ภูเขาไฟโบรโม่ Mount Bromo ที่เที่ยวอินโดนีเซีย พิกัดสุดท้าทายของนักปีนเขา

       เชื่อว่าการพิชิต ภูเขาไฟ คงเป็นความใฝ่ฝันหนึ่งของนักปีนเขาหลายๆ คน แล้วถ้าพูดถึงภูเขาไฟแล้ว จะพลาด อินโดนีเซีย ไปได้ยังไงล่ะเนอะ มาค่ะ ตามเราไปพิชิต ภูเขาไฟโบรโม่ Mount Bromo ที่เที่ยวอินโดนีเซีย กันเลย~ แม้ว่าจะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท แต่กลับมีความงดงามอันน่าพิศวงและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยาม พระอาทิตย์ขึ้น ที่ว่ากันว่าสวยจนต้องตะลึง! จะอลังการอย่างที่เขาว่ากันขนาดไหน ไปดูกันค่ะ

• 12 ที่เที่ยวธรรมชาติ อินโดนีเซีย สวรรค์คนรักธรรมชาติ สไตล์ไหนก็โดน
• 15 ที่เที่ยวอินโดนีเซีย ถ่ายรูปสวย บินใกล้ๆ ไปไม่ยาก ชวนเพื่อนเลย

Mount Bromo ที่เที่ยวอินโดนีเซีย

สวรรค์ของนักปีนเขา

       ถ้าถามถึงภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทใน ประเทศอินโดนีเซีย แล้ว ภูเขาไฟโบรโม่ (Mount Bromo) คงจะขึ้นมาในหัวเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของทัศนียภาพอันงดงามเกินบรรยายของพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่ปกคลุมรอบขุนเขา และแม้ว่าจะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท และเคยมีการปะทุครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2011 และปะทุครั้งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2015 แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวใจสู้จำนวนไม่น้อยลุยขึ้นไปพิชิตยอดเขา และดื่มด่ำกับธรรมชาติสุดแสนจะมหัศจรรย์ด้วยตาตัวเอง

ไฮไลท์ ภูเขาไฟโบรโม่

Mount Bromo

       ภูเขาไฟโบรโม่นั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะชวาตะวันออก และมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,392 เมตร ซึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของการมาเที่ยวโบรโม่นั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นการ พิชิตยอดเขา รวมถึงการ ชมอาทิตย์ขึ้น ในยามรุ่งสางอย่างไม่ต้องสงสัย จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในโบรโม่นั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด นั่นก็คือ Bromo Seruni และ Penanjakan แต่ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นแบบสวยอลังที่สุดเลยล่ะก็ ต้องไปที่ Penanjakan ค่ะ เพราะที่นี่เองที่เขาว่ากันว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโบรโม่ โดยพวกเราจะต้องเดินทางไปเตรียมตัวที่นั้นก่อนประมาณตี 3 - ตี 5 เพื่อรอชมแสงแรกของวันที่ค่อยๆ สาดส่องลงบนทิวเขา และทะเลหมอกสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แนะนำให้เช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนนะคะ จะได้ไม่ไปเสียเที่ยว

       ต่อมาคือการเดินทางขึ้นไปยังปล่องภูเขาไฟบนยอดเขา ซึ่งสามารถเดินทางด้วยการขี่ม้า หรือเดินทางเท้าไปก็ได้ค่ะ ถ้าเดินทางด้วยม้า ม้าก็จะไปส่งแค่ที่ไหล่เขาเท่านั้น ที่เหลือเราก็ต้องเดินทางเท้าขึ้นบันไดไปต่ออีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งปากปล่องภูเขาไฟนั้นกว้างใหญ่ และสวยอลังการมากกก จะเห็นนักท่องเที่ยวหลายคนมาถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ กันเพียบ และวิวทิวทัศน์บนนี้ บอกเลยว่าหาไม่ได้ง่ายๆ จากที่ไหนค่ะ มันคือความพิเศษที่พบได้แค่ที่โบรโม่จริงๆ

       แต่ที่สำคัญเลยก็คือ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์และฟิตร่างกายให้พร้อมก่อนลุยขึ้นเขานะคะ เพราะทางขึ้นค่อนข้างสูงและชัน และต้องเดินเยอะพอสมควร ส่วนบริเวณปากปล่องภูเขาไฟยังเป็นสันทราย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ลื่นล้ม แนะนำให้เตรียมผ้าปิดจมูกไปด้วย เพราะบนยอดเขายังมีควันและเถ้าถ่านลอยอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรสูดดมเป็นเวลานานค่ะ

การเดินทางไป ภูเขาไฟโบรโม่

       การเดินทางไปภูเขาไฟโบรโม่ ส่วนใหญ่แล้วเขาจะตั้งต้นกันที่ สนามบิน Juanda International Airport ใน เมืองสุราบายา (Surabaya) ค่ะ จากนั้นให้นั่งแอร์พอร์ตบัสจากสนามบินไปยังสถานีขนส่ง Bungur Asih เพื่อเดินทางไปต่อที่ เมืองโปรโบลิงโก้ (Probolinggo) และนั่งรถต่อไปยัง หมู่บ้านเซโมโร ลาวัง (Cemoro Lawang Village) แนะนำให้ค้างแรมที่นั่นสักคืนเพื่อเตรียมตัวไปชมอาทิตย์ขึ้นในโบรโม่ยามรุ่งสาง และไปลุยต่อเพื่อชมวิวสวยๆ บนปากปล่องภูเขาไฟค่ะ

พิกัด : https://goo.gl/maps/RYjyThFbNPGxubFx5