รีเซต

เช็คลิสต์ รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น แบบสั้นๆ 32 เมือง 7 ภูมิภาค เท่าที่เคยไป อยากไปเที่ยวเมืองไหน ปักหมุดกันได้เลย

เช็คลิสต์ รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น แบบสั้นๆ 32 เมือง 7 ภูมิภาค เท่าที่เคยไป อยากไปเที่ยวเมืองไหน ปักหมุดกันได้เลย
เอิงเอย
25 ธันวาคม 2562 ( 20:00 )
10.4K
2

     รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น แบบสั้นๆ 32 เมือง 7 ภูมิภาค 📌 รวมทุกเมือง ตั้งแต่เที่ยวญี่ปุ่นมาของ Movearound Journey เคยไปเช็คอินที่เมืองไหนมาแล้วบ้าง ลองมาดูเป็นไอเดียนะ อยากไปเที่ยวเมืองไหนก็ปักหมุด ชวนเพื่อน เลย! 🤗✈

 

เที่ยวญี่ปุ่น

32 เมือง 7 ภูมิภาค

 

      โพสต์นี้ไม่มีอะไรมาก แค่นั่งดูรูปเก่าๆ ที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วพบว่า เฮ้ย นี่เราไป #ญี่ปุ่น มาทั้งหมด 32 เมืองแล้วเหรอนี่ เหลืออีกแค่ภูมิภาคเดียว ก็จะครบทุกภูมิภาคแล้ว ก็เลยตกใจตัวเอง เพราะเริ่มต้น เราไม่ใช่คนที่มีญี่ปุ่นเป็น Dream Destination แค่ชอบเดินทางเฉยๆ แต่พอมาดูรูป ถึงเพิ่งรู้ตัวว่ากลายเป็นคนเสพติดญี่ปุ่นไปซะแล้ว

      เราก็เลยอยากเอารูปของแต่ละเมือง พร้อมรีวิวแบบสั้นๆ มาแบ่งปันกัน หวังแค่อาจจะเป็น แรงบันดาลใจ หรือไอเดียให้เพื่อนๆ วางแผนสำหรับทริปต่อไปได้ หรือจะลองเช็คลิสต์ญี่ปุ่นของตัวเองบ้างก็ได้ว่าเคยไปเช็คอิน ที่เมืองไหนกันมาแล้วบ้าง แล้วเอารูปมาอวดกันบ้างนะ📸

 

Kanto

 

📌 โตเกียว

 

 

      เมืองหลวงของแดนปลาดิบ ใครไปญี่ปุ่นครั้งแรก ยังไงก็คงเลือกไปโตเกียวกันอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆ เราไม่ค่อยชอบเมืองใหญ่นะ แต่แปลก ไปญี่ปุ่นทีไรเราต้องแวะไปโตเกียวเกือบทุกครั้ง อาจเพราะมันมีมุมสงบอยู่ ไม่ได้มีแต่มุมวุ่นวายเหมือนภาพที่เคยเห็นกันตามสื่อ แถมยังมีคาเฟ่ชิคๆ เยอะมากๆ ไปแต่ละครั้งอารมณ์ได้ไม่ซ้ำกันเลย

 

 

📌 เกียวโต

 

 

     อดีตเมืองหลวงเก่า เหมาะสำหรับสายวัฒนธรรม หรือคนที่ชอบเที่ยววัด เที่ยววัง ถ้าใครจะไปแบบ One Day Trip จากโอซาก้า เราว่าวันเดียวเที่ยวไม่หมดนะ ควรแบ่งไปสัก 2 วัน ส่วนตัวเราไปมาสองฤดูกาล ทั้งใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระ คนเยอะทั้งสองฤดูเลย แต่ก็สวยทั้งสองฤดูเช่นเดียวกัน

 

 

📌 ฮาโกเนะ

 

 

      หนึ่งในเมืองที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ เหมาะสำหรับสายผจญภัยเพราะวิธีการเดินทางนั้นวาไรตี้มาก ทั้งนั่งรถไฟ ไต่รถรางภูเขา ขึ้นกระเช้า และล่องเรือโจรสลัด มิชชั่นที่ต้องทำคือกินไข่ดำอายุยืนที่เขาบอกกันว่ากินไข่ดำ 1 ลูก อายุจะยืนขึ้น 7 ปี!

