รีเซต

One Day Trip เที่ยว Cheung Chau เกาะเฉิ่งเจ้า สัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮ่องกง

One Day Trip เที่ยว Cheung Chau เกาะเฉิ่งเจ้า สัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮ่องกง
nukkpidet
28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 09:24 )
2.4K
1

     ทุกครั้งที่เราไปเที่ยว ฮ่องกง ก็จะเน้นไปที่ การกิน การช้อปปิ้ง ไหว้พระ มากกว่าจะมาเที่ยวแบบซึมซับวิถีชีวิตของคนฮ่องกงกันใช่ไหมล่ะคะ งั้นครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเยือน สถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นเกาะเล็กๆ ใกล้ๆ เกาะฮ่องกง นั่นก็คือ เกาะเฉิ่งเจ้า (Cheung Chau) นี่เอง อาจจะไม่คุ้นหูกันเท่าไหร วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปทัวร์เที่ยวเกาะกันแบบเต็มๆ วันกันนั่นเองค่า ไปกันเลย!

 

 

เที่ยว Cheung Chau One Day Trip

จัดเต็มทั้งวันทั่ว เกาะเฉิ่งเจ้า       

จองที่พักทั่วโลก ในราคาพิเศษ ได้ที่นี่

https://trueid.onelink.me/D7LM/sn6h2hz7

 

ประวัติ เกาะเฉิ่งเจ้า

     เกาะเฉิ่งเจ้า (Cheung Chau) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า เกาะยาว เป็นเกาะขนาดเล็กๆ ที่มีรูปร่างคล้ายกับดัมเบลล์ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมเกือบ 3 ตารางกิโลเมตร และเป็นที่รู้จักกันดีจากบริเวณทางเดินริมน้ำชื่อดัง ที่มีเรือประมงจอดเรียงรายอยู่ริมชายฝั่งนั่นเองค่ะ รวมไปถึงมีร้านอาหารทะเลมากมายให้ได้ลิ้มลองด้วย 

 

 

     ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ เกาะเฉิ่งเจ้า ยังมีหาดทรายไว้สำหรับให้เดินเล่นชิลๆ ด้วย หรือจะเล่นกีฬาทางน้ำก็ได้เช่นกัน แม้กระทั่งพื้นที่ท่องเที่ยวภายในเกาะเองก็ยังเป็นทางเดินไต่เขาระดับง่ายๆ ไว้ให้เราได้มาออกกำลังกายขากันค่ะ รวมถึงยังมี เทศกาล Cheung Chau Bun สนุกสนานชื่อดังของฮ่องกง มีทั้งกิจกรรม อาหาร และประวัติศาสตร์แบบนี้ บอกเลยว่าเที่ยวเต็มวันแน่นๆ กันเลยทีเดียวค่ะ

 

 

การเดินทาง ไป เกาะเฉิ่งเจ้า

     การจะเดินทางไปยัง เกาะเฉิ่งเจ้า เราจะต้องนั่งเรือจากฝั่งเกาะฮ่องกงไปค่ะ โดยเราเลือกเป็นเรือด่วนแบบ Ferry ค่ะ จะใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที โดยรอบเรือก็จะมีบริการทั้งวันค่ะ ซึ่งค่าโดยสารจะตกอยู่ที่คนละ 26.2 HKD แต่เราจะต้องไปถึงก่อนเรือออกประมาณ 30-15 นาทีนะคะ เพราะเรือจะออกตรงเวลามาก ถ้าไปเรทก็คือต้องรอรอบต่อไปเลยค่ะ

 

     พอมาถึงที่เกาะแล้วก็ต้องเริ่มด้วยกิจกรรมขึ้นชื่อของที่นี่อย่าง การปืนไต่เขา นั่นเองค่ะ ฟังดูเหมือนจะยาก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปค่ะ ใครที่ออกกำลังขาบ่อยๆ อยู่แล้ว น่าจะสบายๆ เลย ส่วนคนที่ไม่ค่อยได้ฟิตร่างกายก็อาจจะต้องพกน้ำ พกยาดม และแวะนั่งระหว่างทางสักหน่อย จุดหมายแรกที่เราจะไปก็คือ จุดชมวิวเฉิ่งเจ้า ซึ่งเราจะได้เห็นวิวสวยๆ แบบพาโนราม่าเลย

 

 

     ใช้เวลาเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 20 นาที ทางจะมีทั้งทางชัน ทางบันได เข้าป่าหน่อยๆ แต่ทางเดินง่ายๆ ค่ะ ไม่ได้ลำบากอะไร สามารถเดินเพลินๆ ถ่ายรูประหว่างทางได้เลย เพราะเราจะผ่านทั้งบ้านเรือน ที่มีสตรีทอาร์ทสวยๆ รวมถึงตัวอาคารบ้านเรือนเองก็มีสีสันสดใน แชะได้ทุกมุมเลยค่ะ อีกทั้งยังมีจุดแวะพักเป็นสวนหย่อมๆ ระหว่างทางเรื่อยๆ ด้วย

 

     ไม่นานเราก็เดินมาถึงจุดชมวิวแล้วค่ะ เป็นบริเวณของ ศาลาชมวิวทางเหนือของเฉิ่งเจ้า ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเกาะ โดยสามารถเดินต่อไปถึงชายหาดได้ด้วย จากตรงนี้เราจะเห็นวิวแบบพาโนรามาของทางเชื่อมเกาะ และสามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งของเกาะ Lamma และสะพาน Tsing Ma สะพานแขวนชื่อดังได้อีกด้วยค่ะ

