ไซเรน สัตว์ประหลาดตามตำนานกรีก กับบทเพลงมรณะของนักเดินทาง
ถ้าไปถามนักท่องเที่ยวมือใหม่สมัยนี้ว่ากลัวอะไรกัน เราคงได้คำตอบหลากหลายกันไป ทั้งกลัวหลงทาง กลัวพาสปอร์ตหาย กลัวงบที่เตรียมไปไม่พอ ฯลฯ แต่รู้มั้ยครับว่าเมื่อก่อนนั้นเขากลัวสิ่งที่เรียกว่า "ไซเรน" (Siren) กันมากกว่า สัตว์ประหลาดที่คอยหลอกล่อนักเดินทางด้วยเสียงเพลงนี้จะเป็นยังไง ไปติดตามกันได้เลยครับ
ไซเรน (Siren) ปีศาจตามตำนานเทพปกรณัมกรีก กับบทเพลงมรณะ
ตำนาน ที่มาของไซเรน
ตามตำนานนั้น ไซเรนเป็นอมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวย เป็นสาวงามแต่ว่ามีขาเป็นครีบปลาคล้ายนางเงือก แต่พออยู่บนบกก็จะมีปีกบินได้ ทั้งนี้ลักษณะทั่วไปของไซเรนจะแตกต่างกันไปในแต่ล่ะตำนาน บางที่ก็ว่าเป็นนกที่มีหัวเป็นผู้หญิงไปเลยก็มี ด้านความสามารถหลักๆ อันขึ้นชื่อลือชาของไซเรนก็คือการสะกดจิตผู้คนให้ทำตามคำสั่งของตัวเอง ด้วยบทเพลง และเสียงอันไพเราะ เมื่อก่อนเชื่อกันว่าบรรดานักเดินเรือพอได้ยินเสียงของไซเรน ต่างก็ตกอยู่ในภาวะไร้สติ บังคับเรือไม่ได้ ชนหินโสโครกจนจมน้ำ และถูกนำไปเป็นอาหารในที่สุด
ต้นกำเนิดของไซเรนมีบิดาเป็นเทพประจำแม่น้ำ อเคโลอัส (Achelous) ส่วนมารดาคือ 1 ในเทพธิดามิวส์ (Muse) ซึ่งไม่ปรากฎข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นองค์ไหน เพราะมิวส์นั้นมีถึง 9 นางด้วยกัน แต่ก็ว่ากันว่าอาจจะเป็น เทิร์ปซิคอเร Terpsichore หรือ เมลพอมินี Melpomene แต่แรกไซเรนจึงมีศักดิ์มีสถานะเป็นเหมือนนางอัปสรประจำแม่น้ำ ซึ่งไซเรนมิได้มีเพียงคนเดียว แต่มีจำนวนไม่แน่นอนแล้วแต่ตำรา
จากนางฟ้าสู่ปีศาจร้าย
แรกเริ่มเดิมทีไซเรนก็เป็นเทพธิดาแสนสวยที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ก็มีเหตุให้ร่างกลายครึ่งหนึ่งต้องถูกสาป ซึ่งก็มีหลายตำนานที่ต่างกันออกไป หลักๆ ก็ได้แก่
เหล่าไซเรนได้รับหน้าที่เป็นผู้รับใช้ติดตามเทวี เพอร์เซโฟนี (Persephone) วันหนึ่ง เทพฮาเดส (Hades) ราชาโลกหลังความตาย มาลักพาตัวเทวีไป พวกไซเรนจึงอ้อนวอนต่อเทพให้ประทานปีกให้ เพื่อที่จะได้ไล่ตามไป แต่บางตำนานก็ว่าพวกนางถูก เทวีดิมีเทอร์ (Demeter) สาปให้มีรูปลักษณ์เช่นนั้น เพื่อเป็นการลงโทษที่ไม่ดูแล เทวีเพอร์เซโฟนีให้ดี ปล่อยให้เทพฮาเดสมาฉุดเอาตัวไปได้
อีกตำนานเล่าว่า แต่เดิมเหล่าไซเรนนี้มีเสียงขับร้องที่ไพเราะเพราะพริ้ง และยิ่งได้รับการยุยงจาก เทวีเฮร่า (Hera) ทำให้กล้าไปท้าทายเหล่าเทพธิดามิวส์ให้มาประชันขันแข่งกับตน แต่เหล่าไซเรนก็พ่ายแพ้กลับมา เทพธิดามิวส์จึงลงโทษด้วยการถอนขนปีกมาทำมงกุฎ เหตุนี้ด้วยความอับอายไซเรนจึงหลบหนีไปอยู่ตามหินโสโครกแถบชายฝั่งอิตาลีตอนใต้ และคอยร้องเพลงเพื่อหลอกล่อเหล่านักเดินเรือนั่นเอง
