท่านั้นครับ
เข้าไปดูรูป และรายละเอียดของที่พักเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ครับ (ภาษาอังกฤษ)
- พิกัด :
===============
เป็นอันครบถ้วนกระบวนความ สำหรับทริปเที่ยวนากาโน่ ที่แพลนได้ทั้งแบบวันเดียวกลับ หรือจะนอนค้างบนเขาสักหนึ่งคืนก็เข้าท่าครับ ช่วงพีคที่สุดของการท่องเที่ยวที่นี่จะเป็นตอนฤดูหนาว ใครชอบบรรยากาศคึกคัก ดูหิมะเพลินๆ ก็มาช่วงนี้ได้ หรือถ้าอยากไปแบบเที่ยวสบายๆ ก็ลองช่วงอื่นดู แต่ไม่ว่าจะมาตอนไหน นากาโนะก็สวยแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก เอิ๊ต ภัทรวี
ปล. สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของ 2 สาวแล้วล่ะก็ ผมจะแถมตามรอยร้านโซบะให้อีก 1 ร้าน (ใครไม่ได้เป็นแฟนคลับ แต่หิวก็ไปได้นะ) อยู่ไม่ไกลจากสถานีนากาโนะนัก ชื่อว่าร้าน Togagushi Soba ที่น้องๆ recommended ไว้ตอนที่มารายการ Intrend บันเทิง (ช่วงประมาณนาทีที่ 32 ลองกดไปฟังกันได้ ) ในร้านก็จะมีเมนูโซบะร้อน/เย็น เกี๊ยวซ่า เทมปุระ ฯลฯ แปะพิกัดไว้ให้ข้างล่างนี้นะครับ ลงมาจากสถานี JR Nagano แล้วเดินอีกนิดก็เจอเลย ส่วนจะอร่อยขนาดไหน ลองไปพิสูจน์กันเองได้
===============
ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วน : Muzik Move Records
เรื่องอื่นที่คุณอาจสนใจ
- คุยฟุ้งเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นกับแจนจัง และพิมฐา รายการ Hey Say Go!
- ปักหมุด 5 สถานที่ใน Anata to Christmas Eve เก็บความทรงจำของแจนจัง
- ทริปญี่ปุ่น ตามรอยทีม A-flow จากฮอกไกโดถึงเกียวโต !