รีเซต

เที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืน กูชิง โกตาบารู เที่ยวจัดเต็ม ครบทุกสไตล์

เที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืน กูชิง โกตาบารู เที่ยวจัดเต็ม ครบทุกสไตล์
SummerB
15 พฤศจิกายน 2565 ( 19:00 )
2.6K

     เมื่อพูดถึง มาเลเซีย หลายคนคงนึกถึง กัวลาลัมเปอร์ และ ปีนัง เป็นอันดับแรกๆ แต่สำหรับวันนี้ เราจะพาทุกคนไป เที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืน ตะลุย กูชิง และ โกตาบารู เมืองรองที่หลายๆ คนอาจยังไม่ค่อยคุ้นหู แต่กลับมีที่เที่ยวเด็ดๆ และกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเพียบ แถมยังมีวัฒนธรรมที่หลากหลายและโดดเด่นอีกด้วย ลองตาม Tourism Malaysia มาดู แล้วจะรู้ว่าที่นี่น่าสนใจและเที่ยวเพลินไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ เลยแหละ 

ทริปเที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืน
ตะลุยเที่ยว กูชิง โกตาบารู

 

แจกแผน เที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืน

กูชิง (Kuching)

  • หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก (Sarawak Cultural Village)
  • พิพิธภัณฑ์แมวกูชิง (Kuching Cat Museum)
  • กินซีฟู้ดที่ Top Spot Food Court
  • Kuching Waterfront Light Show
  • Semenggoh Nature Reserve
  • ดูวิธีทำเค้ก Kek Lapis Sarawak ที่ Mita Cake House
  • พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมบอร์เนียว (Borneo Cultures Museum)
  • นั่งเรือชมวิว Sarawak Sunset River Cruise
  • Le’pau Restaurant
  • ศาลเจ้าตั่วแปะกง กูชิง (Tua Pek Kong Temple)
  • Fort Margherita
  • สะพานข้ามแม่น้ำ Darul Hana Bridge
  • Main Bazaar และ Carpenter Street 

โกตาบารู (Kota Bharu)

  • Street Art Kota Bahru
  • Dataran Muhammadi และ Istana Jahar
  • หมู่บ้านหัตถกรรม และ พิพิธภัณฑ์หัตถกรรม (Handicrafts Village and Craft Museum)
  • วัดใหม่สุวรรณคีรี

 

Day 1

 

 

     สำหรับทริปเที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืนในครั้งนี้ เราได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมือง กูชิง (Kuching) รัฐซาราวัก (Sarawak) และ โกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน (Kelantan) ประเทศมาเลเซีย ไปกับ Tourism Malaysia สำนักงานกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มต้นการเดินทางที่ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ไฟลท์ตอน 10.25 น. ของ AirAsia บินตรงไปยัง สนามบินนราธิวาส เพื่อไปเดินทางไปยัง ด่านพรมแดนสุไหง-โกลก ก่อนจะไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางฝั่งมาเลเซียค่ะ

      เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยทราบวิธีการเดินทางเส้นนี้ แต่จริงๆ แล้วเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่เดินทางไปยังมาเลเซียจากภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่ารถไป เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังประหยัดค่าเดินทางด้วย 

 

 

      หลังจากที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งมาเลเซียมาเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินทางไปยังสนามบิน Sultan Ismail Petra Airport ที่เมืองโกตาบารูเพื่อบินต่อไปยังเมืองกูชิง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน Kuching International Airport โดยสวัสดิภาพ

 

 

      เดินทางมาหลายต่อ ขอมาเติมพลังกับมื้อแรกที่กูชิงสักหน่อย เป็น Kolok Mee หรือ Mee Kolo อารมณ์แบบบะหมี่แห้งบ้านเรา พร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ อย่าง ชาเย็น กาแฟเย็น ไมโล และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกสรร เติมพลังจนอิ่มแล้วก็เดินทางไปยัง Limetree Hotel ในตัวเมืองกูชิงเพื่อนอนพักเอาแรงสำหรับภารกิจในวันต่อไปค่ะ 

 

 

=============

 

Day 2

หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก

Sarawak Cultural Village

 

 

