20 ที่เที่ยวเกียวโต ห้ามพลาด พร้อมการเดินทางง่ายๆ ต้องแวะไปเช็กอิน !
เกียวโต Kyoto เป็นอีกเมืองของ ญี่ปุ่น ที่มีเสน่ห์ ทำให้ในหลายๆ ที่เที่ยวเกียวโต จึงเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาสักครั้ง ตามเรามาปักหมุดเลยค่ะกับ 20 ที่เที่ยวเกียวโต ที่ต้องห้ามพลาด ด้วยความที่เกียวโตเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ และเคยเป็นที่ประทับของ จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น มากกว่า 1,000 ปี ทำให้ภาพของศิลปวัฒนธรรม ศาลเจ้าเก่าแก่ ซ้อนทับอยู่กับภาพปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เมืองนี้จึงมีความคอนทราสต์ และน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก!
ที่เที่ยวเกียวโต พร้อมการเดินทางง่ายๆ
1. Kinkaku-ji วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง
วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือ วัดทอง (Golden Pavilion) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเกียวโตที่ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ อีกทั้งยังเป็นสถานที่เก่าแก่มากๆ แห่งหนึ่งของญีปุ่นอีกด้วย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1994
ความสวยงามของปราสาททองคำซึ่งตระหง่านกลางสระน้ำ เป็นภาพความสวยงามที่น่าประทับใจอย่างมาก อีกจุดเด่นก็คือ บนหลังคามี รูปหล่อนกฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคล ทำจากสำริดคล้ายกับวิหารทองที่งดงาม ใครที่มาเที่ยวเกียวโตแล้ว ต้องไม่พลาดแวะมาวัดคินคะคุจิแห่งนี้ค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Z9HduGWCWW73VBwZ8
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย Karasuma Lineไปลงที่ Kitaoji Station แล้วต่อรถบัสสาย 12, 101, 102, 204 หรือ 205
=================
2. Ginkaku-ji วัดกินคะคุจิ
นอกจากวัดทองแล้ว ที่เกียวโตแห่งนี้ยังมี วัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji) หรือ วัดเงิน (Silver Pavilion) ตั้งอยู่ด้วยค่ะ ที่นี่มีอายุกว่า 500 ปีมาแล้ว ชื่อทางการของที่นี่ก็คือ Jisho-ji เป็นวัดในนิกายเซน เป็นที่อยู่อาศัยของ โชกุนอาชิคากะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ในปี ค.ศ1482 เป็นที่เที่ยวที่มีสำคัญทางประวัติศาสตร์ และที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ด้านในของวัดเงิน ยังมีห้องชงชาที่คาดว่าเป็นต้นแบบของห้องชงชาในยุคหลังๆ ซึ่งท่านโชกุนก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาศิลปะและการชงชาที่นี่นั่นเองค่ะ อีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ จุดชมวิว เพราะทุกคนจะได้เห็นวิวเมืองเกียวโตแบบพาโรนามาที่สวยงาม
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/t5jFjzKZFF3ChuRi8
- การเดินทาง :
จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 100 ลงป้าย Ginkakuji-Mae
จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 5, 17 มาลงที่ป้าย Ginkakuji-Michi
=================
3. Fushimi Inari Shrine ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ
ศาลเจ้าดังของเกียวโต ที่ใครมาก็ต้องแวะมาเช็กอิน ไม่งั้นจะเรียกได้ว่ามาไม่ถึงเกียวโตก็คือที่นี่ค่ะ ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพอินาริ (Inari)เทพเจ้าแห่งกสิกรรม ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ศาลเจ้าฟุชิมิ อินารินี้ ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดของเทพอินาริ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปีทีเดียว
