รีเซต

12 วิธีแก้ Jet Lag วิธีป้องกัน เมื่อขึ้นเครื่องบินนานๆ รู้แล้ว! เที่ยวได้สบาย

12 วิธีแก้ Jet Lag วิธีป้องกัน เมื่อขึ้นเครื่องบินนานๆ รู้แล้ว! เที่ยวได้สบาย
เอิงเอย
26 มิถุนายน 2566 ( 13:48 )
1.4K

      ใครที่ขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ ต้องอยู่บนไฟล์ทที่มีชั่วโมงบินนานๆ อาการ Jet Lag ตามมาแน่นอนค่ะ เพราฉะนั้น ตามเรามาดู วิธีป้องกัน และ วิธีแก้ Jet Lag ที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเดินทางไกลๆ ทริปหน้าจะได้เตรียมตัวก่อนเดินทาง ให้ทริปสนุกไม่ต้องสะดุดกันตามนี้เลยค่ะ!

 

วิธีแก้ Jet Lag นั่งเครื่องบินนานๆ ต้องทำยังไง

 

Jet Lag คืออะไร

      เจ็ตแล็ก (Jet Lag) คือ ความผิดปกติของการนอนที่เกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อเราเดินทางข้ามเขตเวลา (Time Zone) ที่ต่างกัน เนื่องจาก ร่างกายของเรายังปรับให้สอดคล้องกับเวลาในสถานที่ใหม่ที่เราอยู่ยังไม่ได้ เพราะเคยชินกับสภาพแวดล้อมเดิมอยู่ มักทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้น เช่น เหนื่อยล้า นอนหลับยาก หงุดหงิดง่าย มีอาการมึนงงอาจจะเกิดความวิตกกังวล และซึมเศร้า และมักมีปัญหาการย่อยอาหาร ค่ะ 

 

 

      ความรุนแรงของอาการเจ็ตแล็กนั้นจะขึ้นอยู่กับโซนเวลาที่ข้าม ทิศทางการเดินทาง และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ สุขภาพ และการนอนหลับของแต่ละคน ซึ่งปกติแล้วอาการเจ็ตแล็กมักจะหายได้เอง แต่ถ้าเกิดขึ้นอย่างยาวนาน หรือต้องเดินทางข้ามเขตเวลาบ่อยๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ

 

วิธีป้องกัน Jet Lag

 

 

  1. แต่งตัวสบายๆ สวมเสื้อผ้าที่หลวมๆ ไม่รัดรูป

    เมื่อต้องเดินทางขึ้นเครื่องบินเป็นเวลานานๆ เรามักจะต้องนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานกว่าปกติในสถานที่จำกัด ดังนั้นเราจึงควรจะได้นั่งอย่างสบายที่สุด การสวมรองเท้าก็เช่นเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องปกติที่เท้า มือ และหน้าของเราจะบวมเมื่ออยู่ในที่สูง ดังนั้น คุณผู้หญิง ก็ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าหัวแหลมที่ฟิตมากๆ ไปก่อนค่ะ

  2. ปรับตารางการนอนก่อนการเดินทาง
    หากจะกำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่อยู่ห่างออกไปหลายเขตเวลา ให้ลองปรับตารางการนอนก่อนออกเดินทางสัก 2-3 วัน ดูค่ะ เพื่อให้ใกล้กับเขตเวลาของจุดหมายปลายทางมากขึ้น เลื่อนเวลาหลับให้ช้าออกไป พยายามทำตัวให้กระฉับกระเฉงต่อจากเวลานอนปกติไปสัก 2-3 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการ Jet Lag ลงได้

  3. ดื่มน้ำมากๆ
    ก่อนเครื่องบินจะขึ้นและระหว่างที่อยู่ในเครื่องบิน อากาศจะแห้งมากขึ้น พยายามดื่มน้ำเปล่ามากๆ ภาวะขาดน้ำอาจทำให้อาการเจ็ตแล็กแย่ลงได้ อีกทั้งยังควรงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่ทำให้ปัสสาวะบ่อย เพราะจะทำให้ร่างกายของเราสูญเสียน้ำมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ก็จะรบกวนการนอนหลับได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงระหว่างเที่ยวบิน