      หากมาเที่ยวกูชิงแล้วไม่มาเช็คอินที่ หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก (Sarawak Cultural Village) ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตที่เปิดโอกาสให้เราได้มาสัมผัสศิลปะวัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆ ในรัฐซาราวักแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ชนเผ่า Bidayuh, ชนเผ่า Iban, ชนเผ่า Penan, ชนเผ่า Orang-Ulu, ชนเผ่า Melanau, ชนเผ่ามลายู (Melayu) และ ชาวจีน ซึ่งแต่ละชนเผ่าต่างก็มีวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกเผ่ามีเหมือนกันก็คือความผูกพันที่มีต่อธรรมชาติ ป่าเขา และลำธาร ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาไปแล้ว

 

 

      นอกจากจะได้เห็นสถาปัตยกรรมและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เรายังมีโอกาสได้ชมการแสดงประจำเผ่าด้วย แต่ละเผ่าก็จะมีท่าเต้น ดนตรี และเครื่องแต่งกายที่สวยงามแตกต่างกันออกไป ดูแล้วตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก แถมยังมีกิจกรรมให้ผู้ชมได้ขึ้นไปร่วมแสดงด้วยนะ สนุกสนานกันใหญ่ ชมการแสดงเสร็จก็มารับประทานอาหารกลางวันการที่หมู่บ้าน เสิร์ฟเมนูพื้นเมืองซาราวัก ที่ใช้วัตถุดิบคล้ายๆ อาหารไทย แต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ

 

 

      โดยรวมคือเป็นสถานที่ที่เราประทับใจมาก เพราะนอกจากจะได้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมในซาราวักแล้ว รอบๆ หมู่บ้านยังรายล้อมไปด้วยป่าเขาอุดมสมบูรณ์ มองไปทางไหนก็มีแต่พรรณไม้สีเขียวขจีและไอหมอกที่ปกคลุมตามทิวเขา สวยงาม และร่มรื่นมากๆ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/MsvsoWGaf2NAAdie6 

=============

 

พิพิธภัณฑ์แมวกูชิง

Kuching Cat Museum

 

 

      ทุกคนเคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมเมืองกูชิงถึงมีรูปปั้นแมวเต็มไปหมด นั่นก็เพราะคำว่า "Kuching" ในภาษามาเลเซีย แปลว่า "แมว" นั่นเองค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยถ้าที่นี่จะมี พิพิธภัณฑ์แมวกูชิง (Kuching Cat Museum) ให้เหล่าทาสแมวได้ไปชมกัน ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยรูปภาพ ของสะสม และข้อมูลความรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแมวสายพันธุ์ต่างๆ บอกเลยว่าถูกใจคนรักน้องเหมียวแน่นอน~

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/iVwamgzanxc9zgdn9 

=============

 

มื้อค่ำกับซีฟูดที่ Topspot Food Court

 

 

      ใครที่ชอบซีฟู้ด เราขอแนะนำ Topspot Food Court ศูนย์อาหารบนชั้นดาดฟ้าที่รวบรวมร้านซีฟู้ดเจ้าเด็ดของกูชิงเอาไว้ในที่เดียว จะมองไปทางไหนก็มีแต่อาหารทะเลสดๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกแบบไม่หวาดไม่ไหว แล้วก็มีที่นั่งเยอะมากกก จะกลุ่มใหญ่แค่ไหนก็ไม่หวั่น

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/HSpQCSk619zPPFDF8 

=============

 

ชมการแสดงแสงสีเสียงที่

Kuching Waterfront Light Show

 

 

      เนื่องจากเป็นคืนวันอาทิตย์ บริเวณ Kuching Waterfront ริมแม่น้ำซาราวัก (Sarawak River) จึงมีการแสดงน้ำพุพร้อมแสงสีเสียงด้านหน้า Dewan Undangan Negeri Sarawak หรือ อาคารรัฐสภารัฐซาราวัก (The Sarawak State Legislative Assembly) แถมยังประจวบเหมาะกับ งานเทศกาล Festival Kraf Tekstil Borneo 2022 พอดี จึงมีร้านค้าขายงานหัตถกรรม และร้านอาหาร ร้านขนม รวมถึงการแสดงดนตรีสดจัดขึ้นอย่างคึกคัก ทำให้เราได้สัมผัสความชีวิตในยามค่ำคืนของกูชิงแบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/k973ug2wdN36ekZp6 

=============

 

Day 3

เยี่ยมเยียนน้องอุรังอุตังที่

Semenggoh Nature Reserve

 

 

      เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปเยี่ยมชม น้องอุรังอุตัง ที่ Semenggoh Nature Reserve หนึ่งในสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แห่งบอร์เนียวที่ได้รับการดูแลภายในผืนป่าอนุรักษ์แห่งเมือง Siburak รัฐซาราวัก อยู่ห่างจากเมืองกูชิงประมาณ 20 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เราจะได้พบกับเจ้าอุรังอุตังนั้นมีอยู่ 2 ช่วงคือ ช่วงเช้าระหว่าง 08.00-10.00 น. และช่วงบ่ายระหว่าง 15.00-16.00 น. ซึ่งจะเป็นช่วงที่น้องๆ จะออกมากินกล้วยที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ แต่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด นั่นก็คือการรักษาความเงียบสงบ ไม่ส่งเสียงดัง ไม่อย่างนั้นน้องๆ จะไม่ออกมาค่ะ

 

 

     และวันนี้ก็ถือเป็นโชคดีของเรามาก เพราะได้เห็นอุรังอุตังมากถึง 3 ตัว เจ้าหน้าที่บอกว่า บางวันก็อาจจะเห็นแค่ตัวเดียว หรืออาจจะไม่เห็นเลย เพราะส่วนใหญ่พวกอุรังอุตังจะเก็บตัวอยู่ในป่าลึก จะไม่ค่อยออกมาให้เราเห็นเท่าไรนัก ที่สำคัญคือเรามีโอกาสได้เจอคุณย่าอายุ 51 ปี ซึ่งเป็นอุรังอุตังที่แก่ที่สุดของที่นี่ด้วย ตัวใหญ่มากๆ เลยค่ะ 

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/qRb5fHFAd2X4Ey1Z8 

=============

 

ดูวิธีทำเค้ก Kek Lapis Sarawak

Mita Cake House

 

 

       ดูวิธีทำ Kek Lapis Sarawak เค้กหลากสี ของอร่อยขึ้นชื่อของซาราวักที่ Mita Cake House ที่มีรสชาติคล้ายๆ บัตเตอร์เค้ก แต่จะมีกลิ่น รสชาติ และสีที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีชีสเค้กรสชาติต่างๆ เช่น ใบเตย กาแฟ โอริโอ้ และอื่นๆ อีกมากมายให้เราได้ชิม และช้อปเป็นของฝากกลับบ้านกันด้วย

 

 

=============

 

พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมบอร์เนียว

Borneo Cultures Museum

 

 

      พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมบอร์เนียว (Borneo Cultures Museum) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดไปเช็คอิน! เนื่องจากเป็นสถานที่รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของบอร์เนียวเอาไว้อย่างเข้มข้น จัดแสดงผ่านรูปแบบทันสมัย ทั้ง Interactive และ Multimedia ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมไปกับกิจกรรมในโซนต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์ แถมยังได้ความรู้ที่น่าสนใจอีกด้วย

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/CMmHuMihLvPfP68u7 

=============

 

นั่งเรือชมวิว Sarawak Sunset River Cruise

 

 

     พอตกเย็นก็ไปนั่งเรือชมวิวชิลๆ ไปกับ Sarawak Sunset River Cruise ที่จะพาเราดื่มด่ำไปกับวิวสวยๆ ของแม่น้ำซาราวักที่กั้นระหว่างเขตชาวมาเลฯ และเขตชาวจีนในเมืองกูชิง ชมวิวอาทิตย์ตกดิน และเมืองกูชิงในยามค่ำคืนไปพร้อมๆ กัน บรรยากาศชิลมาก มีอาหาร ขนม Kek Lapis Sarawak และเครื่องดื่มเสิร์ฟ แถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆ ตลอดทางเลยด้วย 

 

 

      นั่งชมวิวไปเพลินๆ ก็มีการแสดงเต้นระบำของชนเผ่าพื้นเมืองของซาราวักให้เราได้ชมกัน เต็มอิ่มทั้งบรรยากาศ และความตื่นตาตื่นใจ ใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของเมืองกูชิงแบบครบรส ต้องลองมานั่งเรือชมวิวดูค่า

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/rkF1rKX4jzGM6stQ6 

=============

 

มื้อค่ำที่ Le’pau Restaurant

 

 

       ปิดท้ายวันด้วยมื้อค่ำที่ Le'pau Restaurant ร้านอาหารขึ้นชื่อของกูชิงที่เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองของซาราวัก นอกจากจะตกแต่งด้วยศิลปะพื้นเมืองแล้ว ยังมีไฟคริสต์มาสประดับอยู่เต็มไปหมด ทำให้ร้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นไปอีก แล้วก็มีดนตรีสดเพราะๆ ให้เราได้ฟังเพลินๆ ด้วย

