รีเซต

นอนแพริมน้ำ กาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน ทริปชิล แอดเวนเจอร์ ครบทุกฟีล

นอนแพริมน้ำ กาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน ทริปชิล แอดเวนเจอร์ ครบทุกฟีล
เอิงเอย
18 กรกฎาคม 2561 ( 11:00 )
125K
35

     จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้ นอนแพริมน้ำ ฟังเสียงสายน้ำแควที่ไหลเอื่อยไปท่ามกลางขุนใหญ่และผืนป่า เราจะพาไปเยี่ยมเมืองแห่งสายน้ำ และการผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุดของดินแดนสวรรค์ตะวันตกที่ กาญจนบุรี กันค่ะ ทริปสนุก และสุดชิลกำลังจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันใน 3 วัน 2 คืนนี้ ใครที่รักธรรมชาติ และความตื่นเต้นแอดเวนเจอร์ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวตามรอยเราได้เลย

 

 

 

DAY 1

      เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงกาญจนบุรีใช้เวลาไม่นานเพียง 3 ชม. เราก็มาถึงเมืองกาญจน์กันเป็นที่เรียบร้อยค่ะ สำหรับที่แรกที่เราจะแวะนั้นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่ไม่ได้ขับรถไปแบบปกติ เราซื้อแพ็คเกจ Boat Trip จากบ้านผู้พันทัวร์ นั่งเรือหางยาวไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว ค่ะ ถ่ายรูปไประหว่างทางอย่างชิล ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

 

      ระหว่างสองข้างทางเราก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำแควค่ะ มีคุณลุงพายเรือเก็บดอกบัว เห็นชุมชนริมน้ำ เป็นความรู้สึกที่ดีตั้งแต่เริ่มทริปเลยทีเดียว

 

     ไม่นานเราก็มาถึง สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์คของเมืองกาญจน์ ที่นี่แทบจะถือได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่เป็นอนุสรณ์ถึง สงครามโลก ครั้งที่ 2 แม้เรื่องราวตอนนั้นจะโหดร้ายมากมายก็ตาม แต่ตอนนี้ ที่นี่กลับสวยงามและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแวะมาเยี่ยมเยียน

 

      เราไปกันต่อที่ ปราสาทเมืองสิงห์ ปราสาทหินโบราณ โบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ตั้งอยู่ในเมืองกาญจนบุรีค่ะ ซึ่งมีสถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่  ปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี


       หลังจากเราแวะทานมื้อกลางวัน ก็ไปต่อกันที่ อ.ไทรโยค เพื่อไปลงเรือหางยาวเข้าที่พัก ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติใจกลางของป่าเขียวขจีริมแม่น้ำแควค่ะ

      สำหรับการเดินทางมารีสอร์ทนั้น เราสามารถนำรถมาจอดค้างคืนไว้ที่ลานจอดรถของรีสอร์ท และลงเรือหางยาวไปค่ะ ระหว่างทางเราก็จะได้ชมวิวที่สวยงามตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำแคว ลมเย็นๆ มาปะทะหน้าพร้อมสายน้ำที่กระเซ็นเย็นฉ่ำ แน่นอนว่าชิลสุดๆ แล้วก็ใช้เวลาไม่นานด้วยค่ะ ประมาณ 20 นาที เราก็มาถึง ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ เป็นที่เรียบร้อย

 

      เช็คอินเรียบร้อย ไปเดินดูห้องพักสักหน่อย บอกก่อนว่า ที่นี่เป็นห้องพักแบบไม่มีเครื่องปรับอากาศนะคะ เพราะคอนเซ็ปต์เขาอยากให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องอากาศร้อนเลย เพราะตอนกลางคืน ที่นี่อากาศจะเย็น นอนสบายๆ ค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ Slow Life ที่พักริมแม่น้ำแคว ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ 

 

      หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยก็ได้เวลาออกผจญภัยเล็กๆ กันแล้วค่ะ เราจะไปเที่ยวกันต่อที่ หมู่บ้านมอญ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับรีสอร์ท สำหรับทางเดินไปหมู่บ้านมอญนั้นจะเหมือนเดินเข้าไปในป่าเลยค่ะ แต่ก็มีทางเดินเป็นดินเรียบๆ เดินไปไม่ยาก สำหรับการแต่งตัว แนะนำให้แต่งกายสบายๆ รองเท้าผ้าใบจะดีมากค่ะ แนะนำให้ติดยากันยุงแบบสเปรย์ หรือยาทากันยุงอื่นๆ ไปด้วย เพราะยุงค่อนข้างชุมทีเดียว

 


      ภายในหมู่บ้านจะมีบ้านเรือนของคนในชุมชน มีโรงเรียนซึ่งเปิดเฉพาะวันหยุดเพื่อให้เด็กๆ ได้มาเรียนภาษามอญกัน นอกเหนือจากภาษาไทยที่ไปเรียนกันตามปกติในโรงเรียนอยู่แล้ว เดินมาอีกหน่อยก็จะมี วัดมอญ ด้วยค่ะ ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามปกติ เราสามารถทำบุญไหว้พระได้ และบริเวณใกล้ๆ วัดมอญ เราจะได้เจอกับ เจดีย์ชเวดากององค์จำลอง ซึ่งหันหน้าไปทางเมืองหงสาวดีอีกด้วย

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวหมู่บ้านมอญ ท่าเสา สัมผัสวิถีชีวิตสุดคลาสสิก

 

      หลังจากกลับมาจากหมู่บ้านมอญ เราก็มาล่องแพกันต่อค่ะ ได้ชมทัศนยภาพสวยๆ ของแม่น้ำแควช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดิน หรือถ้าใครอยากพายเรือคายัคก็สามารถ เต็มที่กันไปเลย


      หลังมื้อค่ำที่รีสอร์ทยังมีกิจกรรมดีๆ ที่หาชมได้ยากก็คือ ระบำมอญ โดยใช้ชาวมอญท้องถิ่นซึ่งได้รับการฝึกสอนจากรุ่นสู่รุ่น การแสดงจะถูกกำกับโดยผู้ฝึกสอนชาวเมียนมาร์ รวมถึงยังมีการใช้เครื่องดนตรีท้องถิ่นในการบรรเลงเพลงประกอบอีกด้วยค่ะ

 

 

 

DAY 2

       เราตื่นนอนแต่เช้ากันหน่อยเพื่อไปชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที 2 ที่ โฮมพุเตย รีสอร์ท ค่ะ ที่นี่จะรวบรวมประวัติศาสตร์ของการก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะไว้ รวมไปถึง และใน พิพิธภัณฑ์เอ็ดเวิลด์ แวรี ดันลอป เป็นอนุสรณ์สถานแห่งมิตรภาพ และเพื่อการรำลึกถึงความโหดร้ายในสมัยนั้น ภายในยังเก็บรวบรวมสิ่งของส่วนตัวที่หายาก และมีความเกี่ยวข้องกับทางรถไฟแห่งนี้ไว้อีกด้วย

 

      หลังจากเดินชมพิพิธภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาแห่งความสนุกสุดแอดเวนเจอร์กับกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ถ้ามาเมืองกาญจน์ Tree Top Adventure Park ค่ะ ใครชอบความสนุก ตื่นเต้นท้าทายแบบ Extreme ท้าให้มาลอง และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะที่สาขานี้ตัวเราจะมีการผูกกับห่วงอลูมิเนียม 1 อันอยู่ตลอดเวลาที่ร่วมกิจกรรมภายในที่นี่ และมีสต๊าฟดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ ขาลุยอย่างเราจะพลาดได้ยังไง !


อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สวนสนุกบนยอดไม้ Tree Top Adventure Park 

 

      จบกิจกรรมแอดเวนเจอร์มันส์สุดๆ ไปแล้ว ก็ได้เวลาแห่งความชิลค่ะ เราเดินทางกันต่อไปยังที่พักในคืนที่ 2 หินตกริเวอร์แค้มป์ เต็นท์หรูติดแอร์ สไตล์เต้นท์ซาฟารี ไฮไลท์ก็คือ ห้องพักทุกห้องจะเป็นเต็นท์ ขนาดใหญ่สไตล์ค่ายพักแรมทั้งหมด ความกว้างขวางพอๆ กับห้องพักทั่วๆ ไปเลยค่ะ และแต่ละหลังก็จะเว้นระยะห่างกันค่อนข้างชัดเจน ทำให้เป็นส่วนตัวมากๆ บรรยากาศสงบ ผ่อนคลาย เหมาะแก่การมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ

     
      นอกจากนี้ ที่นี่ยังมี สระน้ำธรรมชาติไหลมาจากภูเขา ผ่านการกรองอย่างดีโดยชั้นหิน ให้ได้ลงไปเล่นน้ำคลายร้อนริมแม่น้ำแควกันสักหน่อยอีกด้วย สำหรับมื้อเย็นของเราโรแมนติกมาก เพราะเป็นบาร์บีคิวรอบกองไฟ เต็นท์ตอนกลางคืนก็สวยๆ ฟีลดีมากๆ เลยค่ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ เต็นท์ติดแอร์ หินตกริเวอร์แคมป์ ใกล้ชิดธรรมชาติ

 

DAY 3


     เช้าวันที่ 3 มาถึงอย่างรวดเร็ว เรายังตื่นเช้ากันเหมือนเดิมค่ะ เพราะมีกิจกรรมชิลๆ ตั้งแต่เช้าที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด ก็คือ การปั่นจักรยานไปตักบาตรที่วัดหาดงิ้ว ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร อากาศตอนเช้าตรู่ของบริเวณนี้ก็เย็นสบาย และสดชื่นจนสลัดความงัวเงียได้เป็นปลิดทิ้ง ระหว่างทางยังผ่านสะพานแขวนเล็กๆ ผ่านได้แค่จักรยาน และมอเตอร์ไซค์ให้ได้ตื่นเต้นเล็กๆ

 

     ก่อนกลับบ้านในวันนี้ เราพากันไปเที่ยวชิลต่อริมแม่น้ำแควกันบนรางรถไฟสายมรณะ ที่ สถานีรถไฟ ถ้ำกระแซ จุดชมแม่น้ำแควที่เรียกว่าวิวดีที่สุดในเมืองกาญจนบุรีก็ว่าได้

      ถ้ำกระแซ เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า และภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ด้วย ความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ไปเหยียบสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์โลก

 

 

      หลังจากเดินชมถ้ำกระแซเรียบร้อย ขอไปถ่ายรูปสวยๆ ที่รางรถไฟดูบ้าง ตรงจุดนี้คือจุดที่เรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะ ถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟ ด้วยความสูงมากๆ และติดเลียบหน้าผาทำให้เสียวสันหลังเล็กๆ

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ หนีร้อนมานอนแพ เที่ยวถ้ำกระแซ ที่เมืองกาญจน์

 

       จบทริป 3 วัน 2 คืน สนุกสุดๆ ได้ครบทุกอารมณ์การท่องเที่ยวเมืองกาญจน์ เมืองแห่งสายน้ำและการผจญภัยจริงๆ ค่ะ ใครที่อยากมาสัมผัสกับรสชาติของการเดินทางแบบเราก็มาตามโปรแกรมนี้ได้เลยนะคะ รับรองว่า การันตีความสนุกสุดๆ และชิลมากๆ ไปพร้อมๆ กัน

 

 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่น่าสนใจอื่นๆ

ปิล็อก ไปลอง แล้วจะรัก ทริปวันหยุด
เที่ยวกาญจนบุรี มีแต่ความฟิน

9 สิ่งที่ต้องทำที่ สังขละบุรี มีอะไรให้เที่ยว
ชิลเบอร์ไหน ต้องไปเอง !

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่