 

📌 ชิบะ

 

ชิบะ เที่ยวญี่ปุ่น 7 ภูมิภาค

 

      เราว่าหลายคนรู้ แต่มองข้ามไป เพราะพูดถึงชิบะอาจจะทำหน้างงๆ ทั้งที่ชิบะคือเมืองแรกที่เราทุกคนต้องเหยียบเมื่อสองเท้าก้าวลงแผ่นดินแดนปลาดิบ เพราะมันคือที่ตั้งของ สนามบินนาริตะ ! มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากกว่าที่คิด เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ควรมองข้ามเลย

 

📌 นิกโก

 

 

      เมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ในจังหวัดโทะชิงิ ซึ่งสามารถ One Day Trip จากโตเกียวไปเที่ยวได้เช่นกัน เราก็ไปแค่วันเดียว เที่ยวแต่โซนธรรมชาติ ไปช่วงรอยต่อระหว่างใบไม้เปลี่ยนสีกับฤดูหนาว ได้เจอเมเปิ้ลสีแดงตรงสถานีรถไฟ แล้วก็เจอหิมะตกบนภูเขา โคตรคุ้มเลย

 

📌 โยโกฮามา

 

 

       อยู่ใกล้โตเกียวแค่เอื้อมก้าว เปรียบไปก็คงเหมือนนนทบุรีหรือฝั่งธนนั่นแหละ แต่บรรยากาศโรแมนติกกว่าที่คิดมาก โดยเฉพาะท่าเรือ Osanbashi Pier ถ่ายรูปโคตรสวย บรรยากาศโคตรชิล

================

 

Hokkaido

 

📌 ซัปโปโร

 

 

      เมืองหลวงของฮอกไกโด ครึกครื้น และมีสีสันมากที่สุดบนเกาะฮอกไกโด เราเคยไปมา 2 ฤดูกาล คือ ใบไม้เปลี่ยนสีกับช่วงเทศกาลหิมะ ชอบช่วงฤดูหนาวมากกว่า เพราะมันขาวโพลนไปหมด สวยแปลกตาแบบที่บ้านเราไม่มี

 

📌 โอตารุ

 

     เมืองเล็กๆ ใกล้ซัปโปโร นั่งรถไฟไปประมาณครึ่งชั่วโมงเองมั้ง เป็นเมืองที่โรแมนติกทุกฤดูกาล หวานจนหิมะยังละลาย ตอนเราไปเจออากาศ -8.9 องศา แถมมีพายุหิมะอีก แต่คนก็ยังเดินเที่ยวกันไม่หวั่น ถ้าใครชอบความโรแมนติกแนะนำช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เขามีเทศกาลจุดเทียนกลางหิมะ โรแมนติกมากและก็หนาวมากเช่นเดียวกัน

 

📌 อาซาฮิกาวะ

 

 

      ชอบมากกกกก เป็นเมืองทางผ่านที่ไม่เคยคาดคิดไว้เลยว่าจะชอบมากขนาดนี้ ทุกอย่างมันดูสวยงาม เรียบง่ายไปหมด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองนี้คือ สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (อย่าจำสับสนกับชื่อเมือง) เป็นสวนสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีระบบจัดการดีที่สุดในญี่ปุ่น อยากรู้ว่าดียังไงต้องลองไปเที่ยวเอง : )

 

📌 อะบาชิริ

 

      เขาเล่าว่าเมืองนี้อดีตคือ สถานที่กักขังนักโทษคดีแรงๆ เพราะบรรยากาศนั้นแห้งแล้งและกันดารสุดเหลือจะบรรยาย ฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของที่นี่ก็คือคุก! ซึ่งเคยกักขังนักโทษจริง แต่อะบาชิริก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ นะ โดยเฉพาะคนที่ชอบธรรมชาติ รับรองว่าได้สัมผัสกันแบบเรียลๆ แน่นอน

 

📌 บิเอะ

 

 

      เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการ Road Trip มากกก ใครชอบฟีลแบบขับรถไปเรื่อยๆ มองวิวข้างทางสวยๆ ที่กว้างชนิดเรียกว่าสุดลูกหูลูกตา แล้วเปิดเพลงฟังแบบชิลๆ แนะนำเมืองนี้เลย ไปแล้วรู้สึกโคตรอิสระ ถ่ายรูปก็สวยอีกต่างหาก