ไฮไลท์ของที่นี่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่มาเที่ยวอย่างได้ขาดสายก็คือ ชื่อเสียงในเรื่องสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียวโต เสาโทริอิสีแดง นับเป็นพันๆ หมื่นๆ ต้น ที่ตั้งเรียงรายติดๆ กัน จนกลายเป็นอุโมงค์เสาโทริอิที่มีความยาวถึง 4 กิโลเมตรนั่นเองค่ะ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไปว่า “โออินาริซัง” ค่ะ
ดูรีวิวเต็มๆ ได้ที่ เที่ยวเกียวโต ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ Fushimi Inari Taisha ชมเสาโทริอิหมื่นต้น
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JKTE377DXFQGa2mt8
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย JR Nara Line ลงสถานี Inari
=================
4. Ine หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ
อิเนะ (Ine) เป็นหมู่บ้านชาวประมงอนุรักษ์ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ไฮไลท์ของหมู่บ้านก็คือ Boat House ริมแม่น้ำ ซึ่งจะเป็นบ้านที่มีอู่เทียบเรืออยู่ในบ้านของตัวเองเลยค่ะ นอกจากนี้ เรายังสามารถเช่าเรือชมรอบๆ อ่าว และให้อาหารนกนางนวลได้อีกด้วย
ถ้าใครอยากนอนค้างที่นี่เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ของหมู่บ้าน ก็มีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้พักค้างคืน พร้อมอาหารมื้ออร่อยด้วยฝีมือชาวประมงกันเลยน้า
ดูรีวิวเต็มๆ ได้ที่ สโลว์ไลฟ์ ที่ หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ Ine ที่ เกียวโต
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8S587PaLbSxeiPv58
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Amenohashidate และนั่งรถบัสสายท้องถิ่นมาลงที่ Ine-Cho
=================
5. Kiyomizu-dera วัดคิโยมิซุ หรือ วัดน้ำใส
วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส เป็นเหมือนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของการไปเที่ยวเกียวโตเลยทีเดียวค่ะ วัดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 798 แต่หลังปัจจุบันที่เราเห็นกันนั้นได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1633 และยังเป็นอีกที่หนึ่งในเกียวโตได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก อีกด้วย
Michael Gordon / Shutterstock.com
ความหมายของชื่อวัดนี้ คือ น้ำบริสุทธิ์ เพราะมาจากการที่น้ำตกไหลผ่านเนินเขาลงมายังบริเวณวัดนั่นเองค่ะ และยังมีความเชื่อว่า หากมาไหว้ขอพรที่วัดน้ำใสแล้ว จะปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป ตามความหมายของชื่อวัดค่ะ นอกจากนี้ วัดน้ำใสยังเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากๆ เพราะโถงอาคารซึ่งถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอกทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UoP3YBMpXErqgkPz6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรสบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Kiyomizu-michi
=================
6. Higashiyama ย่านฮิกาชิยาม่า
ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) เป็นย่านถนนโบราณสำหรับมาเดินเล่นชิล ให้บรรยากาศยุคเอโดะโบราณค่ะ โดยเฉพาะบริเวณทางเดินระหว่าง วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ไปจนถึง ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) จะเป็นทางเดินที่เต็มไปด้วยบ้านไม้สวยงาม ทรงโบราณแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม มีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการเป็นระยะ ใครที่หลงใหลความสวยงามของเมืองเก่า บ้านเก่า ต้องชอบที่นี่มากแน่ๆ ทีเดียว มาเดินเที่ยวถ่ายรูปสวๆย กันได้เลยค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/o6r9VDrCyf2RiaY28
