รู้จัก 2 เทพญี่ปุ่นในศาลเจ้าชินโตศรีราชา อามาเทราสึ และอุกะโนะมิทามะ ทำไมต้องเป็นสององค์นี้?
หลายคนน่าจะรู้กันแล้วว่าประเทศไทยนี้เพิ่งมี ศาลเจ้าชินโตศรีราชา ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งนับว่าเป็นศาลเจ้าญี่ปุ่นแห่งแรกในไทยเลยก็ว่าได้ ใครอยากไปเยี่ยมชม หรือสักการะบูชาก็สามารถไปเยือนได้ง่ายๆ แล้ว โดยที่นี่ก็จะเป็นที่พำนักของเทพญี่ปุ่น 2 องค์ด้วยกัน นั่นคือ เทพเจ้าอามาเทราสึ (Amaterasu Omikami) เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ และแสงสว่าง และ เทพเจ้าอุกะโนะมิทามะ (Ukanomitama no Kami) หรือที่รู้กันกันในนาม เทพเจ้าอินาริ เทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม และการค้าขายนั่นเองครับ ครั้งนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำให้ใครที่สนใจ ได้มาทำความรู้จัก และตำนานที่เกี่ยวข้องกับเทพทั้ง 2 องค์นี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงมีความสำคัญถึงขนาดต้องอัญเชิญมาไกลถึงต่างบ้านต่างเมืองขนาดนี้?
ตำนาน อามาเทราสึ Amaterasu เทพีแห่งดวงอาทิตย์
แน่นอนว่านี่คือ 1 ในเทพที่มีความสำคัญมากๆ ของประเทศญี่ปุ่นครับ เพราะมีความเชื่อกันว่าจักรพรรดิของประเทศนั้นสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากท่านเทพีอามาเทราสึนั่นเอง และยังถือว่าเป็นเทพสูงสุดตามความเชื่อของชินโตด้วย โดยท่านมีชื่อเต็มว่า อามาเทราสึ โอมิคามิ (Amaterasu Omikami) ถือกำเนิดขึ้นมาจากน้ำตาที่ไหลจากตาซ้ายของ เทพอิซานากิ ระหว่างที่กำลังทำพิธีชำระล้างนั่นเอง
ถึงตรงนี้ จะมีเทพที่ถือกำเนิดพร้อมๆ กันอีก 2 องค์ คือ เทพจันทรา สึคุโยมิ (Tsukuyomi) ซึ่งเกิดขึ้นมาจากน้ำตาที่ไหลจากตาขวา กับเทพวายุ และสายฟ้า สุซาโนะโอ (Susanoo) ซึ่งเกิดขึ้นมาจากน้ำที่ไหลผ่านจมูกของเทพอิซานากิ เมื่อรวมกับอามาเทราสึแล้วจะได้ 3 เทพที่ถือว่ามีความสำคัญ และเป็นต้นกำเนิดของการทำพิธีหลายๆ อย่างในญี่ปุ่น โดยทั้ง 3 องค์ยังได้รับหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป โดยอามาเทราสึ รับหน้าที่ปกครองดวงอาทิตย์ หรือช่วงเวลากลางวัน และสรวงสวรรค์ สึคุโยมิ รับหน้าที่ปกครองช่วงเวลากลางคืน และสุซาโนะโอ ปกครองท้องทะเล
ใครจะไปคิด ว่าชีวิตของเหล่าเทพเองก็มีการทะเลาะเบาะแว้งกันตามประสาพี่น้อง เมื่ออยู่มาวันนึง อามาเทราสึก็ไปมีเรื่องกับสุซาโนะโอ และครั้งนั้นสุซาโนะโอก็อาละวาดหนักมากจนปั่นป่วนทั่วทั้งแดนสวรรค์ และโลกมนุษย์ แถมยังฆ่าม้า ถลกหนังแล้วโยนเข้าไปในห้องทอผ้าของอามาเทราสึ เลยทำให้นางโกรธมากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร จึงเสียใจ และเข้าไปหลบอยู่ในถ้ำ แถมยังเอาหินก้อนยักษ์ปิดปากทางเข้าจนเสร็จสรรพ กะว่าจะไม่ออกมาจนกว่าจะหายโกรธแน่ๆ
- ปัจจุบันเชื่อกันว่าถ้ำที่นางเข้าไปหลบ อยู่ที่ ศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ (Amano Iwato Shrine) จังหวัดมิยาซากินั่นเอง ใครอยากเห็นเข้าไปชมได้ใน ตำนาน 9 เทพเจ้าญี่ปุ่น และ ศาลเจ้าสิงสถิต ขลังสุดในญี่ปุ่น
ทีนี้พอเทพีแห่งแสงอาทิตย์หายตัวเข้าถ้ำไป ความวุ่นวายระดับจักรวาลย่อมบังเกิด โลกทั้งใบตกอยู่ในความมืด ลำบากกันถ้วนหน้าทั้งเทพ และมนุษย์ ทำให้เทพทั้งหมด 800 องค์ต้องมารวมตัวกัน วางแผนล่อให้อามาเทราสึออกมาจากถ้ำ โดยใช้สารพัดวิธีแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งมาถึงกลอุบายของเทพีแห่งการร่ายรำ อาเมโนสุเมะ ที่ตั้งใจเต้นท่าประหลาด จนสร้างเสียงหัวเราะจากเหล่าทวยเทพอย่างมากมาย ขณะเดียวกันก็แอบไปติดกระจกโดยหันไปทางถ้ำให้สะท้อนงานรื่นเริงเพื่อล่อให้เธอออกมาดู
พอได้ยินเสียงหัวเราะร่าจากข้างนอกถ้ำ ใครเลยจะอดใจไหว อามาเทราสึเองก็เกิดอยากรู้อยากเห็นจนเผลอแง้มก้อนหินเดินออกจากถ้ำมา พอเหล่าเทพสบโอกาส ก็รีบจับตัวอามาเทราสึไว้ พร้อมกับเอาเชือกชิเมะนาวะ (เชือกมัดใหญ่ทำจากฟางข้าว) มาผูกปิดก้อนหินยักษ์หน้าปากถ้ำเพื่อกันไม่ให้อามาเทราสุหนีกลับไปในถ้ำได้อีก