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/wAaaU3JAdhNJbfAD6

=============

 

Day 4

 

 

      วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ที่กูชิง จึงขอไปเก็บไฮไลท์ต่างๆ ในเมืองที่ยังไม่ได้ไปเยือนให้ครบก่อนค่ะ เริ่มที่ The Cat Family รูปปั้นครอบครัวแมวตัวยักษ์อายุกว่า 30 ปี ที่ตั้งอยู่ที่ Jalan Tunku Abdul Rahman บริเวณใจกลางเมือง และไปต่อที่ Padungan Roundabout Cat Statue หรือ รูปปั้นแมวยักษ์ ตรงบริเวณ Carpenter Street บ่งบอกถึงความเป็นเมืองแมวของกูชิงแบบสุดๆ 🐱

 

=============

 

ศาลเจ้าตั่วแปะกง กูชิง

Tua Pek Kong Temple

 

 

      ศาลเจ้าตั่วแปะกง (Tua Pek Kong Temple) ตั้งอยู่บริเวณ Kuching Waterfront เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในกูชิง สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก หากใครมีโอกาสได้ไปกราบไหว้ขอพรก็จะสมหวังดังปรารถนาค่ะ 🙏🏻

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/Ef4XUB71ewc2638M7 

=============

 

Fort Margherita

 

 

      Fort Margherita ป้อมปราการเก่าแก่ของกูชิงที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1879 เพื่อปราบปรามเหล่าโจรสลัดที่เข้ามารุกราน ปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของ เซอร์ เจมส์ บรูก (James Brooke) ทหารอังกฤษและนักผจญภัยผู้ก่อตั้งการปกครองของรัฐซาราวักในเกาะบอร์เนียวในฐานะ รายาแห่งซาราวัก (White Rajahs) รวมถึงประวัติศาสตร์ของรัฐซาราวักตั้งแต่สมัยเจมส์ บรูกมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

     เมื่อขึ้นไปยังด้านบนสุดของป้อมปราการ จะเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นเมืองกูชิงและแม่น้ำซาราวักแบบพาโนราม่า ส่วนด้านล่างสุดจะมีส่วนของคุกที่คุมขังนักโทษ และช่องวางปืนใหญ่สำหรับป้องกันภัยศัตรูค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/jHrxFV8TD9ELhnqu6 

=============

 

สะพานข้ามแม่น้ำ Darul Hana Bridge

 

 

       สะพานข้ามแม่น้ำ Darul Hana Bridge แลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่สายฮิปต้องไม่พลาด สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสุดล้ำ ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ หยินหยาง ที่สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในกูชิงที่สามารถผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายเข้าด้วยกันอย่างสมดุล 

 

 

      ขอยกให้ที่นี่เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยแห่งหนึ่งของกูชิงเลย เพราะไม่ว่าจะมุมไหนก็ดูเก๋ไปหมด แถมวิวก็ยังสวยมากๆ ด้วย เห็นแลนด์มาร์คดังของเมืองอย่าง อาคารรัฐสภารัฐซาราวัก และ มัสยิดลอยน้ำ (The Floating Mosque) แบบเต็มๆ ตาเลย

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/f1vmzVFgYNApxjNS9 

=============

 

Main Bazaar และ Carpenter Street 

 

 

      ชวนสายช้อปไปเดินเล่นที่ Main Bazaar และ Carpenter Street แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอร่อยขึ้นชื่อที่ตั้งอยู่ในระแวกเดียวกับ Kuching Waterfront สำหรับใครที่อยากได้ของฝากแบบ local สุดๆ ไปฝากที่บ้าน รับรองไม่ผิดหวังค่ะ มีของฝากให้เลือกเยอะมาก แถมราคาก็ไม่แพงด้วย ที่สำคัญยังมี street art เท่ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปไปพลางด้วยนะ 📸

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/i8ab1zZAMasXVhye6 

=============

 

เดินทางไปยัง โกตาบารู

 

 

