รีเซต

เปิดประวัติ 6 ฟุตบอลยุคโบราณ เตะกันมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์

เปิดประวัติ 6 ฟุตบอลยุคโบราณ เตะกันมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์
Muzika
17 สิงหาคม 2565 ( 16:45 )
3.8K

     ทุกวันนี้ก็ยังมีคำถามกันไม่รู้จบครับ ว่ากีฬาฟุตบอลนั้นมีจุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากที่ไหน เพราะพอสืบย้อนไปก็จะพบว่า มนุษยชาตินั้นนิยมชมชอบการละเล่นที่เกี่ยวกับลูกกลมๆ นี้กันมาแทบจะทุกชาติ ทุกวัฒนธรรม เราเลยมีฟุตบอลโลกให้ได้ดูกันทุก 4 ปี เอาเป็นว่าถึงจะบอกไม่ได้ว่าใครเป็นคนเริ่มกีฬานี้ แต่มาลองลงรายละเอียดกันมากกว่าเดิมถึงฟุตบอลในยุคอารยธรรมโบราณ ว่าเขาเล่นยังไงกันดีกว่าครับ

 

 

6 ฟุตบอลในยุคโบราณ เล่นกันมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์

 

1. ฟุตบอลโบราณของญี่ปุ่น เคมาริ (Kemari)

 

Stray Toki / Shutterstock.com

 

     ประเทศญี่ปุ่นช่วงก่อนต้นศตวรรษที่ 14 ประมาณสมันเฮอัน (ค.ศ.794-1185) ชาวญี่ปุ่นเขาจะมาเล่น เคมาริ กันช่วงหลังปีใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองของกลุ่มชนชั้นสูง ซึ่งทุกวันนี้เรายังสามารถหาชมเคมาริได้อยู่นะครับ เขาจะจัดกันเป็นประจำช่วงปีใหม่ ที่ศาลเจ้าชิโมกาโมะ เมืองเกียวโต

 

     เคมารินั้นจะมีผู้เล่นในสนามเพียง 8 คนเท่านั้น เพราะไม่ได้เป็นการแข่งขันแบบทีม แต่ละคนจะใช้เท้าขวาในการเดาะบอลที่ทำจากหนังกวาง ส่งต่อไปให้คนอื่นโดยห้ามไม่ให้ลูกบอลตกลงพื้น อารมณ์จะคล้ายๆ ตะกร้ออยู่เหมือนกันครับ อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าการละเล่นนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก "ชู่จวี" หรือฟุตบอลโบราณของทางจีนนั่นเองครับ

 

2. ฟุตบอลจีน ชู่จฺวี (蹴鞠)

 

 

     แม้จะไม่ได้มีหลักฐานแน่ชัดว่าชู่จวีนั้นถือกำเนิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่นักประวัติศาสตร์ก็สันนิษฐานว่า น่าจะเล่นกันมาตั้งแต่ประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว และเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมจนถึงขั้นสูงสุดในช่วงยุคราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220)

 

     การเล่นชู่จวีจะแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละฝ่ายใช้ขา หรือเท้าเตะลูกบอลเพื่อทำประตูของอีกฝ่าย โดยห้ามใช้แขนหรือมือ โดยประตูชู่จฺวีจะเป็นห่วงไม้ขนาดใหญ่ที่แขวนจากที่สูง ไม่ได้เป็นโครงประตูอย่างยุคปัจจุบันนี้ สมัยก่อนบรรดาทหารจะนิยมเล่นกันเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการรบ และฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม ชู่จวีนั้นยังได้รับการเรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของกีฬาฟุตบอลสำหรับโลกตะวันออกเลยทีเดียว

 

3. เอพปิสไกรอส (Episkyros) การละเล่นแห่งกรีกโบราณ

 

 

     ถ้าชู่จวีเป็นจุดเริ่มต้นฟุตบอลของซีกโลกตะวันออกล่ะก็ เอพปิสไกรอส ก็นับเป็นจุดกำเนิดของกีฬาฟุตบอลสำหรับโลกตะวันตกครับ มีหลักฐานมากมายที่เล่าย้อนไปได้ถึงยุคกรีกโบราณ ประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล นิยมเล่นกันมากโดยเฉพาะชาวสปาร์ตัน ที่จะเล่นกันแบบรุนแรงจนเกินคำว่ากีฬาไปมาก (แต่อย่างว่า เมืองนี้เขาชอบการปะทะ) และกฏยังอนุญาตให้สามารถใช้มือ หรือแขนช่วยเล่นได้ด้วย

 

