11 ที่เที่ยวสวย อันตรายที่สุดในโลก วิวเสี่ยงตายแต่สวยตะลึง

     นอกเหนือจากการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ดูความสวยความงามต่างๆ แล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่ามีบางคนก็ไปเที่ยวเพราะอยากกระตุ้นอะดรีนาลีนให้มันหลั่งไปทั่วร่าง เสริมความตื่นเต้นเร้าใจในชีวิตเหมือนกัน แต่ 2 อย่างนี้มันก็มาอยู่รวมในที่เดียวได้เหมือนกัน กับ 11 สถานที่เที่ยว สวยแต่อันตรายที่สุดในโลก ดูแล้วจะต้องสองจิตสองใจเลยว่าจะกล้าไปหรือเปล่า?

11 ที่เที่ยวสวย อันตรายที่สุดในโลก วิวเสี่ยงตายแต่สวยตะลึง

1. El Caminito del Rey, สเปน

     แม้จะเป็นเส้นทางริมผาที่อันตราย และน่าหวาดเสียว แต่ El Caminito del Rey ก็ยังเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของสเปนอยู่เพราะวิวทิวทัศน์ที่สวยจนเกือบจะลืมหายใจ ด้วยความที่เป็นทางเดินไม้แคบๆ ไม่มีรั้วกั้นเลย จึงมักมีนักท่องเที่ยวเดินตกผาเสียชีวิตบ่อยครั้ง

• อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เส้นทางริมผา ท้าตายที่สุดในโลก El Caminito del Rey

2. Yungas Road, โบลิเวีย

     ถนนที่อันตรายที่สุดในโลก มีฉายาว่า “Road of Death” ว่ากันว่ามีผู้เสียชีวิตที่นี่กว่า 1,000 คน เพราะทางสัญจรที่แคบ โค้งอันตราย มีหมอกปกคลุมหนาแน่น และไม่มีรั้วกั้นอีกด้วย มีความยาว 64 กิโลเมตร จุดที่สูงสุดอยู่ที่ 3 กิโลเมตร

• อ่านเพิ่มเติมได้ใน 10 อันดับ ถนนอันตราย ที่สุดในโลก เสี่ยงตายทุกหัวโค้ง

3. The Doorway to Hell, เติร์กเมนิสถาน

     หลุมไฟแปลกประหลาดนี้ ตั้งอยู่กลางทะเลทราย Karakum มองเผินๆด้านหลังนั้นมันเหมือนประตูอันมืดมิดของมอร์ดอร์ (Mordor) ทั้งที่แท้จริงแล้วมันเป็นหลุมไฟที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของนักธรณีวิทยาในปี 1971 และนับแต่นั้นก็เกิดการเผาไหม้มาตลอด

• อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ใน สุดยอด 9 สถานที่ เทพนิยาย ที่มีอยู่จริงบนผืนโลก

4. Trolltunga, นอร์เวย์

     Trolltunga เป็นภาษานอร์เวย์ แปลว่า “ลิ้นของโทรลล์” (Troll’s Tongue) ตามลักษณะที่เป็นแผ่นหินบางชี้ยื่นออกมาจากผา ที่ความสูง 2,300 ฟุต (700 เมตร) เหนือทะเลสาบ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหน้าผาที่หวาดเสียว และสวยที่สุดในโลก

5. เกาะปะการัง บิกินี่ (Bikini Atoll), หมู่เกาะมาร์แชล

     มองเผินๆ ที่นี่ก็เป็นหมู่เกาะที่สวยงามราวอยู่บนสวรรค์ แต่เมื่อก่อนนั้นเกาะบิกินี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ทดลองนิวเคลียร์มาก่อน ทำให้บางส่วนมีการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีอยู่ แน่นอนว่ามันเป็นอันตรายต่อทุกชีวิตที่เข้าไปใกล้

6. Death Valley, อเมริกา

     Death Valley หุบเขามรณะ ที่มีอากาศร้อนจนทอดไข่ดาวกินได้ใน 10 นาที อุณหภูมิสูงสุดที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ก็คือ 56.7 องศาเซลเซียส หากคุณอยู่ที่นี่โดยไม่มีน้ำดื่มล่ะก็ อาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาเพียง 14 ชม. ถึงอย่างนั้น ทีนี่ก็มีภูมิทัศน์ที่สวยงามแปลกตาเหมือนอยู่ต่างดาวยังไงยังงั้น

7. IIlha da Queimada Grande, เกาะงู บราซิล

     เกาะอันสวยงาม และยังคงความเขียวชอุ่มไว้ได้อย่างสมบูรณ์นอกชายฝั่งประเทศบราซิล แต่ในความงามนั้นก็ซุกซ่อนความอันตรายแบบสุดขีดเอาไว้ นั่นก็คือบนเกาะนี้เป็นที่อยู่อาศัยของงูหลากหลายสายพันธ์กว่า 5,000 ตัว ! ซึ่งล้วนแต่เป็นงูพิษทั้งสิ้น ผู้ที่จะขึ้นเกาะจะต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น (ส่่วนใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือนักวิจัย)

8. Acidic lake, Kamchatka, รัสเซีย

     ภายในคาบสมุทร Kamchatka ดินแดนที่สวยสงบปราศจากมนุษย์ เป็นที่ตั้งของทะเลสาบสีครามที่อันตรายที่สุดในโลก เพราะทั่วทั้งบริเวณนั้นเป็นไปด้วยก๊าซพิษความเข้มข้นสูง อันเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่เบื้องล่างมากว่า 400 ปี ในยามหน้าหนาวแม้หุบเขาโดยรอบจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ แต่ทะเลสาบนี้ก็ไม่มีวันกลายเป็นน้ำแข็งเลย

9. Mount Washington, อเมริกา

     บนยอดเขา Mount Washington อันเป็นที่ตั้งของหอสังเกตุการณ์ เป็นที่ที่ถูกบันทึกว่ามีความเร็วลมในระดับพื้นผิวที่เร็วที่สุดในโลก ประมาณ 327 ก.ม. ต่อชั่วโมง ทำให้อุณภูมิต่ำได้ถึง -40 องศา

10. Dallol Volcano, เอธิโอเปีย

     ปล่องภูเขาไฟดาลลอล ตั้งอยู่ในทะเลทรายดานาคิล ในเขตพื้นที่สามเหลี่ยมอะฟาร์ (Afar Triangle) บริเวณนี้มีความร้อนสูงกว่า 50 องศา มีปริมาณก๊าซพิษสูง และมีออกซิเจนน้อยมากจนแทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ได้

11. Yellowstone National Park, อเมริกา

     อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง อุณหภูมิของน้ำในบ่อน้ำพุร้อนบางจุดอาจสูงถึง 93 องศาเซลเซียส บันทึกของหน่วยบริการอุทยานแห่งชาติของสหรัฐฯ ว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน 19 คน ล่าสุดคือปี 2015 ที่มีเหตุชายชาวอเมริกันพลัดตกบ่อน้ำพุร้อนที่เยลโล่สโตน หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่อุทยานได้พยายามเข้ามากู้ร่าง แต่ปรากฏว่า ร่างของเขาได้ละลายไปหมดเหลือแต่กระดูกเนื่องจากความร้อนและความเป็นกรดสูง

====================