      ช่วงเย็น เราได้บอกลากูชิงเพื่อบินลัดฟ้าไปยัง โกตาบารู เมืองหลวงแห่งรัฐกลันตัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตะลุยเที่ยวต่อในวันถัดไปค่ะ สำหรับที่พักของโกตาบารูในครั้งนี้เราไปพักที่ Grand Riverview Hotel ที่พักริมแม่น้ำกลันตัน (Kelantan River) ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในโกตาบารูนัก

 

 

=============

 

Day 5

ถ่ายรูปเก๋ๆ ที่

Street Art Kota Bahru

 

 

      เช็คอินพิกัดแรกที่ Street Art Kota Bharu ที่แต่งแต้มไปด้วยภาพวาดสีสันสดใส บอกเล่าถึงเรื่องราวที่สะท้อนถึงความฝัน ความสุข และสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงภาพวาดพรมบนพื้นที่มีลวดลายที่สวยงาม แต่ถ้าหากเดินไปอีกฝั่งหนึ่งก็จะพบกับภาพวาดที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ทั้งความขัดแย้งและความสูญเสียค่ะ ส่วนบริเวณทางเข้า street art ก็จะมีร้านค้าขายของกิน และของที่ระลึกต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวด้วย นับเป็นจุดเช็คอินที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/Aco8Vy16HheWvZN58 

=============

 

Dataran Muhammadi และ Istana Jahar

 

 

      ไปกันต่อที่ Istana Jahar ที่ประทับของสุลต่านแห่งกลันตัน ตั้งอยู่ในบริเวณ Dataran Muhammadi จัตุรัสกลางเมืองของโกตาบารู เดิมเป็นสถานที่รองรับแขกบ้านแขกเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1855 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ของราชวงศ์ และอาวุธโบราณต่างๆ ค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/9N7gwtrgDFHDnf7GA 

=============

 

หมู่บ้านหัตถกรรม และ พิพิธภัณฑ์หัตถกรรม

Handicrafts Village and Craft Museum

 

 

      ชมงานหัตถกรรมสวยๆ ที่สะท้อนถึงศิลปะวัฒนธรรมของรัฐกลันตันที่ หมู่บ้านหัตถกรรม และ พิพิธภัณฑ์หัตถกรรม (Handicrafts Village and Craft Museum) ด้านในจัดแสดงเครื่องแต่งกาย สิ่งทอ งานสาน ผ้าบาติก ที่อนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี อีกโซนจะเป็นส่วนของเวิร์คช็อปวาดภาพ ทั้งภาพสีน้ำ สีน้ำมัน สีอะคริลิค ให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยตนเอง บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการวาดภาพเพลินๆ มาก ถ้ามีเวลาก็อยากลองไปนั่งวาดภาพกับเขาเหมือนกันค่ะ 🎨

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/dPk6DE77z8h9Kd738 

=============

 

วัดใหม่สุวรรณคีรี

 

 

      เที่ยวมาเลเซียครั้งนี้ เรามีโอกาสได้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดไทยด้วย วัดใหม่สุวรรณคีรี หรือ วัดเขาดิน ตั้งอยู่ในเมืองตุมปัต รัฐกลันตัน อยู่ห่างจากเมืองโกตาบารูประมาณ 30 นาทีค่ะ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี และได้รับการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2474 เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงาม และบรรยากาศเงียบสงบมาก หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวโกตาบารูก็อย่าลืมแวะไปทำบุญกันนะคะ 🙏🏻

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/wtiqqMAD6ojRHvt48 

=============

 

Day 6

เดินทางกลับไทย

 

     วันสุดท้าย เราเดินทางกลับไทยด้วยเส้นทางเดิม นั่นก็คือนั่งรถจากโกตาบารูผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซีย และด่านพรมแดนสุไหง-โกลก เพื่อเข้าไปยังสนามบินนราธิวาส รอจนกระทั่งถึงไฟลท์ตอน 12.30 น. ก็บินกลับมายังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพค่ะ 

 

 

      สำหรับทริปเที่ยวมาเลเซีย 6 วัน 5 คืนในครั้งนี้นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับเราเป็นอย่างมาก ทำให้เราได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น สัมผัสวัฒนธรรม การใช้ชีวิต และมุมมองใหม่ๆ มากมาย ทำให้รู้เลยว่าเมืองกูชิง และโกตาบารูเองก็มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ ในมาเลเซียจริงๆ ค่ะ

 

ขอบคุณทริปดีๆ จาก Tourism Malaysia, Tourism Malaysia สำนักงานกรุงเทพมหานคร และ Sarawak Tourism