 

📌 โอบิฮิโระ

 

 

      เป็นเมืองที่เราไปมาสองฤดูกาลอีกเช่นกัน แต่เป็นฤดูหนาวกับฤดูร้อน บรรยากาศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่รับรองว่าสวยทั้งสองฤดู ช่วงฤดูหนาวจะมีเทศกาลหิมะที่มี Ice Bar ด้วย เข้าไปนั่งจิบมอคเทลในอิกลู ได้รูปแบบโคตรชิคเลย!

 

📌 โนโบริเบ็ทสึ

 

 

      สายออนเซ็นควรปักหมุดที่เมืองนี้ เพราะคนฮอกไกโดเขาคอนเฟิร์มมาแล้วว่า ที่นี่คือแหล่งแช่ออนเซ็นที่ดีที่สุดในฮอกไกโด แต่เราไปแบบเช้าเย็นกลับจากซัปโปโรก็เลยไม่ได้แช่ออนเซ็น แวะไปแค่ Oyunuma ซึ่งมีน้ำพุร้อนธรรมชาติกลางป่าสำหรับแช่เท้าฟรี ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆ

 

📌 ฮาโกดาเตะ

 

 

      เป็นเมืองท่าที่มีชื่อเสียงพอตัว ใครชอบเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ แบบชิลๆ แนะนำให้มาเที่ยวเมืองนี้ เมื่อยก็ขึ้นรถรางเที่ยวได้เกือบรอบเมือง ที่สำคัญคือมาถึงถิ่นแล้วอย่าลืมซื้อ ชีสเค้ก Snaffle's โอ๊ย มันอร่อยมากกกกก

================

 

Tohoku

 

📌 ฟุกุชิมะ

 

 

       เราไปมาช่วงฤดูหนาว จริงๆ แล้วเป็นทางผ่านระหว่างนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวไปฮอกไกโด แต่เป็นทางผ่านที่ตราตรึง เพราะบรรยากาศรอบๆ สวยมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่มีหิมะปกคลุมทั่วเมือง ถึงจะดูเหงา แต่ก็เป็นความเหงาที่สวยงาม

 

📌 มิยางิ

 

 

      เราไปเพื่อเที่ยว หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก โดยเฉพาะ สามารถ One Day Trip จากโตเกียวไปได้นะ นั่งชินคันเซ็นไม่นานเลย เรามี JR Rail Pass อยู่ก็เลยใช้ให้คุ้ม แต่พอไปถึงสถานี Shiroishizao ที่เมืองเซนไดแล้วต้องต่อแท็กซี่ไป ซึ่งราคามหาโหด ประมาณ 3,500 เยน/เที่ยว ถ้าไปกันหลายคนเช่ารถขับก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเด้อ

================

 

Chubu

 

📌 โทคามาจิ

 

 

      เมืองอาร์ตแห่งแดนปลาดิบ เดินไปมุมไหนก็ชิค เพราะมีงานอาร์ตประดับประดาให้ชมอยู่ทั่วหมู่บ้านกว่า 200 แห่ง เราไปช่วงเดือนมีนา เขาจะมีงานเทศกาลจุดพลุฤดูหนาวที่อลังการงานสร้างที่สุดเท่าที่เราเคยสัมผัสมาด้วย ใครชอบถ่ายรูป ยังไงก็ห้ามพลาดเมืองนี้!

 

📌 ยูซาวา

 

 

      ลานสกีที่ใกล้โตเกียวมากที่สุด แถมยังพบเจอคนไทยได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน เพราะที่ลานสกีมีภาษาไทยด้วย! เราไปมาเมื่อต้นปีนี้เอง ไปเรียนสโนว์บอร์ด นอนในสกีรีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีงามจนลืมไม่ลง : )

 

📌 นาโกย่า

 

 

      เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ ปัจจุบันคงมีคนไปเที่ยวมากกว่าเดิมแล้วเพราะมีหลายสายการบินเปิดไฟลท์บินตรงไปลงที่สนามบินนาโกย่าด้วย แต่เราไปมาเมื่อหลายปีก่อนนู้นนน ยังไม่ค่อยมีใครไปเที่ยวเท่าไร แวะไปนอนแค่ 1 คืน ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ทำดีมากกกกกก มีห้องทดลองความหนาวสุดขีด มีท้องฟ้าจำลองที่ได้การรับรองจากกินเนสส์บุ๊กด้วย ใครชอบวิทยาศาสตร์มีได้ขลุกอยู่ในนั้นทั้งวันแน่นอน

 

📌 คาวากุจิโกะ

 

 

      เมืองยอดฮิตตลอดกาลสำหรับดูฟูจิซัง ใครไปญี่ปุ่นครั้งแรก แนะนำให้แวะไปนอนที่เมืองนี้สักคืน เพราะเดินทางง่ายจากโตเกียว แถมบรรยากาศรอบทะเลสาบนั้นยังอบอุ่นน่ารัก เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนแบบชิลๆ แต่วิวอลังการมากกกก

 

📌 ชิซึโอกะ

 

 

      ขึ้นชื่อสุดคงเป็นเรื่องชา แต่จริงๆ แล้ว ชิซึโอกะเป็นจังหวัดเจ้าภาพของภูเขาไฟฟูจิเลยนะ ไม่ว่าจะไปเที่ยวฝั่งซ้าย ฝั่งขวา ก็สามารถมองเห็นฟูจิซังได้ทั้งเมือง! แถมยังเห็นใกล้และชัดกว่าที่อื่นอีกด้วย เป็นอีกเมืองที่เราชอบมากๆ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและสวยงามกว่าที่คิด ยังนึกอยากกลับไปอีกรอบเลย

================

 

Kansai

 

📌 นารา

 

 

      กวางคือพระเอกของเมืองนี้! แต่ส่วนตัวเราชอบที่นาราเป็นเมืองเล็กซึ่งสามารถเดินเท้าเที่ยวได้ทั้งเมือง เพราะเราเป็นคนชอบเดิน ยิ่งไปช่วงซากุระ อากาศดี ไม่ร้อน ไม่หนาว โอ้โห เดินถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวันเลย

 

📌 โอซาก้า

 

 

      จะบอกว่าเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคคันไซก็ได้ เพราะโอซาก้านี่คึกคักไม่แพ้โตเกียวเลย มานอนที่เมืองนี้สามารถ One Day Trip ไปเที่ยวเมืองรอบๆ เช่น เกียวโต นารา โกเบ ได้ ตอนที่เราเที่ยวคันไซก็ใช้วิธีนี้แหละ เพราะไม่อยากเปลี่ยนที่นอนบ่อยๆ อ่อ ใครชอบกิน ปักหมุดเมืองนี้เถอะ ของอร่อยเพียบ!

 

📌 วากายาม่า

 

 

      เราไปเพื่อเที่ยวสถานีแมวทามะโดยเฉพาะ เพราะตอนนั้นเจ้าเหมียวทามะ นายสถานีแมวดังมาก (ปัจจุบันทามะจากไปแล้ว แต่ก็มีนุ้งแมวตัวอื่นมาแทน) ส่วนตัวชอบสตอรี่ของที่นี่ เพราะแต่ก่อนเป็นสถานีเก่าเกือบปิดร้าง แต่ได้เจ้าเหมียวทามะมาช่วยดึงความสนใจจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังขึ้นมาได้ ชอบความพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสของคนญี่ปุ่นจริงๆ

 

📌 โกเบ

 

 

     เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่สามารถไปเที่ยวแบบ One Day Trip ได้ เพราะเดินทางไม่นานจากโอซาก้า บรรยากาศชิลๆ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ถ้าใครชอบเมืองเล็กๆ เงียบๆ เราว่าที่นี่ตอบโจทย์

================

 

Chugoku

   

 📌 ฮิโรชิมา

 

 

      จริงๆ แล้วเป็นทางผ่านระหว่างนั่งรถไฟลงไปเที่ยวคิวชู แต่เป็นทางผ่านที่ตั้งใจเพราะเราเป็นคนชอบเรื่องราวของประวัติศาสตร์มาก ฉะนั้นฮิโรชิมาจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองในญี่ปุ่นที่อยากไปมากๆ พอได้มาจริงๆ มันมีหลายความรู้สึกอัดแน่นผสมปนเปกันไปหมด

