รีเซต

ทริปขับรถเที่ยวญี่ปุ่น วนรอบภูเขาฟูจิ แวะทะเลสาบทั้ง 5 ปรับวันเวลาตามชอบใจ

ทริปขับรถเที่ยวญี่ปุ่น วนรอบภูเขาฟูจิ แวะทะเลสาบทั้ง 5 ปรับวันเวลาตามชอบใจ
Muzika
7 เมษายน 2566 ( 16:41 )
28K
1

     หนึ่งในทริปเดินทางที่คนรักภูเขาฟูจิน่าจะต้องชอบกันแน่ๆ เพราะเป็นการเดินทางที่เราจะได้ชมวิวรอบๆ ในมุมที่หลากหลาย นั่นคือ การขับรถเที่ยววนรอบภูเขาฟูจิ  แวะทะเลสาบทั้ง 5 นั่นเอง ที่หากไม่ได้เดินทางด้วยตัวเองแล้วล่ะก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้แน่ๆ อันที่จริงการเดินทางด้วยรถบัสในญี่ปุ่นก็ค่อนข้างจะสะดวกอยู่แล้ว แต่สำหรับแพลนทริปนี้อยากเชียร์ให้ลองเช่ารถขับกันดู เพราะเราจะสามารถบริหารเวลาด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่ ชอบตรงไหนเป็นพิเศษจะแวะนานหน่อยก็ได้ เป็นโอกาสดีที่จะได้สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ ตามแบบฉบับของเราเองโดยแท้

 

 

เส้นทางขับรถเที่ยวรอบภูเขาฟูจิ ชมทะเลสาบชื่อดังทั้ง 5 (Fuji Five Lakes)

ส่วนลด ประกันภัยเดินทาง
ทั้งในและต่างประเทศ

undefined

ข้อควรรู้ก่อนขับรถเที่ยวญี่ปุ่น

  • ที่ญี่ปุ่นขับรถพวงมาลัยขวา
  • ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง และต้องใช้ที่นั่งนิรภัยสําหรับเด็กอายุต่ำกว่าหกปี 
  • ที่ญี่ปุ่นนั้นมีการจำกัดความเร็วอย่างเข้มงวด
  • ที่ญี่ปุ่นมีปั๊มน้ำมัน 2 แบบ ทั้งแบบมีพนักงานเติมให้ และแบบที่เราต้องเติมเอง (จะมีคำว่า セルフ กำกับอยู่)
  • นำใบขับขี่สากลติดตัวไว้เสมอ ปฏิบัติตามกฎ และข้อบังคับในท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด
  • ข้อมูลด้านการเช่ารถ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ แนะนำการเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น เช่าที่ไหนได้บ้าง?

 

 

     ด้วยยอดเขาที่งดงาม ทะเลสาบที่ใสสะอาด และศิลปวัฒนธรรมโบราณที่อยู่รอบๆ ฟูจิ ทำให้การเดินทางมาเที่ยวแถบนี้เป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ถึงขนาดมีคำพูดในญี่ปุ่นว่า ควรจะได้มีโอกาสขึ้นไปยังยืนยอดเขาไฟฟูจิอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต รวมถึงทะเลสาบทั้ง 5 ที่จะมี ยามานากะโกะ คาวากุจิโกะ  ไซโกะ โชจิโกะ และโมโตสุโกะ ทั้งหมดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในฐานะองค์ประกอบของภูเขาไฟฟูจิ

 

 

