รีเซต

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ยุคกลาง ยุคเก่า มีอะไรบ้าง มรดกโลกที่ต้องไปเห็นสักครั้ง

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ยุคกลาง ยุคเก่า มีอะไรบ้าง มรดกโลกที่ต้องไปเห็นสักครั้ง
เอิงเอย
6 กันยายน 2566 ( 10:37 )
889.4K
2

     7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือ 7 Wonders คือ สิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่ และโดดเด่นที่สุดในโลกซึ่งจะมีทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน และมีมานานหลายยุคหลายสมัยแล้วค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่เหล่านั้นจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์สำคัญของโลกอีกด้วย และนอกจากสิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่แล้ว เรามาเท้าความไปถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคก่อนกันด้วยค่ะว่า มีที่ไหนบ้าง 

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน

ชมแบบคลิป

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

      New 7 Wonders of the World หรือ สิ่มหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ โดยองค์กรของสวิตเซอร์แลนด์ The New Open World Corporation (NOWC) สรุปสุดท้ายได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2550 ที่ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ได้แก่สถานที่ต่างๆ ดังนี้ค่ะ

 

1. ชิเชน อิตซา Chichen Itza : เม็กซิโก

 

 

      ชิเชนอิตซา (Chichen Itza) เป็นภาษามายา แปลว่า ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก เป็นแหล่งโบราณคดีที่สร้างขึ้นโดยชาวมายันซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้า

 

 

     ชิเชนอิตซา มีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมลดขั้นเป็นชั้นๆ ดูไปดูมาคล้ายๆ กับพีระมิดที่อิยิปต์ แต่การสร้าง และวัสดุนั้นต่างออกไป ที่นี่มีพื้นที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร วิหารที่ใหญ่สุดมีชื่อว่า วิหารแห่งนักรบ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังจากสร้างวิหารเก่าแห่งชักโมล ตรงกลางสร้างเป็นปราสาทเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป ใช้เป็นที่ทำพิธีสังเวยเทพเจ้าโดยใช้เด็กสาวโยนลงไปถวายเทพเจ้า ณ ที่นั้น นอกจากนี้ในส่วนของพีระมิดแห่งเทพเจ้าคูคุลคาน ซึ่งถือเป็นพีระมิดแห่งสุดท้าย และเป็นพีระมิดที่กล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของอารยธรรมมายาด้วย

 

====================

 

2. คริชตู เรเดงโตร์ 

Cristo Redentor หรือ Christ the Redeemer : บราซิล

 

 

       รูปปั้นพระเยซูคริสต์ (Christ the Redeemer) ตั้งอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู ประเทศบราซิล นอกจากจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายถึงศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เมือง ริโอ เดอ จาเนโร โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก Christ the Redeemer บราซิล


       รูปปั้นพระคริสต์นี้มีความสูงถึง 38 เมตร ได้รับการออกแบบโดยเอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา ชาวบราซิล และสร้างโดยปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝรั่งเศสถึง 5 ปีด้วยกัน ที่นี่ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบราซิลอีกด้วย ทำให้ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ราว 1.8 ล้านคนทีเดียว

 

  • ที่ตั้ง : Parque Nacional da Tijuca - Alto da Boa Vista, Rio de Janeiro - RJ, Brazil
  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cFKdpE7S86xsoNpFA
  • แผนที่ :

====================

 

3. กำแพงเมืองจีน Great Wall of China : จีน

 

 

      กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) นี้สร้างขึ้นจีน สมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกล และเติร์กในอดีต และหลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน มีความยาวทั้งสิ้นกว่า 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา

       ความยิ่งใหญ่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานนี่เอง ทำให้กำแพงเมืองจีนนอกจากจะเป็น 1 ใน 7 มหัศจรรย์ของโลกแล้ว ยังเป็น 1 ในมรดกโลก ที่องค์กร UNESCO คัดเลือกอีกด้วย

 

 

====================

 

4. มาชูปิกชู Machu Picchu : เปรู

 

 