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรสบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Kiyomizu-michi
=================
7. Gion ย่านกิออน
thenameless / Shutterstock.com
มาเมืองเก่าอย่างเกียวโต ก็ต้องนึกถึงสาวงาม เกอิชา (Geisha) ในชุดกิโมโนดั้งเดิม ซึ่งเราามารถพบเจอพวกเธอได้ที่ ย่านกิออน (Gion) นั่นเองค่ะ ที่นี่จะเป็นอาคารบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิม ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านดื่มชา สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ แต่ละร้านก็จะการแสดงโชว์จากเกอิชา หรือ เกอิโกะ (Geiko) และ ไมโกะ (Maiko) ให้เราได้ชม หรือใครอยากลองแปลงโฉมเป็นเกอิโกะดูสักวันก็ได้นะ
บริเวณหลักๆ ของย่านกิออนสามารถแบ่งได้เป็น 3 โซน คือ
- ถนนชิโจ (Shijo-dori) เป็นโซนถนนสายหลักระหว่างแม่น้ำคาโมะ (Kamo) สถานีรถไฟ Gion-Shijo และศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine)
- ฮานามิโคจิ (Hanamikoji) เป็นโซนระหว่างถนนชิโจ (Shijo-dori) ไปยังวัดเค็นนินจิ (Kenninji Temple)
- กิออน ชิราคาว่า (Gion Shirakawa) เป็นโซนที่อยู่เรียบคลองชิราคาว่า (Shirakawa)
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VM61D35Q9RzvmXT8A
- การเดินทาง :
- จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย JR Nara Line ลงที่สถานี Tofukuji แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Gion-Shijo
=================
8. Miyama หมู่บ้านมิยามะ
มาสัมผัสกับกลิ่นอายอันเก่าแก่ของเกียวโตกันสักหน่อย ออกนอกเมืองมาที่ หมู่บ้านมิยามะ (Miyama) กันค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเกียวโตประมาณ 30 กิโลเมตร ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นบ้านชาวนาที่เรียกว่า คายาบูกิ (Kayabuki) ซึ่งแตกต่างจาก หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดก็คือ คายาบูกิ โน ซาโตะ (Kayabuki no Sato) เป็นจุดที่มีบ้านโบราณประมาณ 40 หลัง เป็นบ้านตัวอย่างของวัฒนธรรมคายาบูกิดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด และยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ค่ะ การมาเที่ยวที่นี่นอกจากเราจะได้รูปสวยๆ แบบดั้งเดิมของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณกลับไป เรายังได้สมัผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jPjFEU1AExgfiKsa6
- การเดินทาง :
1. จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรถไฟสาย JR Sagono Line มาลงที่สถานี Hiyoshi Station และขึ้นรถบัส Nantan Bus ไปยัง Miyama
2. จากสถานี Kyoto ขึ้นรถ JR Bus ที่ไปยัง Takao ลงที่ Shuzan และขึ้นรถบัส Nantan Bus ไปยัง Miyama
=================
9. Arashiyama Bamboo Forest ป่าไผ่อาราชิยาม่า
ใครที่ชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ รักในความเขียวชอุ่ม เราจะชวนมาเที่ยวที่ชานเมืองเกียวโตในเขตอาราชิยาม่าค่ะ ซึ่งที่นี่มี ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Forest) ป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเกียวโต เป็นระยะทาง 500 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวควรแวะมาเที่ยวสักครั้ง หากได้มาแถบเกียวโต
ตลอดระยะทางจะมีไผ่ขึ้นอยู่สองข้างทาง สวยงามมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งในช่วงเดือนธันวาคมนั้น จะมีการประดับโคมไฟสวยๆ ตามทางเดินของป่าไผ่ตลอดทางในช่วงค่ำอีกด้วย สวยงามสุดๆ น่ามาถ่ายรูปเล่นมากๆ เลยค่ะ
ดูรีวิวเต็มๆ ได้ที่ เที่ยวญี่ปุ่น ป่าไผ่เกียวโต ป่าไผ่อาราชิยาม่า เสน่ห์โลกตะวันออก
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NLbcwrrrhPDMYNLM6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line ลงสถานี Saga Arashiyama Station
=================
10. Iwatayama Monkey Park สวนลิง อิวาตายาม่า
Tupungato / Shutterstock.com
สวนลิง อิวาตายาม่า (Iwatayama Monkey Park ) แห่งนี้ตั้งอยู่บน ภูเขาอาราชิยาม่า ในเขตอาราชิยาม่าค่ะ ไฮไลท์คือการมาดูเหล่าเจ้าลิงน้อยแสนซน และชมวิวตัวเมืองอาราชิยาม่านั่นเอง ซึ่งจะมีลิงญี่ปุ่นอยู่อาศัยตามธรรมชาติประมาณ 120 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถใกล้ชิด และให้อาหารลิงป่าในกระท่อมที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ได้อีกด้วยค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/23eMT237izTpnCep6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย Hankyu Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama เดินข้ามสะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เดินขึ้นเขาอาราชิยาม่าไปประมาณ 10 นาที ก็จะถึงสวนลิง
=================
11. Togetsukyo Bridge สะพานโทเง็ตสึเคียว
Richie Chan / Shutterstock.com
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอาราชิยาม่า ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ที่นี่เป็นสะพานนี้มีความสวยงาม เพราะด้านหลังนั้นเป็นภูเขาสูงใหญ่ และด้านล่างเป็นแม่น้ำที่ทั้งสองฝั่งมีแถวต้นซากุระเรียงรายเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ทำให้ที่นี่ติดอันดับจุดชมซากุระที่สวยงามมากๆ ในเกียวโตอีกด้วยค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mf4R8GLBD4FYEgss6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย Hankyu Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama
=================
12. Sagano Romantic Train รถไฟสายโรแมนติก
Tooykrub / Shutterstock.com
รถไฟสายนี้เป็นรถไฟที่นั่งเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เลียบแม่น้ำโฮซุกาว่า (Hozugawa River) ค่ะ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รถไฟสายโรแมนติก ถามว่าทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นรถไฟสายโรแมนติกนั้น ต้องขอตอบว่า เพราะวิวสองข้างทางตลอดที่รถไฟผ่านทั้งหมด 7 กิโลเมตร จะเป็นหุบเขาสลับซับซ้อนที่สวยงาม และมีวิวบ้านเรือนชนบทสวยๆ ให้ชมตลอดทางนั่นเอง
bSyncTH / Shutterstock.com
รวมถึงตัวรถไฟเองที่เป็นแบบโบราณ ใครที่ได้ขึ้นไปนั่งชมวิว ยิ่งเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้วด้วยนั้น จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โรแมนติกมากๆ ค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/heTjP4JeZNVGyBzy7
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line มาลงที่สถานี JR Saga Arashiyama เดินออกจากสถานีไปยังฝั่งตรงข้าม จะเจอกับสถานี Torokko Saga เป็นสถานที่ขายตั๋วรถไฟ Sagano Romantic Train
=================
13. Sanzen-in Temple วัดซานเซนอิน
วัดซานเซนอิน (Sanzen-in Temple) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ที่ เมืองโอฮะระ (Ohara) เป็นวัดที่มีความเก่าแก่งดงาม ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยเฮอันในช่วงปี ค.ศ.794-1185 โดย พระภิกษุ Saicho ผู้ก่อตั้งนิกายเท็นได ภายในวัดมี พระพุทธรูป Amida ซึ่งเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญค่ะ
ไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ตรงบริเวณสวนญี่ปุ่นที่สวยงามเต็มไปด้วยมอสสีเขียว และในป่าด้านหลังของวัดจะพบกับน้ำตกโอโตนาชิ (Otonashi no Taki) ที่มีชื่อเรียกว่า “น้ำตกไร้เสียง” อีกด้วย เนื่องจากเป็นน้ำตกสายเล็กๆ ที่สายน้ำตกกระทบกับโขดหินโดยไม่มีเสียงนั่นเอง
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Bz7YLNs3NdcFkHvw6
- การเดินทาง :
1. จากสถานี Kyoto ขึ้นรถบัส Kyoto Bus สาย 17 มาลงที่ Ohara
2. จากสถานีรถไฟ Kyoto ขึ้นรถไฟสาย Karasuma Subway Line ลงที่สถานี Kokusaikaikan Station และขึ้นรถบัส Kyoto Bus สาย 19 ลงที่ Ohara
=================
14. Toei Kyoto Studio Park สตูดิโอโทเออิ
twoKim images / Shutterstock.com.JPG
ที่นี่เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ย้อนยุคของญี่ปุ่นค่ะ จึงมีการจำลองเมืองเล็กๆ ในยุคเอโดะขึ้น โดยอาคารบ้านเรือนต่างๆ เป็นแบบสมัยก่อนเป๊ะๆ และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ด้วย ใครอยากย้อนยุคใส่ชุดซามูไร ชุดยูกาตะ หรือกิโมโน มาเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ ก็เท่ดี ข้างในเค้าจะมีร้านให้เช่าชุดได้อีกด้วยค่ะ
AndyLai / Shutterstock.com
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/E7Hz6HfLwihzhZ9r9
- การเดินทาง
1. จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ลงสถานีรถไฟ JR Hanazono Station เดินต่อมาอีก 15 นาที
2. ขึ้นรถบัสสาย Kyoto City Bus สาย 75 หรือ Kyoto Bus สาย 71, 72, 73
=================
15. Philosopher's Path ทางเดินนักปราชญ์
ในเทศกาลซากุระบานช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ที่นี่จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นนิยมมาชมความสวยงามของซากุระกันค่ะ ซึ่งทางเดินจะปูด้วยหินตลอดทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และขนานไปกับทางน้ำสายเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระเป็นร้อยต้นทีเดียว
ที่มีชื่อเรียกว่า “ทางเดินนักปราชญ์” Philosopher's Path นั้นก็เพราะที่นี่เคยเป็นเส้นทางที่ นิชิดะ คิทาโร่ (Nishida Kitaro) นักปราชญ์แห่งยุคที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของญี่ปุ่น ได้ใช้เส้นทางนี้เดินทางไปกลับเป็นประจำในการไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกียวโตนั่นเองค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/U5bb8vdswyr1gMRJA
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรถบัสสาย 100 ลงที่ป้ายหน้าวัดกินคาคุจิ (Ginkakuji-mae)
=================
16. Ninna-ji วัดนินนาจิ
วัดนินนาจิ (Ninna-ji) ได้รับการถูกบันทึกเป็น มรดกโลก เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญของเกียวโตค่ะ ไฮไลท์ของที่นี่คือ อาคารโกเท็น (Goten) สร้างขึ้นในรูปแบบของพระราชวังอิมพีเรียล และมีทางเดินเชื่อมต่อที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มีประตูบานเลื่อนแบบญี่ปุ่นโบราณ (Fusuma) โดยรอบของอาคารจะถูกโอบล้อมไปด้วยสวนหินและบ่อน้ำแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สวยงาม
Various images / Shutterstock.com
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดชมใบซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของเกียวโต ต้นซากุระของที่นี่มีชื่อเรียกว่า ต้นซากุระโอมุระ (Omuro Cherries) ซึ่งงจะบานช้ากว่าที่อื่นๆ ค่ะ ช่วงที่เหมาะมาชมซากุระมากที่สุดก็คือ กลางเดือนเมษายน
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ijfsEwG4BvLWwazG9
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถบัสสาย 26 ลงที่ป้าย Omuroninnaji
=================
17. Kifune Shrine ศาลเจ้าคิฟุเนะ
ศาลเจ้าคิฟุเนะ เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา สวยงามด้วยเสาโทริอิสีแดงเรียงรายกันอยู่ตรงบริเวณทางเข้า ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าน้ำและฝน เชื่อกันว่าจะช่วยดูแลพิทักษ์รักษาผู้ที่ออกทะเลนั่นเองค่ะ เป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นมีประวัติยาวนานมากกว่า 1,600 ปี เรียกได้ว่าเก่าแก่กว่าอายุของเมืองเกียวโตซะอีก
กิมมิกของศาลเจ้านี้ก็คือ การทำนายดวงชะตาที่ด้วย กระดาษทำนาย Omikuji โดยเราต้องนำกระดาษไปจุ่มลงในน้ำ แล้วคำทำนายก็จะปรากฏขึ้นมาค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/abzA758kgAHkbzBc6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station ขึ้นรถไฟ Eizen Electric Railway สาย Kurama Line มาลงสถานี Kibune-Guchi Station และขึ้นรถบัสมาลงที่ Kibune
=================
18. Tofuku-ji Temple วัดโทฟุคุจิ
WorldWide / Shutterstock.com
วัดโทฟุคุจิ (Tofuku-ji Temple) เป็น 1 ใน 5 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในเกียวโตค่ะ เป็นวัดเซนขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1236 โดย ตระกูลฟูจิวาระ (Fujiwara Clan) ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ ประตูซานม่อน ที่มีความสูงถึง 22 เมตร สร้างเป็นแบบเซนโบราณ
cowardlion / Shutterstock.com
ทุกๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมใบไม้แดงที่ สะพานสึเทนเคียว (Tsutenkyo Bridge) ภายในวัดซึ่งเป็นจุดที่มีความสวยงามมากๆ ใบเมเปิ้ลปกคลุมสะพานยาวถึง 100 เมตร เป็นภาพที่น่าประทับใจสุดๆ เลยค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VrGvEdj2CFWW3J6S9
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย JR Nara Line หรือ Keihan Main Line ลงสถานี Tofukuji Station
=================
19. Nijo Castle ปราสาทนิโจ
cowardlion / Shutterstock.com
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.1603 เป็นที่อาศัยของท่านโชกุน โทกูงาวะ อิเอยาซุ (okugawa Ieyasu) ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกในสมัยเอโดะ และมีความสำคัญมากๆ ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นค่ะ
Kang Shi Zheng / Shutterstock.com
ภายในปราสาทมีงานศิลปะแบบญี่ปุ่นสำคัญๆ มากมาย โดยชิ้นที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ ภาพเขียนลงสีในห้องหลัก ที่นี่ยังได้นำการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมปราสาทในยุคศักดินาของญี่ปุ่นที่หลงเหลืออยู่ที่ดีที่สุด และได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LumiRRwyCBy5rgr37
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Subway Line ลงที่สถานี Karasuma-Oike Station แล้วเปลี่ยนไปยังสาย Tozai Subway Line ลงที่สถานี Nijojo-mae Station
=================
20. Nishiki Market ตลาดนิชิกิ
Phanu D Pongvanit / Shutterstock.com
ชวนสายกินมาเช็คอิน ย่านของกินที่ขึ้นชื่อที่สุดในเมืองเกียวโต อย่าง ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) บอกเลยว่าสายกิน ถ้าได้มาต้องฟินไปตามๆ กันค่ะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งตลาดสดที่มีร้านค้าให้ไปช้อป ได้ชิมกันมากกว่า 100 ร้านค้าเลยทีเดียวค่ะ ทั้ง อาหารทะเลสด ขนมพื้นเมือง พืช ผัก ผลไม้ หาได้จากที่นี่
ไฮไลท์ก็คือ ร้านอาหารทะเลสดๆ แต่ละร้าน เราสามารถซื้ออาหารทะเลสด แล้วให้ทางร้านปรุงสำเร็จให้แบบปิ้งย่าง ราดซอสโชยุเบาๆ อร่อยแบบสดๆ กันได้เลยอีกด้วย แถมยังราคาถูก เป็นอีกแหล่งของกินอร่อยที่สายสตรีทฟู้ดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
- พิกัด : https://maps.app.goo.gl/smMxQayYMF5HTNAY6
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต Kyoto Station นั่งรถไฟสาย Karasuma Line ลงที่สถานี Shijo Station
=================