      ทุกเรื่องราว ทุกร่องรอยของอดีตยังคงเหลือให้เห็น แต่ทุกคนนั้น Move on หมดแล้ว คงค้างสิ่งเก่าๆ ไว้เพื่อเป็น “บทเรียน” เท่านั้น ใครชอบประวัติศาสตร์เหมือนกัน เราว่าต้องชอบเมืองนี้ เป็นเมืองที่อัดแน่นด้วยความรู้สึกล้วนๆ เลย

================

 

Kyushu

 

📌 คุมาโมโต้

 

 

     มาสคอตที่ทำให้เมืองนี้โด่งดังคือ คุมะมง ส่วนสายรถไฟที่หลายคนอยากมานั่งคือ Aso Boy รถไฟที่จะพาเราเดินทางไปยังอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ของคิวชู นั่นก็คือ ภูเขาไฟอะโสะ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงคุกรุ่นอยู่ แต่สามารถไปเที่ยว ไปถ่ายรูปรอบๆ ได้ แต่ถ้าอยากนั่งรถไฟ Aso Boy ต้องวางแผนเรื่องเวลานิดนึง เพราะมีตารางในการวิ่งที่แน่นอนของแต่ละปีจ้า

================

 

📌 ฟุกุโอกะ

 

 

      ฟุกุโอกะ เคยติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ซึ่งเราไม่มีอะไรจะเถียงและคัดค้านเลย เพราะบรรยากาศของที่นี่มันส่งให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน การเดินทางสะดวก ไม่ซับซ้อน แถมแมวยังเป็นมิตรมากๆ แค่ลงไปนั่งใกล้ๆ มันก็เดินมาอ้อน มานอนบนตักแล้ว โอ๊ย เมืองอะไร ขนาดแมวยังเป็นมิตรเลย!

 

📌 ยูฟุอิน

 

 

      เมืองเล็กกลางหุบเขา แต่ก่อนเคยได้รับสมญานามว่า “เมืองปายแห่งแดนปลาดิบ” เพราะบรรยากาศน่ารักอบอุ่น คล้ายเมืองปาย มีสายรถไฟที่โด่งดังและจองยากมากกกก นั่นก็คือ Yufuin No Mori แต่ขอการันตีเลยว่าคุ้มค่าต่อการพยายาม

 

📌 เบปปุ

 

 

      เมืองออนเซ็นของภูมิภาคคิวชู ตั้งอยู่ในโออิตะ จังหวัดเดียวกับยูฟุอินนั่นแล แต่เราไปแบบ One Day Trip จากฟุกุโอกะ ไฮไลท์ของเมืองนี้คือทัวร์บ่อนรก 8 บ่อ เป็นบ่อออนเซ็นที่มีแร่ธาตุต่างกันจึงทำให้มีสีที่แตกต่างกันไป บางบ่อมีสวนสัตว์ด้วยนะ ถ้าใครมีเวลาก็เก็บให้ครบ 8 บ่อเลย แต่เราไปไม่ครบ เพราะเวลาไม่พอจ้า

 

📌 นางาซากิ

 

      อีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันแทบไม่เหลือร่องรอยแล้ว เมืองนี้เราตั้งใจมุ่งหน้าไปเพื่อเที่ยว Huis Ten Bosch ธีมพาร์คขนาดใหญ่ บรรยากาศยุโรป ใครจะไป แนะนำช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเมษา เพราะมีเทศกาลดอกทิวลิป ถ่ายรูปมาหลอกเพื่อนได้ว่าวาร์ปจากญี่ปุ่นไปเนเธอร์แลนด์มานะว้อยย 😆😛

================

 

Okinawa

โอกินาวา

 

 

      เกาะใต้สุดของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ทำให้หลายคนสามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบงบน้อยได้ เพราะตั๋วเครื่องบินถูกมาก ตอนเราไปใช้งบไปแค่ 15,000 บาทเอง เช่าขับรถอีกต่างหาก บรรยากาศชิลกว่าที่คิด แถมสถานที่ต่างๆ ก็ชิคมาก ไปเหอะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง : )

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก เพจ Movearound Journey