       เมืองสาบสูญแห่งอินคา หรือ มาชูปิกชู (Machu Picchu) แห่งนี้ เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,350 เมตร ที่ตั้งของเมืองนี้ค่อนข้างกันดาร ยากที่จะเข้าถึง เพราะตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอนดิส ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน และอยู่เหนือแม่น้ำอุรุบัมบา

      หลังจากอาณาจักรอินคาล่มสลายจากการพ่ายแพ้สงครามให้กับชาวสเปน และโรคระบาด เมืองแห่งนี้ก็ได้หายสาบสูญไปกว่า 3 ศตวรรษ และได้ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอเมริกัน ไฮแรม บิงแฮม ในปี ค.ศ.1911

 

 

       นอกจากนี้ มาชูปิกชู เป็นหลักฐานที่สำคัญของจักรวรรดิอินคา องค์กร UNESCO จึงได้กำหนดให้ มาชูปิกชูเป็นมรดกโลก โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปศึกษาประวัติศาสตร์

 

  • ที่ตั้ง : Peru
  • เปิดให้เข้าชม : ติดต่อเจ้าหน้าที่ และไกด์ท้องถิ่น
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/4cP8MPAUvvrjKUNW9
  • แผนที่ :

====================

 

5. นครเพตรา Petra : จอร์แดน

 

 

       นครเพตรา (Petra) ซ่อนตัวอย่างลึกลับใน หุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซี กับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน นครนี้ในสมัยโบราณนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ เป็นเมืองหลวงของ ชนเผ่านาบาเชียน ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนในสมัยก่อน และถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี ซึ่งได้ถูกค้นพบโดย นักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โจฮันน์ ลุควิก เบิร์กฮาร์ท ในปี ค.ศ. 1812

 


       ชาวนาบาเชียนสร้างเมืองแห่งนี้โดยใช้วิธีการแกะสลักหินให้เป็นช่องอุโมงค์ โรงละครของเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงละครแบบกรีก-โรมัน ส่วนหน้าของวิหารเอล เดียร์ ซึ่งสูง 42 เมตร ในเมืองแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีอีกแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมแบบกรีกโบราณ ทำให้นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528

 

  • ที่ตั้ง : Jordan
  • เปิดให้เข้าชม : 06.00-16.00 น. ในช่วงฤดูหนาว และ 06.00-18.00 น. ในช่วงฤดูร้อน
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/3FBeDLM2pP4qVeHm7
  • แผนที่ :

====================

 

6. โคลอสเซียม Colosseum : อิตาลี

 


       โคลอสเซียม (Colosseum) เป็นสนามกีฬาโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในขณะนั้น สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมนี้ เริ่มสร้างขึ้นใน สมัยจักรพรรดิเวสเปเซียน แห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ใช้เวลาการก่อสร้างถึง 10 ปีด้วยกัน

      ที่แห่งนี้มีห้องสำหรับขังทาส นักโทษ และสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต เสือ โดยจะให้ทาสสู้กันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว หรือให้สู้กับสิงโต เพื่อเป็นความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ผู้ที่รอดตายจากการต่อสู้จึงจะได้รับอิสรภาพ

 


       โคลอสเซียม เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐ และหินทราย วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาด โดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตกอีกด้วย โคลอสเซียมจึงกลายเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน

 

  • ที่ตั้ง : Piazza del Colosseo, 1, 00184 Roma RM, Italy
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-19.00 น.
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/QLnUN3JSzPnnfRHk6
  • แผนที่ :

====================

 

7. ทัชมาฮาล Taj Mahal : อินเดีย

 

 

      สุสานหินอ่อน ทัชมาฮาล (Taj Mahal) แห่งนี้ ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล ผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์

 

 

      ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ใน เมืองอัครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด รวมถึงยังได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างชั้นเลิศของสถาปัตยกรรมมุฆัลในอินเดีย ที่นี่ต้องใช้แรงงานในการก่อสร้างถึง 20,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างถึง 20 ปี

 

  • ที่ตั้ง : Dharmapuri, Forest Colony, Tajganj, Agra, Uttar Pradesh 282001, India 
  • เปิดเข้าชม : 08.00-18.00 น.
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/o7ZTLigsJ2LpwVUE7
  • แผนที่ :