     นอกเหนือจากทะเลสาบทั้ง 5 แล้ว ทริปนี้ยังมีที่เที่ยวเจ๋งๆ น่าแวะมากมาย นับแล้วเป็นการเที่ยวใน 2 จังหวัด กับ 12 จุดท่องเที่ยวน่าสนใจ โดยเราจะนับจุดเริ่มต้นที่ สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko station) เพราะเป็นจุดที่เราจะมารับรถเช่าได้สะดวกที่สุดนั่นเอง (แนะนำให้จองรถทางออนไลน์มาล่วงหน้าได้เลย) ที่สำคัญคือเราเริ่มมองเห็นภูเขาฟูจิได้ ตั้งแต่ตรงนี้จนจบทริปเลย (ถ้าบรรยากาศหรือฟ้าฝนเป็นใจในทุกๆ วัน) สำหรับทริปนี้จะขอยกตัวอย่างเส้นทางการขับแบบวนขวา ตามเข็มนาฬิการอบภูเขานั่นเอง

 

12 ที่เที่ยวรอบภูเขาฟูจิ

1. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

 

 

     เริ่มต้นทริปการชมทะเลสาบทั้ง 5 ด้วย ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักมากที่สุด เพราะเดินทางมาถึงง่ายสุดนั่นเอง ไม่ว่าจะรถไฟ หรือรสบัส ที่ล้วนเชื่อมตรงไปถึงโตเกียวเลย แถมยังเป็นเมืองตากอากาศที่มีสถานที่ท่องเที่ยว และทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลสาบ ซึ่งภาพฟูจิซังจะน่าทึ่งเป็นพิเศษในช่วงดอกซากุระบานในเดือนเมษายน อีกทีก็คือฤดูใบไม้ร่วงในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน 

 

2. เจดีย์แดงชูเรโตะ Chureito Pagoda

 

 

     ขับรถจากคาวากุจิโกะเพียงไม่เท่าไหร่ ก็จะถึง เจดีย์ชูเรโตะ ที่ใครหลายๆ คนน่าจะเห็นเป็นประจำตามโปสเตอร์ หรือโบรชัวร์ต่างๆ กลายเป็นภาพจำของประเทศญี่ปุ่นแบบออริจินอล ที่มีทั้งภูเขาฟูจิ เจดีย์สีแดง 5 ชั้น อารมณ์ก็จะแตกต่างตามฤดูที่ไปเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสีก็ตาม เจดีย์นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าอาราคุระ เซนเงน (Arakura Sengen Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบคาวากุจิโกะ ซึ่งการจะขึ้นไปชมวิวนั้นจะต้องผ่านบันได 400 ขั้นไปซะก่อน แต่ถ้าขึ้นไปถึงก็ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อย

 

     ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 705 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้า หลังจากการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิในปี 807 จักรพรรดิได้ส่งทูตมายังศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อทําพิธีกรรมขอให้ภูเขาไฟหยุดการปะทุด้วย ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมศาลเจ้านี้เพื่อขอพรปัดเป่าความชั่วร้าย และอธิษฐานเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของครอบครัว รวมถึงการคลอดบุตรปลอดภัย

 

3. หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai

 

 

     จุดหมายต่อมาคือ Oshino Hakkai หรือที่ชาวไทยเรียกกันว่า หมู่บ้านน้ำใส ที่เมื่อก่อนชาวญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมในการบูชาภูเขาไฟฟูจิ ด้วยการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูเขา แล้วจึงกลับลงมาแสวงบุญตามจุดสำคัญต่างๆ ที่อยู่รอบภูเขา โดยหนึ่งในสถานที่สำคัญก่อนขึ้นยอดเขาก็คือการมาชำระล้างร่างกาย และจิตใจให้บริสุทธิ์ที่นี่นั่นเอง บ่อน้ำแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากหิมะที่ละลายช่วงหน้าร้อน ผ่านหินภูเขาไฟที่มีรูพรุนมากมาย เป็นเหมือนเครื่องกรองน้ำชั้นเยี่ยมตามธรรมชาติ จึงทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ

  • อ่านรีวิวที่นี่แบบเต็มๆ เพลินๆ ได้ที่ เที่ยวหมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ชิมโมจิย่างสุดอร่อย https://travel.trueid.net/detail/kP8wW6ZNOa79

 

