รีเซต

หมู่บ้านปลุกผี อินโดนีเซีย ชาว Toraja พิธีกรรมแปลก ชวนขนลุก 18+ ใจไม่กล้าพอ อย่าดูคนเดียว

หมู่บ้านปลุกผี อินโดนีเซีย ชาว Toraja พิธีกรรมแปลก ชวนขนลุก 18+ ใจไม่กล้าพอ อย่าดูคนเดียว
เอิงเอย
24 สิงหาคม 2565 ( 14:18 )
750.2K
9

     ถ้าได้ดู หนังผี ซอมบี้ หลายๆ เรื่อง มักจะมีช็อตเด็ดอย่างคนที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมาเดินได้ เป็นหนังสยองขวัญสั่นประสาทที่หลายคนชอบ แต่ถ้าเจอเข้าจริงกับตัวเองคงวิ่งป่าราบ! เรื่องจริงที่เราจะมาเล่ากันวันนี้ต่างออกไปเล็กน้อยจากพล็อตหนังที่เราเคยดูกัน ที่ หมู่บ้านปลุกผี ของชาว Toraja อินโดนีเซีย หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่ามี พิธีกรรมแปลก ที่สุดในโลก อีกแห่งหนึ่ง และน่าขนลุกไปพร้อมกัน...

 

หมู่บ้านปลุกผี อินโดนีเซีย Toraja
ซอมบี้ ศพเดินได้ พิธีกรรมแปลก จนน่าขนลุก

 

     ดูเหมือนเป็นเรื่องราวที่แปลกประหลาดไปมากๆ และชวนน่าขนลุกในสายตาของคนทั่วโลก แต่ที่ หมู่บ้าน Toraja (โตราจา) อินโดนีเซีย กลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองในพื้นที่ภูเขา ที่อาศัยอยู่ทางใต้ของจังหวัด Sulawesi (ซูลาเวซี) แห่งนี้ กลับเป็น พิธีกรรมที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน ที่ชาวบ้านจะได้เจอคนรัก คนในครอบครัว แม้จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม... นั่นก็คือ พิธีกรรมที่มีชื่อว่า Ma'Nene (มะเนเน) หรือ The Ceremony of Cleaning Corpses ที่จะขุดศพของคนในครอบครัวอันเป็นที่รักขึ้นมาทำพิธีกรรมปีละหนึ่งครั้ง

 

 

พิธีกรรมขุดศพ ของชาว Toraja

     พิธีกรรม Ma'Nene หรือ The Ceremony of Cleaning Corpses นี้ เป็นพิธีกรรมของชาว Toraja ซึ่งจะจัดขึ้นทุกเดือนสิงหาคมของทุกปี โดยจะทำการขุดศพญาติพี่น้องของตัวเองขึ้นมา เพื่อล้างทำความสะอาด ตกแต่ง แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหวีผมและทำการซ่อมโลงศพ

 

พิธีกรรมขุดศพ ของชาว Toraja พิธีกรรมล้างศพ หมู่บ้านปลุกผี

Muslianshah Masrie / Shutterstock.com

 

     จากนั้นก็จะพาศพเดินไปยังที่ที่ตนเสียชีวิต และพากลับมายังหมู่บ้าน หลังจากเสร็จพิธีกรรมแล้ว ก็จะเก็บศพใส่โลงเช่นเดิม ซึ่งชาวบ้านจะได้เจอกับคนรักในครอบครัวตัวเองปีละครั้ง 

 

Muslianshah Masrie / Shutterstock.com

หมู่บ้านซอมบี้ พิธีกรรมล้างศพ  อินโดนีเซีย Toraja

Muslianshah Masrie / Shutterstock.com

 

     ต้นกำเนิดของพิธีกรรมนี้เกิดขึ้นเพราะความเชื่อที่ว่า จิตวิญญาณของคนตายจะต้องกลับไปยังหมู่บ้านของพวกเขาแม้จะเสียชีวิตอยู่ที่ใดก็ตาม ชาวหมู่บ้าน Toraja จึงไม่ค่อยเดินทางไปไหนไกลๆ เพื่อจะได้แน่ใจว่าหากวันไหนที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้วพวกเขาจะยังกลับมาที่หมู่บ้านได้