 

 

     เรียกได้ว่ากว่าจะขึ้นไปใช้เวลาพอสมควร เราก็เลยถ่ายรูปบนนั้นอยู่สักพักกันเลย ก่อนจะเดินกลับลงมาเพื่อไป วัดยุกฮุย หรือ วัดปักไท นั่นเองค่ะ วัดนี้จะเป็นสถานที่ที่อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ในสมัยราชวงศ์เต๋า ซึ่งภายในจะจัดแสดงศิลปวัตถุสมัยราชวงศ์ชิงและซ่ง รวมถึงยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล Cheung Chau Bun ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นกิจกรรมระดับชาติอันดับที่ 3 ของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมฮ่องกงอีกด้วยนะคะ 

 

วัดยุกฮุย วัดปักไท ฮ่องกง

 

     ซึ่งในปี ค.ศ. 2011 ก็ได้มีการจัดงานการแข่งขัน โดยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีกติกาว่าให้ผู้เข้าแข่งขันปีนหอคอยขนมปัง เพื่อเก็บขนมปังให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้นั่นเองค่ะ วัดนี้เหมือนจะเล็กๆ แต่ด้านก็นับว่างดงามและมีเสน่ห์มากๆ นะคะ ลองนึกภาพว่าถ้าเป็นช่วงที่มีการจัดงานเทศกาล น่าจะสวยอลังการมากๆ แน่นอน

 

 

     เสร็จจากการเที่ยวชมบ้านเมือง จุดชมวิว และวัดแล้ว ก็ได้เวลาท้องร้องๆ แล้วค่า แน่นอนว่าไม่ต้องไปไหนไกลเลย เพราะเราจะไปทานอาหารทะเลอันชึ้นชื่อของที่ เกาะเฉิ่งเจ้า กัน บอกเลยว่าร้านเยอะมากกก ซึ่งแต่ละร้านเมนูก็จะคล้ายๆ กันค่ะ เพราะฉะนั้นเลือกกันตามใจได้เลย เมนูที่เราเลือกทานในวันนี้ก็จะมี ยำหนังปลา หมูผัดเปรี้ยวหวาน ปูนิ่มทอดกระเทียม ปลานึ่ง ซุปหมาล่าเนื้อ กุ้งล็อบสเตอร์ผัด เป็นต้น

 

 

ไฮไลท์ ของ เกาะเฉิ่งเจ้า

     รสชาติก็จะค่อนข้างทานง่าย ไม่ต่างจากไทยมากนัก อาจจะไม่แซ่บเท่า แต่ก็ถือว่าอร่อยเลยทีเดียวค่ะ ทำให้กินกันอิ่มมากๆ แต่ๆ เราก็จะไปทานกันต่อค่ะ เพราะที่นี่มีอาหารขึ้นชื่อที่เราต้องไปลองกัน รวมไปถึงมีคาเฟ่น่ารักๆ ด้วยอย่างแรกที่เราจะไปลองทานกันก็คือ Kwok Kam Kee หรือ  ซาลาเปานำโชค โดยเป็นร้านที่เปิดมานานจากรุ่นสู่รุ่น มากกว่า 40 ปีแล้วค่ะ ซึ่งมีซาลาเปาอันเป็นเอกลัษณ์นั่นเอง ไส้ด้านในจะเป็นไส้หวาน มีถั่วแดง งาดำ เป็นต้น โดยเอกลักษณ์จะอยู่ที่แสตมป์สัญลักษณ์อักษรจีนสีแดง ที่แปลว่า ปลอดภัย นั่นเองค่ะ

 

 

 

     อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องไปลองก็คือ ลูกชิ้นปลา Kam Wing Tai เป็นของว่างริมทางที่คนฮ่องกง และคนจีนตอนใต้ชื่นชอบนั่นเองค่ะ รสชาติก็จะกลมกล่อม ที่สำคัญชิ้นใหญ่มากกก ไม่ใช่ลูกชิ้นเล็กๆ เหมือนบ้านเราเลย ทานต่อจากข้าวก็คือจุกๆ กันเลยทีเดียว ส่วนคาเฟ่ของ เกาะเฉิ่งเจ้า ก็มีให้เลือกหลายร้าน ทั้งร้านชาต่างๆ หรือจะไอติมของหวานก็มี ในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้น จะมีคนหนุ่มสาวย้ายมาอาศัยอยู่ที่เกาะนี้มากขึ้น เลยทำให้มีคาเฟ่สไตล์ใหม่ๆ ถ่ายรูปสวยๆ เกิดขึ้นมาค่ะ

 

     

     ส่วนของช้อปอื่นๆ นอกจากของน่ารักๆ ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างซาลาเปาที่นำมาทำพวงกุญแจต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังขายพวกผลไม้ ผลิตภัณฑ์ทะเลตากแห้งต่างๆ รวมไปถึงเสื้อผ้า กระเป๋าน่ารักๆ ด้วยค่ะ เป็นอย่างไงกันบ้างคะ สำหรับ One Day Trip ที่ เกาะเฉิ่งเจ้า แห่งนี้ บอกเลยว่านอกจากผู้คนจะน่ารักแล้ว อาคารบ้านเรือนของที่นี่ก็มีเสน่ห์อย่างมาก ใครอยากเที่ยว ฮ่องกง อีกสไตล์สัมผัสความเป็นวิถีชีวิต แนะนำว่าต้องลองมาที่นี่กันดูค่า รับรองว่าจะต้องถูกใจ