4. ทะเลสาบยามานากะโกะ Yamanakako

 

 

     จากหมู่บ้านอีก 10 นาทีกว่าๆ เราก็จะถึง ยามานากะโกะ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 นอกจากนี้ยังเป็นทะเลสาบที่สูงจากระดับน้ำทะเลเป็นอันดับสามในญี่ปุ่นด้วย (ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 980 เมตร) ที่นี่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเล่นกีฬากลางแจ้ง ทั้งพายเรือ ตกปลา สกีน้้ำ วินด์เซิร์ฟ ฯลฯ หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ไม่อยากให้พลาดเลยเป็นการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในทะเลสาบ ชมฝูงหงส์ ที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก

 

5. โกเทมบะ Gotemba

 

MR.Silaphop Pongsai / Shutterstock.com

 

     ต่อมาก็ขับรถต่อชิลๆ อีกประมาณครึ่งชั่วโมง มาที่โกเทมบะ ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟฟูจิใน จังหวัดชิซุโอกะ ใครเป็นสายช้อปปิ้งน่าจะถูกใจที่นี่ เพราะเป็นที่ตั้งของห้างเอาท์เล็ทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชื่อว่า Gotemba Premium Outlets ซึ่งมีแบรนด์ดังกว่า 210 แบรนด์ทั้งจากญี่ปุ่น และต่างประเทศ ร้านส่วนใหญ่รับชำระเงินด้วยบัตรทั้งนั้น รวมถึงมีบริการ Tax Refund สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย จับจ่ายหายห่วงกันได้เต็มที่ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม

 

6. ภูเขาเอจิเซน-ดาเกะ Mount Echizen-dake

 

By Alpsdake - Own work, CC BY-SA 4.0

 

     จากโกเทมบะมาถึงที่นี่จะใช้เวลานานหน่อย ขับรถประมาณชั่วโมงจะมาถึง ภูเขาเอจิเซน-ดาเกะ เส้นทางเดินเขาเพื่อไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์ทางตอนใต้ของฟูจิ ที่เรียกได้ว่าเป็นมุมมองที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยได้เห็นกันซักเท่าไหร่ เพราะแถวๆ นี้นอกจากสวนสัตว์แล้วก็ไม่มีที่เที่ยวอื่นๆ อีกเลย แต่ที่นี่จะเหมาะมากๆ สำหรับใครที่มองหาจุดชมูจิที่คนไม่พลุกพล่าน ได้ใช้เวลาชมความงามอย่างสงบเงียบ ไม่มีภาพของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างมาบดบัง หรือดึงดูดความสนใจจากภูเขาฟูจิ ส่วนใครที่ไม่ใช่สายเดินป่า เดินเขา ก็อาจจะข้ามจุดนี้ไปได้เลยเช่นกัน เพราะใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน (ไป-กลับประมาณ 4 ชั่วโมง) ใครที่ตั้งใจมาเดินก็ควรแพลนให้วันนี้ไปเลย 1 วันเต็มเพื่อความไม่เร่งรีบ

 

7. น้ำตกชิไรโตะ Shiraito Falls

 

 

     น้ำตกชิไรโตะ ในจังหวัดชิซุโอกะ ถือเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในญี่ปุ่น เป็นน้ำที่ไหลมาจากธารหิมะที่ละลายแล้วจากยอดเขาฟูจิ ว่ากันว่าใช้เวลาประมาณ 70 ปีกว่าน้ำจะเดินทางจากยอดเขาก่อนที่จะตกลงมายังจุดนี้ ในวันที่อากาศแจ่มใสเราจะสามารถชมวิวน้ำตกโดยมีฟูจิซังเป็น Background เลย 

 

8. ทะเลสาบทะนุกิโกะ Tanukiko

 

 