     การเล่นเอพปิสไกรอสจะแบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมละ 12-14 คน แม้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชายมาก แต่ผู้หญิงเองก็สามารถลงแข่งขันได้เหมือนกันนะ แต่จำนวนผู้หญิงที่ลงแข่งก็ค่อนข้างจะน้อย เพราะมีกฎว่าต้องเปลือยกายเล่นเท่านั้นจ้า ภายหลังการละเล่นนี้ก็แพ่รหลายไปไกล กระทั่งอียิปต์โบราณ และบาบีโลเนียก็เล่นกีฬานี้ด้วยเหมือนกัน

 

4. โรม ฮาร์ปาสตัม (Harpastum)

 

 

     การละเล่นเอพปิสไกรอสนั้น ได้รับการสืบทอดยาวนานมาจนถึงยุคโรมรุ่งเรือง โดยเริ่มมีการลดขนาดของลูกบอลให้เล็กลง และมีความแข็งมากขึ้น น่าเสียดายว่าไม่ได้มีการบันทึกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเรื่องกฏ กติกาสักเท่าไหร่

 

5. อิตาลี กัลโช สตอริโค (Calcio Storico) บอลสุดโหดอิตาเลียนสไตล์

 

การแข่งขัน Calcio ใน Piazza Santa Maria Novella เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี

 

     กัลโช สตอริโค เป็นกีฬาท้องถิ่นที่เล่นกันในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ช่วงสมัยศตวรรษที่ 15 แม้จะบอกว่าเป็นกีฬา แต่มันกลับมีความรุนแรงสูงจนแทบไม่น่าเชื่อ ปัจจุบันยังถูกจัดให้เป็นเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของเมืองฟลอเรนซ์ โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนของแต่ละปี

 

     กติกาของกัลโช สตอริโค คือจะแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม ทีมละ 27 คน ลงมาแข่งขันกัน โดยมีเวลาทั้งสิ้น 50 นาที ทั้งสองฝ่ายได้รับอนุญาตให้ทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอาลูกฟุตบอลไปเข้าประตูฝั่งตรงข้ามให้ได้ ไม่มีกรรมการมาห้าม จะซัดกันให้เลือดตกยางออกยังไงก็ได้ ! เป็นการต่อสู้อย่างป่าเถื่อนโดยแท้จริง เล่นจบกันทีจะถูกหามเข้าโรงพยาบาลกันเป็นแถบๆ

 

6. Mesoamerican Ballgame ฟุตบอลของชาวมายาโบราณ

 

สนามบอลรูปตัว I ที่มีผู้เล่นและลูกบอล โดยผู้เล่นทั้งสี่คนถือกระบองด้วย

 

     ถ้าจะพูดถึงเรื่องแข่งขันจนเลือดตกยางออกล่ะก็ คงไม่มีฟุตบอลยุคไหนจะนองเลือดได้เท่ายุคนี้อีกแล้ว สำหรับการแข่งบอลของชาวมายา เมโสอเมริกัน (Mesoamerican Ballgame) ที่มีการเล่นกันทั่วอเมริกากลางมาตั้งแต่ราว 1,500 ปีก่อนคริสตกาล

 

 

     กติกาการแข่งนั้น ผู้เล่นจะต้องใช้สะโพกในการโต้บอลกลับไปที่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าอีกฝ่ายรับไม่ได้ก็จะเสียแต้มไป นอกเหนือจากการทำแต้มโดยวิธีปกติแล้ว ยังมีอีกวิธีที่หากทำได้จะถือว่าชนะไปเลย ก็คือการโต้ลูกให้ลอดห่วงทรงกลมแคบๆ ที่อยู่สูงเหนือหัวขึ้นไป

 

     ซึ่งการแข่งบอลของชาวมายานั้นจะเล่นกันแบบทุ่มเทสุดกำลังเลย เป็นเพราะว่ามีเพียง "ความตาย" เท่านั้นที่รอคอยผู้พ่ายแพ้อยู่ โดยจะถูกนำไปสังเวยแด่เทพเจ้า ตามความเชื่อเรื่องการบูชายัญของชาวมายาโบราณนั่นเอง

 

===============

 

     และทั้งหมดนี้ก็คือฟุตบอลโบราณที่บางส่วนก็ยังสาารถเดินทางไปชมกันได้ยังประเทศต้นกำเนิดเหล่านี้ครับ ส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้ก็จะถูกแปลงให้เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองไปแล้วซะส่วนใหญ่ แต่ยังไงนี่ก็เป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาตินั้นขาด "ฟุตบอล" ไม่ได้จริงๆ ครับ