ไซเรนในตำนานกรีกต่างๆ
เรื่องราวของไซเรนนั้นมีบทบาทมากที่สุดในมหากาพย์โอดิสซีย์ ช่วงการออกเดินทางของโอดิสซีอุส ซึ่งหลังจากทำสงครามกับกรุงทรอยเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็เดินทางกลับเมือง ซึ่งระหว่างทางต้องผ่านเกาะของไซเรนด้วย โอดิสซีอุสจึงสั่งให้ลูกเรือเอาขี้ผึ้งอุดหูไว้ ส่วนตัวเองรู้ว่าเสี่ยงแต่ก็อยากลองฟังเสียงไซเรนซักครั้ง เลยตัดสินใจไม่อุดหู แล้วผูกตัวเองไว้กับเสากระโดงเรือ เพื่อที่ว่าต่อให้เคลิบเคลิ้มในเสียงดนตรีก็ไม่สามารถโดดออกจากเรือไปได้ ผลก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อได้ยินบทเพลงของไซเรนโอดิสซีอุสก็พยายามดิ้นรนให้หลุดเชือกเพื่อจะโดดลงน้ำ ว่ายไปยังเกาะของไซเรน แต่เชือกที่มัดไว้นั้นแน่นหนามาก พระองค์เลยรอดมาได้
อีกตำนานกรีกที่ปรากฏบทบาทของไซเรน คือ เรื่องการเดินทางของเจสัน และเหล่าลูกเรือ (Jason and the Argonauts) ที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับพร้อมขนแกะทองคำจากนครโคลคีส เรืออาร์โกได้ผ่านเกาะของนางไซเรน พวกไซเรนก็ร้องเพลงหลอกล่อให้เข้าไปใกล้เกาะ ทว่านางเมเดีย ภรรยาของเจสันได้บอกให้ออร์ฟีอุสยอดนักพิณ บรรเลงเพลงให้ไพเราะยิ่งกว่าเสียงของพวกไซเรน ทำให้พวกไซเรนอับอาย และหนีหายไป เจสันและพรรคพวกจึงรอดพ้นจากหายนะมาได้
โลเรไล Lorelei หญิงสาวแห่งแม่น้ำไรน์
ในเยอรมนีเอง ก็มีนักประพันธ์ชาวเยอรมัน เคลเมนส์ เบรนทาโน (Clemens Brentano) ประพันธ์เพลงเกี่ยวกับการล่องแม่น้ำไรน์ ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงหญิงสาวผู้งดงาม แต่ถูกชายคนรักทรยศ เธอถูกกล่าวหาว่าใช้มารยาล่อหลอกผู้ชายมาฆ่าจนถูกตัดสินประหารชีวิต แต่บิชอปได้ให้โอกาส โดยให้เธอบวชเป็นชี ระหว่างเส้นทางไปยังอาศรม เธอได้ผ่านหน้าผาหินโลเรไล ที่ซึ่งเธอเคยพบกับชายคนรักก่อนจะถูกเขาทรยศ เธอจึงขออนุญาตผู้คุมว่าอยากจะชมวิวแม่น้ำไรน์ เหล่าอัศวินจึงยอม โดยไม่คิดว่าเธอจะกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย นับแต่นั้นวิญญานของหญิงสาวก็สิงสถิตอยู่ที่ผาหิน คอยส่งเสียงคร่ำครวญให้ผู้คนสัญจรผ่านไปมาได้เสียวสันหลัง
ต่อมา ไฮน์ริช ไฮน์ (Heinrich Heine) กวีอีกคนได้นำเค้าโครงของเบรนทาโนมาแต่งเป็นบทกวีที่ชื่อ Die Lorelei โดยผสมเรื่องราวของเธอเข้ากับตำนานไซเรน โดยโลเรไลจะนั่งหวีผมสีทองอยู่บนโขดหิน ร้องเพลงอันไพเราะหลอกล่อให้ชาวเรือแล่นชนโขดหิน จมลงสู่ความตาย
====================