     ไม่ไกลจากน้ำตกนัก จะมาถึงทะเลสาบทะนุกิ ที่แม้จะไม่ใช่ 1 ในทะเลสาบทั้ง 5 แต่ก็เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม โดยมีจุดตั้งแคมป์ ตกปลา พายเรือ และมีชื่อเสียงในเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบแห่งนี้เดิมเป็นพื้นที่หนองน้ำ ก่อนจะถูกปรับปรุงในปี 1935 โดยการผันน้้ำจากแม่น้ําชิบะที่อยู่ใกล้เคีย งเพื่อสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้ในการชลประทาน

 

9. ทะเลสาบโมโตสุโกะ Motosuko

 

 

     ทะเลสาบโมโตสุ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลย เพราะที่นี่เป็นที่รู้จักจากภาพภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ด้านหลังของธนบัตร 1,000 เยนของญี่ปุ่นนั่นเอง และยังเป็นทะเลสาบที่มีความลึกมากเป็นอันดับ 9 ในประเทศด้วย ที่นี่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของทะเลสาบทั้ง 5 พื้นที่รอบๆ นี้จะเต็มไปด้วยเป็นรีสอร์ทยอดนิยมที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีจุดเล่นวินด์เซิร์ฟ ที่ตั้งแคมป์ และเรือนําเที่ยวมากมาย

 

จองที่พักทั่วโลกในราคาพิเศษได้ที่นี่

 

10. ทะเลสาบโชจิโกะ Shojiko

 

 

     ทะเลสาบโชจิ เป็นทะเลสาบที่เล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แต่ก็ทดแทนด้วยวิวชมภูเขาที่ไม่เหมือนใคร เพราะจะเห็นวิวภูเขาขนาดเล็กที่ชื่อว่า โอมุโระ ซ้อนทับอยู่ข้างหน้าพอดี ที่นี่จะตั้งอยู่ในเขตของจังหวัดยามานาชิซึ่งมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะนัก และยังอยู่ใกล้ๆ กับเขตของป่าอาโอกิกาฮาระ (Aokigahara) ด้วย ใครเป็นสายตั้งแคมป์ เดินป่าชมธรรมชาติก็อาจแวะพักที่นี่ได้อีกวันเลย

 

11. ทะเลสาบไซโกะ Saiko

 

 

     ทะเลสาบไซโกะ ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 ใกล้กับด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบคาวากุจิโกะ บริเวณนี้มีถ้ำหลายแห่งที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟซึ่งปะทุออกมาในอดีต ที่เด่นๆ ก็เช่น ถ้ำค้างคาว ถ้ำน้ำแข็ง และถ้ำลม

 

12. สวนโออิชิ Oishi Park

 

 

     ในที่สุดทริปนี้เราก็จะวนกลับมาครบรอบการเดินทางรอบภูเขาฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะอีกครั้ง มาแวะที่สวนโออิชิ ตั้งอยู่ทางเหนือของทะเลสาบ และเป็นที่นิยมในด้านของจุดชมวิวที่เราสามารถชมทิวทัศน์มุมกว้างของทะเลสาบ และภูเขาไฟฟูจิได้ ในวันที่อากาศแจ่มใส สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยช่างภาพที่มาเก็บภาพดอกไม้หลากสีสัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา เช่น ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม จะเป็นสีชมพูของต้นฟลอกสมอส ปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม จะเป็นสีม่วงเข้มของทุ่งลาเวนเดอร์ เป็นต้น

 

     หลังจากจบทริปกันแล้ว อย่าลืมว่าทั้ง 12 จุดที่แนะนำไว้นั้นถือเป็นบางส่วนเท่านั้น ที่จริงแล้วรอบๆ ฟูจิยังมีจุดแวะน่าสนใจอีกเพียบ แค่พอดีว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดเท่านั้นเอง ใครอยากไปลองก็เอาแผนนี้ไปปรับเปลี่ยนได้ตามความสนใจ รวมถึงวัน-เวลาตามที่ตั้งใจกันได้เลย

====================