รีเซต

สะบายดีลาว ! เที่ยวเวียงจันทน์ วันเดียว งบไม่เกิน 1500 บาท ไปเช้าเย็นกลับ เดินถ่ายรูปเล่นชิลล์ๆ (มีคลิป)

สะบายดีลาว ! เที่ยวเวียงจันทน์ วันเดียว งบไม่เกิน 1500 บาท ไปเช้าเย็นกลับ เดินถ่ายรูปเล่นชิลล์ๆ (มีคลิป)
Filmthii
22 สิงหาคม 2561 ( 11:35 )
124.2K
2

        สะบายดี..ทุกๆ คน ไม่ต้องตกใจ หรือตื่นอะไรไป เห็นเราเกริ่นทักทายเป็นภาษาลาวมาขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นอะไรที่เกี่ยวกับ สปป. ลาว อย่างแน่นอน

        ครั้งนี้เราจะพาทุกคนแบกเป้ เที่ยวเวียงจันทน์ วันเดียว กันครับ บอกก่อนเลยว่าทริปนี้ไปไม่ยาก และเที่ยวกันง่ายๆ แถมงบสบายกระเป๋าอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามเราไปดูกันเลย

 

 

ทริปเวียงจันทน์ วันเดียว

        มีหลายคนเคยถามเราว่า “เอ๊ะ จะไปทำไมเวียงจันทน์ ? เวียงจันทน์มีอะไร ?” สารภาพเลยว่าตอนแรกก็แอบคิดนะว่า “เออ..เวียงจันทน์มีอะไรน๊าา ทำไมฉันต้องไป” ฮ่าๆ แต่เมื่อได้ไปสัมผัสมาแล้ว ก็กลับคิดต่าง และกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า “เวียงจันทน์ มันดีนะ”

 

 

 

การเดินทางไปเวียงจันทน์ 

        แม้ทุกวันนี้วิธีการเดินทางไปเยือนเวียงจันทน์ ประเทศลาว จะมีหลายวิธีด้วยกัน ให้เราได้เลือกตั้งแต่เครื่องบิน ที่อาจจะใช้งบมากที่สุด รถไฟ ที่อาจใช้ระยะเวลาการเดินนานที่สุด หรือวิธีสุดท้ายที่เราเลือกเดินทางในทริปนี้ ก็คือการ การนั่งรถบัส จากจังหวัด อุดรธานี หรือ จังหวัดหนองคาย ข้ามฝั่งไปนั่นเองครับ

 

 

          ตื่นเช้าจากจังหวัดอุดรธานี ดินแดนอีสานแซ่บนัวส์ ! โดยเช้านี้เราต้องไปกันที่ บขส.อุดรฯ เพื่อซื้อตั๋วรถบัสข้ามไปเวียงจันทน์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางพนักงานก็จะแจกบัตรผ่านแดน ให้เราได้กรอกข้อมูลส่วนตัว บลาๆ เสียก่อนครับ

 

 

        และเมื่อรถบัสจอดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทย ทุกคนจะต้องลงเพื่อเอาบัตรผ่านแดนที่เรากรอก ไปยื่นให้ ตม.ประทับตรา นั่นเอง

        จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถบัสคันเดิมอีกรอบ ย้ำ ! ว่าคันเดิมนะครับ อย่าบังอาจขึ้นผิดคัน ไม่งั้นชีวิตคุณก็จะจบสิ้นทันที ฮ่าๆ เมื่อผู้โดยสารครบแล้ว รถบัสก็จะพาเราข้ามสะพาน มิตรภาพไทยลาว จุดนี้เราจะได้วิวสวยๆ ของแม่น้ำโขงกันอีกด้วย

        ยัง ! อย่าคิดว่าข้ามฝั่งแม่น้ำโขงไปแล้ว จะนั่งยาวๆ เข้าเมืองจันทน์ กันเลยนะครับ เพราะเมื่อลงรถบัสลงจากสะพานมิตรภาพไทยลาวมาแล้ว ก็ต้องลงจากรถ เพื่อผ่าน ตม.ฝั่งลาว อีกรอบ โอ๊ยยย เหมือนจะลำใยนิดหน่อย แต่ก็ต้องทำอะเนอะ

 

 

        ซึ่งเราจะต้องซื้อบัตรข้ามผ่านแดน ราคาประมาณ 5 บาท เพื่อผ่าน ตม. อีกด้วยรวมไปถึงเราขอแนะนำว่า ตรงจุดนี้ใครอยากจะแลกเงินกีบ ก็สามารถแลกได้จากจุดนี้เลย รวมไปถึงใครที่อยากจะเช่ารถ ก็สามารถเช่าได้ตั้งแต่จุดนี้เช่นกัน

 

 

ประตูชัย

        หลังจากเสร็จทุกอย่างแล้ว ทาด้าาาาาา ! เราก็ขึ้นรถบัสอีกรอบ เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองเวียงจันทน์กันเลยครับ โดยรถบัสจะพาเราไปส่งที่ บขส. นั่นเอง จากจุดนี้เราสามารถเดินไปถ่ายรูป ที่จุดแลนด์มาร์คหลักของประเทศลาว อย่าง ประตูชัย กันก่อนได้เลยครับ จุดนี้เราสามารถเดินชม ถ่ายรูปเล่นๆ ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร

 

 

        ส่วนตัวเราแล้ว ต้องบอกเลยว่าประตูชัยแห่งนี้ มีความคล้ายกับ ประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สุดๆ แถมตัวเสาก็งานละเอียดสุดๆ เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบเรื่องราว ของศิลปะอยู่แล้วล่ะก็ จะพลาดที่นี่ไม่ได้เลย

 

วัดสีสะเกด

        เมื่อถ่ายรูปเล่น แอคท่ากันเพลินๆ กับเสาประตูชัย กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าเดินเท้าไปต่อ ที่ วัดสีสะเกด หรือวัดสะตะสะหัสสาราม (วัดแสน) กันครับ ไม่ต้องกลัวว่าวัดแห่งนี้จะไกลจากประตูชัยแต่อย่างใด บอกเลยว่ามันใกล้มาก ! ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 – 10 นาที เท่านั้น โดยระหว่างทางเดินก็จะต้องผ่านทำเนียบรัฐบาล สปป.ลาว เห็นมะ ? บอกแล้วว่าใกล้

 

 

        วัดแห่งนี้ ถือเป็นวัดแห่งแรกในเวียงจันทน์ และเป็นวัดที่ไม่ถูกเผา ทำลายในสมัยยุคสงครามอีกด้วย อีกทั้งพระจักรียังได้เคยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณทหารสยามที่สถิตอยู่ในวัดแห่งนี้อีกด้วย

 

 

 

        เมื่อไหว้พระ ทำบุญ เดินเล่นที่วัดสีสะเกด กันเสร็จแล้ว เราก็ข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อไปไหว้พระกันต่อ ที่ หอพระแก้ว เพื่อยลโฉมพระพุทธรูปโบราณล้ำค่า และถือเป็นสถานที่อันเคยประดิษฐานองค์พระแก้วมรกต รวมไปถึงภายในตัวหอพระแก้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ดูแลได้บอกเราว่าห้ามถ่ายรูปภายในเด็ดขาด อีกด้วย

 

 

        เอาล่ะ ! ก่อนจะไปไหว้พระ เดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ เราได้แวะลิ้มลองส้มตำลาว กันก่อน ซึ่งความต่างของส้มตำที่นี่เขาจะใส่กะปิลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความหอมนั่นเอง หื้มมมม แซ่บมากเด้อ ฮ่าๆ

 

 

 

วัดศรีเมือง

        อิ่มท้องกับมื้อเที่ยงกันไปแล้ว แพลนบ่ายนี้ของเรา ได้วางไว้ว่าจะไปไหว้พระกันต่อที่ วัดศรีเมือง กันครับ โดยทุกคนสามารถโบกตุ๊กๆ ต่อรองราคากันได้แล้วแต่ความชอบ ฮ่าๆวัดแห่งนี้ เปรียบเสมือนศาลหลักเมืองของเวียงจันทน์ รวมไปถึงทุกคนสามารถไหว้พระขอพระได้ เว้นแต่เรื่องความรัก ที่ห้ามขอเป็นอันขาด นั่นเองครับ

 

 

 

        ขั้นตอนการไหว้ ทุกคนจะต้องนำสิ่งของไหว้ทั้งหมด พร้อมเทียน 2 เล่ม ตั้งไว้บนถาด แล้วยกขอพรได้เลยครับ ซึ่งเราขอย้ำอีกรอบว่า ที่นี่ห้ามขอพรเรื่องความเด็ดขาดเชียวนะ !

 

 

พระธาตุหลวง

        เมื่อไหว้ขอพรที่วัดศรีเมืองกันเสร็จแล้ว เราก็ขอปิดท้ายกันไปด้วยอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในเวียงจันทน์ อย่าง พระธาตุหลวง ศูนย์กลาง และถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิของชาวสปป.ลาว เลยก็ว่าได้ครับ เราแนะนำว่า มาที่นี่ ต้องมาขอเรื่องโชคลาภ และการงาน เพราะเขาเชื่อกันว่า มาขอแล้ว จะได้สมพร ตามที่หวัง นั่นเอง

 

 

        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก็ถึงเวลานั่งรถบัส ที่ บขส.เวียงจันทน์ กลับสู่จังหวัด หนองคาย กันแล้วครับ เนื่องจากคืนนี้เรามีแพลนนอนกันที่ตัวเมืองหนองคาย เราก็เลยขอแวะ ไปนั่งกินข้ามเย็นกันที่ร้าน ครัวแม่แป๊ด ริมแม่น้ำโขง กันก่อนเข้าที่พักครับ

 

 

        ก่อนจะบอกลาฝันดีทุกคนไป เราก็ขอแนะนำว่า ถ้าหากใครมีเวลาว่าง และชื่นชอบในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม และไหว้พระทำบุญ ที่เวียงจันทน์ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก แถมงบก็ไม่บานปลาย ประหยัดได้ ไม่ถึงหมื่นอย่างแน่นอน

 

 

ที่เที่ยว ลาว อื่นๆ ที่น่าสนใจ 

รวม 9 ที่เที่ยว วังเวียง งบน้อยก็เที่ยวได้


สะบายดี ลาว 15 สถานที่สวยที่สุดในลาว