ก็ถือเป็นตำนาน และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาเล่าให้ฟัง ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมท่านถึงได้รับการอัญเชิญมาถึงศาลเจ้าศรีราชานี้ ก็เพราะ แสงอาทิตย์ นั่นคือสิ่งสำคัญยังไงล่ะครับ หากขาดสิ่งนี้ไปเราคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้แน่ๆ ขนาดเหล่าทวยเทพยังต้องหาวิธีช่วยกันพาตัวออกมาจากถ้ำขนาดนี้ และท่านเองก็ยังได้รับการนับถือให้เป็นเทพสูงสุดด้วย ฉะนั้นการไม่อัญเชิญมาสิแปลก ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นเอง ศาลเจ้าหลักของท่านจะอยู่ที่ ศาลเจ้าอิเสะ ที่จังหวัดมิเอะ นั่นเองครับ ที่สำคัญภายในศาลเจ้านี้ยังเป็นสถานที่เก็บรักษากระจก ยาฮาตะ โนะ คากามิ กระจกบานที่นำไปแขวนหน้าถ้ำเพื่อล่อให้อามาเทราสึออกมาจากถ้ำนั่นเอง
ตำนานเทพเจ้าอุกะโนะมิทามะ (Ukanomitama) เทพีแห่งเกษตรกรรม และการค้าขาย
รูปปั้น Ukanomitama สร้างในสมัยเฮอัน
สำหรับเทพองค์ต่อมา ก็คือเทพเจ้า อุกะโนะมิทามะ ชื่อเต็มๆ ว่า อุกะโนะมิทามะ โนะ คามิ (Ukanomitama no Kami) เรียกสั้นๆ ก็เทพอุกะ เป็นหนึ่งในทวยเทพเก่าแก่ที่ไม่มีต้นกำเนิดจากเทพเจ้าองค์อื่น เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้านการเก็บเกี่ยว ธัญญาหาร ข้าว สุรา เทพแห่งเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นเทพผู้พิทักษ์ช่างตีดาบ และพ่อค้า ซึ่งก็แทบจะพิทักษ์ทุกอย่างของชีวิตชาวญี่ปุ่นแล้ว จึงทำให้เทพอุกะได้รับความนิยมบูชาสูงสุด
หากจะว่ากันตามตรงแล้ว ท่านอุกะนั้นถือว่าเป็นเทพที่ได้รับการเคารพบูชามากที่สุดในหมู่ประชาชนครับ เทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ อามะเทระสึ ถือเป็นเทพสูงสุด ดังนั้นจึงมีความสำคัญในด้านงานหลวง งานพิธีสำคัญต่างๆ ในราชสำนัก ส่วนอุกะโนะมิทามะ จะค่อนข้างเป็นเทพที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน เนื่องจากญี่ปุ่นโบราณนั้นทำเกษตรกรรมเป็นหลัก ประชาชนทั่วไปจึงยกย่องนับถือ ปัจจุบันยังถือว่าเป็นเทพที่มีเครือข่ายศาลเจ้ามากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย มีอยู่กว่า 32,000 แห่ง สังเกตง่ายๆ หน้าศาลเจ้าไหนมีรูปปั้นจิ้งจอกคู่อยู่ด้วย นั่นแหละศาลของเทพอุกะล่ะ
อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงงง ว่าเทพจิ้งจอกนั้นคือเทพอินาริมิใช่หรือ ใช่ครับ เทพอินาริคืออีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันของเทพอุกะ เพราะเรียกง่าย เข้าใจง่ายกว่าเยอะ โดยปกติแล้วเทพอุกะจะไม่สื่อสารกับมนุษย์เองโดยตรง แต่จะสื่อสารผ่านบริวารของท่าน นั่นคือ สุนัขจิ้งจอก (คิทสึเนะ 狐) นั่นเอง ทำให้ตามศาลเจ้าของท่านจะต้องมีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกอยู่ด้วย หรือถ้าเวลาอยากจะติดต่อกับมนุษย์เองโดยตรง เทพอุกะก็จะมาปรากฏตัวในรูปของสุนัขจิ้งจอกเองเลยก็มี
- ส่วนศาลเจ้าหลักของท่านอุกะโนะมิทามะ ก็คือที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ หรือศาลเจ้าเสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต ที่คนไทยคุ้นชื่อคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวเกียวโต ชมเสาโทริอิเป็นหมื่นต้น ที่ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ
ก็เรียกได้ว่าดีกรีของทั้ง 2 เทพนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้เราก็มีศาลเจ้าอย่างเป็นทางการอยู่ที่เมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย ใครอยากไปเที่ยว แวะเคารพบูชาพร้อมเช่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เป็นสิริมงคล ตอนนี้ก็ไปได้เลยที่ศาลเจ้าชินโตศรีราชาครับ
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศาลเจ้าชินโตศรีราชา Sriracha Shinto Shrine ศาลเจ้าญี่ปุ่นในไทย ศรีราชา ชลบุรี
====================