====================

 

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคอื่นๆ ในอดีต

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

(อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ --> ที่นี่)

 

 

  1. มหาพีระมิดแห่งกีซา มหาพีระมิดของกษัตริย์คูฟู ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อนคริสตกาล หรือเก่าแก่กว่านั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เก่าแก่ที่สุด และยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบัน

  2. สวนลอยแห่งบาบิโลน สวนลอยเสมือนความฝันแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้าเนบูคาดเนสซาร์ที่ 2 เมื่อศตวรรษก่อนคริสตกาลที่ 6 ปัจจุบันไม่ปรากฏหลักฐานหรือซาก แต่คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณเดียวกับกรุงบาบิโลนในประเทศอิรัก

  3. เทวรูปซูสที่โอลิมเปีย ตั้งอยู่ในประเทศกรีซ สร้างเมื่อประมาณ 462 ปีก่อนคริสตกาล มีความสูง 12 เมตร ภายหลังถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดสิ้น

  4. วิหารอาร์เทอมีส ตั้งอยู่ที่เอเฟซุสในเอเชียไมเนอร์ หรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษก่อนคริสตกาลที่ 4 ภายหลังถูกทำลายโดยพวกโกธส์จากเยอรมันที่บุกเข้ามาโจมตี เมื่อปี พ.ศ. 805

  5. สุสานแห่งฮาลิคาร์นัสเซิส สร้างโดยพระราชินีอาร์เทมิเซีย เป็นอนุสรณ์สถานแก่กษัตริย์มอโซลุสแห่งคาเรียที่สวรรคตเมื่อ 353 ปีก่อนคริสตกาล ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหว

  6. เทวรูปโคโลสซูส ตั้งอยู่ในทะเลเอเจียน ประเทศกรีซ เป็นรูปสำริดขนาดใหญ่ของสุริยะเทพ หรือเฮลิออส สูงประมาณ 32 เมตร ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวหลังการสร้างเพียง 60 ปี

  7. ประภาคารฟาโรส แห่งอเล็กซานเดรีย ตั้งอยู่ที่ประเทศอียิปต์ สมัยพระเจ้าปโตเลมี ประมาณ 271 ปีก่อนคริสตกาล ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงเมื่อแผ่นดินไหวในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

(อ่านเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ --> ที่นี่)

 

 

  1. โคลอสเซียม สนามกีฬาแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี สนามกีฬากลางแจ้งขนาดมหึมา สร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส และกลายมาเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในยุคปัจจุบัน

  2. หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย สุสานใต้ดินเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ยังไม่ปรากฏว่าสุสานแห่งนี้ใครเป็นผู้สร้าง สร้างไว้ให้ผู้ใด และสร้างไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

  3. กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน กำแพงอิฐที่มีความยาวที่สุดในโลก เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ สำหรับป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ

  4. สโตนเฮนจ์ ในอังกฤษ กองหินลึกลับที่ยังคงหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ว่าใครเป็นผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วง 2,000 – 3,000 ปีก่อนคริสตกาล

  5. เจดีย์กระเบื้องเคลือบ เมืองนานกิง ประเทศจีน สร้างขึ้นเมื่อคริสตศตวรรษที่ 15 สมัยราชวงศ์หมิง เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมจำนวน 9 ชั้น ความสูงประมาณ 79 เมตร ตัวเจดีย์สร้างด้วยอิฐและกระเบื้องเคลือบ 

  6. หอเอนเมืองปิซา ประเทศอิตาลี เริ่มก่อสร้างปี ค.ศ. 1173 แต่เมื่อสร้างถึงชั้นที่ 3 ฐานด้านหนึ่งของหอเริ่มมีการยุบตัว สถาปนิกจึงพยายามสร้างต่อโดยให้หอเอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อถ่วงสมดุล

  7. ฮาเกียโซเฟีย แห่งคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือ กรุงอิสตันบูล) ประเทศตุรกี มหาวิหารสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ ที่เคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเกือบพันปี