รีเซต

ที่เที่ยวอิตาลี ลุย 8 เมืองริม ชายฝั่งอมาลฟี Amalfi Coast น้ำทะเลสีสวย ไข่มุกแห่งอิตาลีใต้

ที่เที่ยวอิตาลี ลุย 8 เมืองริม ชายฝั่งอมาลฟี Amalfi Coast น้ำทะเลสีสวย ไข่มุกแห่งอิตาลีใต้
SummerB
19 ตุลาคม 2564 ( 19:30 )
20.3K

        ถ้าพูดถึงสถานที่พักตากอากาศยอดฮิตของ อิตาลี หนึ่งในนั้นก็ต้องมี 8 เมืองริม ชายฝั่งอมาลฟี Amalfi Coast อย่างไม่ต้องสงสัย เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมบ้านเมืองยุคกลาง ตัดกับทะเลสีฟ้าสดใส รวมถึงอากาศอันอบอุ่นของเมืองในแถบเมดิเตอเรเนียนทำให้ ชายฝั่งอมาลฟี กลายเป็นหนึ่งใน มรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของ ไข่มุกแห่งอิตาลีใต้ แห่งนี้ค่ะ

 

เมืองสวยริม ชายฝั่งอมาลฟี Amalfi Coast อิตาลี

เสน่ห์แห่ง มรดกโลก

 

ทำความรู้จักกับ ชายฝั่งอมาลฟี

และการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก

 

       ชายฝั่งอมาลฟี (Amalfi Coast) เป็นแนวชายฝั่งที่ทอดยาวไปตาม อ่าว Salerno บน ทะเล Tyrrhenian ทางตอนใต้ของ ประเทศอิตาลี ประกอบไปด้วยเมืองต่างๆ ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง มีสีสันสดใสและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป

       นอกจากธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ภูเขา ถ้ำ ทะเล และหาดทรายสีขาวแล้ว ยังมี Limoncello liqueur ผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก Stusato Amalfitano สายพันธุ์ของมะนาวที่เพาะปลูกเฉพาะที่ริมชายฝั่งอมาลฟีเท่านั้น อีกทั้งยังมีเครื่องปั้นเซรามิคลวดลายสวยงาม สีสันจัดจ้านเอกลักษณ์ฉบับบ้านเมืองในแถบนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้ชายฝั่งอมาลฟีได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1997 และเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกถึงปีละหลายล้านคนเลยทีเดียวค่ะ

        ริมชายฝั่งอมาลฟีจะมีเส้นทางหนึ่งชื่อ Strada Statale ที่ใช้เดินทางตั้งแต่เมือง Vietri sul Mare ทางทิศตะวันออก และไปสิ้นสุดที่เมือง Positano ทางทิศตะวันตกในระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร และแน่นอนว่า ในระยะทางเพียงเท่านี้เราก็สามารถชมทิวทัศน์ตามแนวชายฝั่งได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่บอกเลยว่า เสน่ห์ของแต่ละเมืองริมชายฝั่งอมาลฟีนั้นเหลือล้นเกินกว่าที่ 2 ชั่วโมงจะเอาอยู่ค่ะ เพราะฉะนั้นเตรียมจัดทริปยาวๆ แล้วไปลุยกันเลย!

 

เมืองสวยริม ชายฝั่งอมาลฟี

 

1. Positano

 

 

       Positano เมืองที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเหล่าเมืองริมชายฝั่งอมาลฟี โดดเด่นด้วยตึกอาคารสีเหลืองนวลและน้ำตาลอ่อนบนเนินเขา ภายในเมืองเป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และที่พักต่างๆ ที่ราคาสูงพอสมควร เนื่องจากเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบนี้ อีกทั้งยังมีโบสถ์สวยๆ และพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปเยี่ยมชมด้วย ริมทะเลของเมือง Positano เป็นที่ตั้งของชายหาดหลักๆ อยู่ 3 แห่งนั่นก็คือ หาด Positano Spiaggia, หาด Fornillo, หาด Arienzo และ หาด San Pietro ที่ผู้คนนิยมไปเล่นน้ำ อาบแดด และทำกิจกรรมกลางแจ้ง 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/tN28V7K1a3Kj1W9b9 

==========

 

2. Amalfi

 

 

       ขอบอกว่าชายฝั่งอมาลฟีก็มีเมืองเป็นของตัวเอง แถมยังมีชื่อเดียวกันด้วย นั่นก็คือเมือง Amalfi นั่นเองค่ะ เป็นเมืองแห่งการค้าขายเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมากตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 มาจนถึงศตวรรษที่ 13 และมีสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆ เช่น มหาวิหารอมาลฟี (Duomo di Amalfi) หรือ Cathedral of Sant’ Andrea ศาสนสถานสำคัญที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11 ภายในมหาวิหารมีรูปปั้นหินอ่อนแกะสลักของนักบุญ St. Andrew สรรค์สร้างโดยศิลปินเอกแห่งยุคเรเนซองส์อย่าง มิเคลันเจโล (Michelangelo) และงานจิตรกรรมสุดวิจิตรบนเพดานมหาวิหารที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม และแน่นอนว่า เมื่อมาเมือง Amalfi แล้ว ก็ต้องไปที่ พิพิธภัณฑ์กระดาษ (Museum of Paper) เพราะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อการผลิต Bambagina การดาษหนาทำมือนั่นเองค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/CZWvE6YXBoysJ1Mk8 

==========

 

3. Ravello

 

 

        Ravello เมืองริมผา สูง 365 เมตร ที่พบเห็นได้จากโปสการ์ดอยู่บ่อยครั้ง ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามแห่งชายฝั่งอมาลฟีที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะ Villa Rufolo คฤหาสน์เก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวริมอ่าวที่สวยมากๆ แห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีพิกัดอื่นๆ ที่ต้องไปเยือน เช่น Villa Cimbrone เพื่อชมสวนดอกไม้แสนสวย, มหาวิหาร Duomo de Ravello ที่ตั้งอยู่ในใจกลางจตุรัส Piazza del Vescovado และ Ceramiche D’Arte Carmela ร้านเครื่องชามเซรามิกชื่อดัง เป็นต้น

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/1LssAWj6TtTxgeC96 

==========

 

4. Atrani

 

 

      ต่อด้วย Atrani เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเล็กที่สุดในอิตาลี ด้วยพื้นที่เพียง 0.12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเมืองนี้ลดลงไป แต่กลับเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นน่ารักของชาวเมืองที่ค่อนข้างเป็นมิตร สถาปัตยกรรมสวยๆ และอาหารทะเลเลิศรส หากอยากชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ต้องไปที่ Church of St. Salvatore โบสถ์สวยประจำเมือง แต่ถ้าอยากนอนอาบแดดชิลๆ ล่ะก็ ต้องไปที่ หาด Spiaggia di Atrani เลย!

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/S6tKQsN4wv8mC3cx6 

==========

 

5. Capri

 

Grimas / Shutterstock.com

 

      แม้ว่า Capri จะไม่ได้รวมอยู่ในเมืองริมชายฝั่งอมาลฟี แต่ก็ตั้งอยู่ในส่วนของ อ่าวเนเปิลส์ (Bay of Naples) ที่ตั้งอยู่ในระแวกใกล้ๆ กัน และก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเยือนเกาะแห่งนี้ระหว่างการมาเที่ยวริมชายฝั่งอมาลฟีด้วย ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ถ้ำ Blue Grotto ที่เราต้องนั่งเรือลำเล็กลอดผ่านใต้ถ้ำเพื่อชมแสงสีน้ำเงินจากท้องทะเล Tyrrhenian นั่นเองค่ะ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาและสายลุย โดยจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลักๆ 3 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่  Monte Solaro, The Pizzolungo และ Via Krupp

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/CPudjauafWBhNEL19 

==========

 

6. Praiano

 

 

      ใครที่ชอบความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวหน่อย ก็ต้องมาที่ Praiano เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นเมืองพักตากอากาศขึ้นชื่อมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 แล้ว ภายในเมืองจะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดี รวมถึงพิกัดสายอาร์ตอย่าง Torre a Mare สตูดิโอศิลปะที่ตั้งอยู่ในหอคอยเมือง นอกจากนี้ยังมี เส้นทาง Sentiero Degli Dei แปลว่า "เส้นทางสู่พระเจ้า" เป็นเส้นทางบันไดที่ไต่ระดับจากเชิงเขาไปจนถึงจุดสูงสุดบนยอดเขาเลยค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/NNJXfi6KjvgeEPc49 

==========

 

7. Cetara

 

Cezary Wojtkowski / Shutterstock.com

 

      Seafood เลิฟเวอร์ต้องมาที่ Cetara ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล อีกทั้งยังเป็นแหล่งประมงทูน่าที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ด้านหน้าเมืองจะมี Spiaggia Lannino ชายหาดสีขาวที่ผู้คนนิยมมานอนอาบแดดและว่ายน้ำเล่น แถมยังมีเรือประมงสีสันสดใสจอดเต็มไปหมด ตัดกับตึกอาคารสีครีมและน้ำตาลอ่อนและน้ำทะเลสีฟ้าอย่างลงตัว ใครที่ได้ไป Cetara ในช่วงฤดูร้อนก็อาจจะมีโอกาสได้สัมผัสกับบรรยากาศงานใน วัน St. Peter ที่จะมีการจุดพลุเฉลิมฉลองทุกๆ ปีด้วยเช่นกัน

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/HkjHohmrVu9vr4k57 

 

==========

 

8. Vietri sul Mare

 

 

       ปิดท้ายด้วย Vietri sul Mare เมืองที่เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของชายฝั่งอมาลฟีถ้าเริ่มจากฝั่งตะวันออก แต่ถ้าเริ่มจากฝั่งตะวันตก เมืองแห่งนี้ก็จะเป็นพิกัดสุดท้ายค่ะ เราจะได้เห็นบ้านเมืองสีน้ำตาลอ่อนตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Monte San Liberatore รวมถึงชายหาดขนาดใหญ่มาแต่ไกล Vietri sul Mare ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตกระเบื้องจานชามที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ เพียงแค่เดินเข้าไปในเมืองเราก็จะเห็นร้านค้าขายเครื่องกระเบื้องสีสันสดใสเต็มข้างทาง ใครไปเมืองนี้แล้วไม่มีชิ้นงานสวยๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านสักชิ้นสองชิ้นก็ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ

 

Maria Uspenskaya / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/bvoqN7Pv6iXMSYveA 

 

ที่เที่ยวอิตาลีอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<