ตามรอยพระบาท รัชกาลที่ 9 ครั้งยังทรงพระเยาว์ ณ โลซานน์ Lausanne สวิตเซอร์แลนด์
โลซานน์ (Lausanne) เมืองเล็กน่ารักริมทะเลสาบ ณ สวิตเซอร์แลนด์ ที่คนไทยน่าจะคุ้นหูกับชื่อของเมืองนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์ไทยทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ทรงประทับอยู่เมื่อยังทรงพระเยาว์ ในช่วงปี 2476 – 2494 เป็นเวลาถึง 18 ปี ก่อนเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรนั่นเอง
ภาพ : กรมประชาสัมพันธ์
โลซานน์ อยู่ทางตะวันตกของประเทศ ห่างจากกรุงเจนีวาที่ตั้งสหประชาชาติเพียง 40 กิโลเมตร ใกล้กับชายแดนฝรั่งเศส ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของยอดเขามองบลังค์ได้เลยในวันอากาศแจ่มใส
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราไม่ค่อยรู้ นั่นคือโลซานน์ยังเป็นเมืองที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (International Olympic Committe) หรือ IOC และมีพิพิธภัณฑ์โอลิมปิคตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวาด้วย จึงทำให้เมืองโลซานน์ได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงแห่งโอลิมปิค”
Roman Babakin / Shutterstock.com
หน้าตาของเมืองโลซานน์จะเป็นแบบเมืองเล็กน่ารักในยุโรป นั่นคือถนนคนเดินที่ไม่กว้างนัก มีร้านค้าตั้งอยู่เรียงรายติดๆ กัน มีร้านกาแฟ ร้านดอกไม้ที่ช่วยให้เมืองดูมีชีวิตชีวา และเนื่องจากเมืองนี้มีคนเอเชียอาศัยอยู่พอสมควร จึงมีร้านขายเครื่องเทศ และเครื่องแกงด้วย ซึ่งอาหารไทยก็เป็นอาหารที่ชาวสวิสคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
หนึ่งในสถานที่ที่ชาวไทยควรมาเยี่ยมชมเมื่อมาถึงโลซานน์ ก็คือ ศาลาไทย ตั้งอยู่ที่ สวนสาธารณะเดอน็องตู ( Parc du Denantou) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย และเทศบาลเมืองโลซานน์ สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญในปี 2549 สองวาระ คือ วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิสครบ 75 ปี ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2552
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสวนสาธารณะเดอน็องตูนัก เป็นที่ตั้งของ โรงแรมโบริวาจ (Beau-Rivage Palace) เป็นโรงแรมที่ดีที่สุด หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของสวิส อยู่ริมทะเลสาบเลอมอง (Lac Leman) มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ทอดตัวเป็นแนวยาว ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ อัครราชกุมารี จะเสด็จฯ มาประทับที่โบริวาจทุกครั้งเมื่อเสด็จฯ เยือนโลซานน์
ภาพ : กรมประชาสัมพันธ์
เอกอล นูแวล เดอ ลา ซืออิส โรมองต์ (Ecole Nouvelle de la Suisse Romande) โรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงเข้าเรียนชั้น 2 และพระอนุชาทรงเข้าเรียนชั้นอนุบาล ทั้งสองพระองค์เลือกเรียนสายศิลป์ภาษาละตินและภาษาอังกฤษ มีภาษาเยอรมันเป็นภาคบังคับ
หลังจากนั้น รัชกาลที่ 8 ทรงศึกษาวิชานิติศาสตร์ ขณะที่รัชกาลที่ 9 ทรงเลือกเรียนแขนงวิชาวิทยาศาสตร์ (ต่อมาเมื่อหลังทรงครองราชสมบัติแล้วได้เปลี่ยนเป็นสาขาวิชากฎหมาย รัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์แทน เพื่อความเหมาะสมกับพระราชภารกิจแห่งพระมหากษัตริย์) ที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ (Lausanne University) ปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยโลซานน์ย้ายออกไปนอกเมืองแล้ว พื้นที่นี้จึงเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ไป
อีกที่หมายสำคัญของการตามรอยพระยุคลบาท คือ “แฟลตเลขที่ 16” ถนนทิสโซต์ (Tissot) ที่ประทับของพระบรมราชชนนี พร้อมพระธิดา และพระโอรสตั้งแต่ปี 2476-2478 ขณะนั้นพระบรมราชชนนีทรงต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงทรงเลือกแฟลตที่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 นาที
และจากแฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซต์ เดินขึ้นไปถนน อาวองต์ โพสต์ (Avant Poste) ก็จะพบ “แฟลตเลขที่ 19” เป็นที่ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีเสด็จประทับตั้งแต่ปี 2493 หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงราชาภิเษกกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ
ภาพ : กรมประชาสัมพันธ์
วิลล่าวัฒนา (Villa Vadhana) บ้านเช่าบนลาดเนินเขาเหนือฝั่งทะเลสาบเลอมอง ที่ เมืองปุยยี (Pully) นอกเมืองโลซาน บ้าน 3 ชั้น ขนาด 13 ห้องนอน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงตัดสินพระทัยย้ายออกจากแฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซต์ เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ภายหลังการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และรัฐบาลได้อัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ
ปัจจุบันเจ้าของบ้านได้รื้อบ้านหลังนี้ลง เนื่องจากสภาพทรุดโทรม และสร้างใหม่เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ 3 ชั้นสำหรับให้เช่าพักอาศัย ตั้งชื่อว่า “อาคารเลขที่ 51” (Chamblandes 51)
แผนที่ปักหมุด ตามรอยพระบาท รัชกาลที่ 9 ครั้งยังทรงพระเยาว์ ณ เมืองโลซานน์
====================
เส้นทางตามรอยพระบาทอื่นๆ
- เยี่ยมบ้านพ่อ สวนจิตรลดา วังของกษัตริย์ผู้พอเพียง ที่สุดในโลก
- 15 โครงการหลวง ตามรอยพระบาท เส้นทางของพ่อ