  4. พกสิ่งของที่ต้องใช้ติดตัวไว้
    เช่น พกโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ขี้ผึ้งสำหรับทาปาก และยาหยอดไม่ให้ตาแห้งไว้ในกระเป๋าถือ มาสก์ให้ความชุ่มชื้นผิวหน้าเวลานอน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้ที่เดินทางบ่อยๆ

  5. ขยับแขนขา
    การไม่เคลื่อนไหว บวกกับการสูญเสียน้ำสามารถทำให้เกิด ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (DVT) ได้ ซึ่งเป็นภาวะที่เลือดจับตัวเป็นก้อนในหลอดเลือดดำที่ขาส่วนล่าง ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อต้องโดยสารเครื่องบินระยะทางไกลๆ นี่คือเหตุผลที่จำเป็นต้องมีการบริหารร่างกายแบบง่ายๆ และให้ขาได้เคลื่อนไหวในขณะที่อยู่บนเครื่องบินบ้างนั่นเองค่ะ

    วิธีง่ายๆ ใช้เราหมุนข้อเท้า โดยเหยียดส้นเท้าและปลายเท้าสลับกัน และยกหัวเข่าขึ้นในขณะที่นั่งอยู่เป็นเวลา 2-3 นาที ทำอย่างนี้ทุกครึ่งชั่วโมง ให้เกร็งกล้ามเนื้อขาด้วย และลุกขึ้นเดินไปมาตามทางเดินบ้างเพื่อให้เลือดหมุนเวียน

  6. เมาเครื่องบิน
    ถ้าเป็นคนเมาเครื่องบินหรือรู้สึกวิงเวียนได้ง่าย แนะนำว่าควรเลือกที่นั่งริมหน้าต่างส่วนปีกเครื่องบิน และควรรับประทานยากันเมาก่อนเครื่องขึ้นครึ่งชั่วโมง ยาแก้เมาจะทำให้ง่วงและหลับสบายรู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่หมายแล้ว ทำให้การเมาเครื่องบินไม่ใช่ปัญหาของการไปเที่ยวอีกต่อไป

  7. อย่ารับประทานอาหารมากเกินไป
    สำหรับคนที่ชอบทานอาหารบนเครื่องบินและดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลม ถ้าเผลอทานมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการท้องอืดและอึดอัดได้ ควรทานแต่พอดี จะได้ไม่ต้องนั่งทรมานนั่งปวดท้องจนถึงที่หมาย

  8. นำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องเท่าที่จำเป็น
    กระเป๋าขนาดเล็กที่เราถือขึ้นเครื่องบิน 1 ใบ กระเป๋าใบนี้ต้องไม่ใหญ่โตจนเกินไป เพราะเราจะต้องวางไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า ทำให้มีที่วางเท้า มีที่พอจะขยับตัว และไม่เกะกะผู้โดยสารคนอื่นๆ ด้วย

  9. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์บนเครื่องบิน

  10. หลีกเลี่ยงการขึ้นเครื่องบินภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากดำน้ำ

  11. อย่าตื่นนอนบนเครื่องบินและลุกขึ้นยืนทันที
    การตื่นนอนบนเครื่องบินและลุกขึ้นยืนทันที บางคนจะมีอาการเวียนศีรษะหรือหน้ามืด อาจเกิดจาก ออกซิเจนที่น้อยลงบนเครื่องบิน การนอนในที่จำกัดหรือการดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับคำแนะนำก็คือ เมื่อเวลาตื่นขึ้นมาอย่าลุกขึ้นยืนทันที ให้ออกกำลังกายเบาๆ ยืดเหยียดแขนขาสักนิกตรงที่นั่งก่อน

  12. รับแสงแดดบ้าง
    การเปิดรับแสงแดดธรรมชาติ สามารถช่วยรีเซ็ตนาฬิกาภายในของเราได้ ดังนั้น เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ลองใช้เวลาข้างนอก ในช่วงกลางวัน จะทำให้ร่างกายของเราปรับตัวได้เพิ่มมากขึ้น

 

 

เรื่องน่ารู้อื่นๆ