 

พิธีศพ ความเชื่อหลังความตาย

     ชาว Toraja มีความเชื่อหลังความตายว่า การตายไม่ใช่ขั้นตอนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือฉับพลัน แต่เป็นกระบวนการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไปสู่ Puya (ปูยา) ดินแดนแห่งวิญญาณ หรือชีวิตหลังความตาย ดังนั้นในช่วงที่รออยู่นั้น ร่างของผู้ตายจะถูกห่อด้วยผ้าหลายชั้น และเก็บไว้ใต้ Tongkonan (ตงโกนัน) บ้านแบบดั้งเดิมของชาว Toraja เชื่อกันว่าวิญญาณของผู้ตายจะวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน จนกว่าพิธีศพจะเสร็จสมบูรณ์ แล้วจึงเริ่มออกเดินทางสู่ Puya ในที่สุด

 

Adi Haririe / Shutterstock.com

Widhibek / Shutterstock.com

 

     ดังนั้น พิธีศพของชาว Toraja เมื่อมีคนตายในครอบครัวจะมีการเก็บศพไว้ที่บ้านนานหลายเดือนหรือหลายปี  เพื่อรอเวลาเตรียมการงานศพที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างนั้น คนในครอบครัวจะปฏิบัติต่อศพเหมือนกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ นำน้ำ อาหาร มาให้ และอาบน้ำ ทำความสะอาด และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้อยู่ตลอด

 

 

     ในพิธีจะมีการฆ่าควายหลายตัว ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหนะที่นำคนตายไปยังสถานที่รอเกิดใหม่ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่า ผู้ตายจะใช้ควายเหล่านี้ในการออกเดินทาง และจะสามารถเดินทางไปถึง Puya ได้เร็วขึ้นหากยิ่งฆ่าควายเพิ่มมากขึ้น ทำให้ในการจัดพิธีศพของชาว Toraja จะมีการบูชายันควายหลายชีวิต เพื่อให้คนตายไปสู่โลกดินแดนแห่งวิญญาณ และยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองนานหลายวันหลายคืนติดต่อกัน

 

Ricard MC / Shutterstock.com

 

     การฝังศพของชาว Toraja มีอยู่ 3 วิธี คือ การวางโลงศพไว้ในถ้ำ วางในที่ฝังศพหินแกะสลัก หรือแขวนไว้ตามหน้าผา และจะมีการบรรจุข้าวของต่างๆ ที่ผู้ตายจะต้องใช้ในโลกหลังความตายไปด้วย แต่สำหรับโลงศพของเด็กทารก จะเป็นการยึดติดเข้ากับโพรงที่ขุดเข้าไปในต้นไม้ ซึ่งเรียกว่า "ต้นไม้ทารก"

 

 หุ่นพยนต์ Tau tau ตัวแทนของคนตาย

 

 

     นอกจาก เรื่องราวพิธีศพของชาว Toraja ที่สุดแสนจะมีเอกลักษณ์ และน่าประหลาดใจแล้ว สิ่งที่น่าขนลุกไม่แพ้กันก็คือ หุ่นพยนต์ Tau tau (ตาอูตาอู) หุ่นแกะสลักจากไม้ โดยมักกจะเป็นรูปเต็มตัวของผู้ตาย เป็นตัวแทนของคนตาย ที่มักจะเห็นได้ตามถ้ำ และหันหน้าออกมา เหมือนกำลังเฝ้ามองผู้คนอยู่...

 

Nugraha Defri / Shutterstock.com

 

     แม้ในปัจจุบัน ชาว Toraja จะหันมานับถือศาสนาคริสต์กันหมดแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาธรรมเนียมพิธีกรรมศพแบบนี้อยู่ ด้วยความเชื่อที่ว่า ผู้ตายคงยังอยู่ ไม่ได้จากไปไหน

 

เรื่องลึกลับ ตำนาน ที่น่าสนใจอื่นๆ