รีเซต

ประวัติ จังหวัดสิงห์บุรี ท่องเมืองแห่งวีรชน เที่ยว วัดดัง ใกล้กรุงเทพ

ประวัติ จังหวัดสิงห์บุรี ท่องเมืองแห่งวีรชน เที่ยว วัดดัง ใกล้กรุงเทพ
SummerB
20 เมษายน 2564 ( 20:40 )
6.1K

     หลายคนอาจะรู้จัก สิงห์บุรี ในฐานะจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ วัดสวย เก่าแก่ แต่รู้หรือไม่ว่า ในอดีตนั้น สิงห์บุรี เคยเป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในประวัติศาสตร์ไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ประวัติ จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานที่น่าสนใจกันค่ะ

 

ประวัติ จังหวัดสิงห์บุรี

เมืองเก่าแก่ ใกล้กรุงเทพ

 

 

เปิดประวัติ สิงห์บุรี

     จากหลักฐานโบราณวัตถุที่ค้นพบ ไม่ว่าจะเป็น ขวานหิน หินดุ ชิ้นส่วนของกำไรสำริด ตามชุมชนต่างๆ เช่น บ้านชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี และ บ้านบางวัว บ้านคู อำเภอบางระจัน จึงสันนิษฐานได้ว่า ความเป็นมาของ จังหวัดสิงห์บุรี มีมายาวนานตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์เลยค่ะ และค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ ผ่านสมัย ทวาราวดี ที่เริ่มมีแผนผังเมืองที่ชัดเจนขึ้น เป็นการตั้งถิ่นฐานแบบ “เมืองคูคลอง” รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีคูน้ำ และคันดินล้อมรอบ

 

 

     มาถึงยุคที่ สมเด็จพระมหารามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสถาปนา กรุงศรีอยุธยา ให้เป็นราชธานี ได้แต่งตั้ง เมืองสิงห์บุรี ให้เป็นเมืองลูกหลวง พร้อมด้วย เมืองอินทร์บุรี และ เมืองพรหมบุรี เป็นเมืองหลานหลวง และตั้งให้เมืองทั้งสามเป็นหัวเมืองชั้นในในแถบทิศเหนือ แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นเมืองจัตวาในสมัยของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ นั่นเองค่ะ

 

 

     ทั้งสามเมืองนี้ต่างก็ผ่านการเผด็จศึกสงครามกับพม่ามานับหลายครั้ง แต่ช่วงเวลาที่หลายคนคุ้นหูที่สุดก็คงเป็นวีรกรรมของ ชาวบ้านบางระจัน ที่ออกศึกสู้รบกับพม่าในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 อย่างหาญกล้าจนกลายเป็นวีรชนแห่งประวัติศาสตร์สิงห์บุรีนั่นเองค่ะ กลุ่มชาวบ้านบางระจันมีผู้นำสำคัญทั้งหมด 12 คน คือ พระอาจารย์ธรรมโชติ นายแท่น นายโชติ นายจันหนวดเขี้ยว นายอิน นายทองแสงใหญ่ นายทองแก้ว นายทองเหม็น นายเมือง นายดอก ขุนสรรค์ และ พันเรือง ซึ่งบุคคลเหล่านี้ รวมถึงชาวบ้านบางระจันท่านอื่นก็ได้สู้รบกับพม่าเป็นเวลา 5 เดือน และได้รับชัยชนะถึง 7 ครั้ง จนกระทั่งครั้งที่ 8 ที่ถูกกองทัพพม่าตีค่ายจนแตก จึงได้รับความพ่ายแพ้ในปี พ.ศ. 2309  ซึ่งเรื่องราวของชาวบ้านบางระจันยังเป็นที่เล่าขานและที่ยกย่องในปัจจุบัน โดยมี อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน เป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงความสามัคคีและเสียสละของพวกเขาค่ะ



คำขวัญประจำ จังหวัดสิงห์บุรี

 

Watcharin Tadsana / Shutterstock.com

 

"ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน

นามกระฉ่อนช่อนแม่ลา

เทศกาลกินปลาประจำปี"

 

     คำขวัญของ จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวถึงบุคคล วัด และเทศกาลสำคัญภายในจังหวัด เช่น กลุ่มชาวบ้านบางระจัน ที่เสียสละต่อสู้เพื่อแผ่นดินด้วยความอาจหาญ และ พระนอนจักรสีห์ พระพุทธรูปไสยาสน์ที่ใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานที่ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร นอกจากนี้ยังพูดถึง ปลาช่อนแม่ลา ปลาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสิงห์บุรี และ เทศกาลกินปลาประจำปี ที่มักจัดขึ้นในเขตศาลากลางจังหวัด ให้ได้ลิ้มรสปลาหลากหลายชนิด รวมถึงปลาช่อนแม่ลา ของดีประจำจังหวัดด้วยค่ะ 

 

 

ที่เที่ยวดัง จังหวัดสิงห์บุรี

 

 

     แม้ จังหวัดสิงห์บุรี จะไม่ใช่จังหวัดที่ใหญ่นัก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และ วัดดัง หลายแห่งที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้และปฏิบัติธรรมกัน เช่น วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร วัดไทร วัดอัมพวัน วัดพิกุลทอง วัดพระปรางค์ และ วัดโพธิ์เก้าต้น ซึ่งมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เพราะพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นสมรภูมิรบในยามที่ชาวบ้านบางระจันออกศึกกับพม่าค่ะ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพื้นที่แบ่งเป็นอีกส่วน คือ ตลาดไทยย้อนยุคบ้านบางระจัน โดยจะมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าแต่งตัวเป็นนักรบ และชาวบ้านในยุคนั้นออกมาทำมาค้าขายกัน ให้บรรยากาศความเป็นไทยมากๆ ค่ะ

 

 

     สำหรับใครที่อยากซึมซับวิถีชีวิตของชาวเมืองสิงห์ แนะนำให้ไปที่ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านหนองโขลง ตั้งอยู่ในตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจันค่ะ จะมีชาวบ้านจะพาเราไปเรียนรู้วิธีการเกษตรต่างๆ เช่น สปาสุ่มไก่ สาธิตเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อนำมูลไส้เดือนมาทำปุ๋ย ทำบ้านดิน เป็นต้น แถมยังได้ทำอาหารตามภูมิปัญญาของชาวบ้าน ซึ่งมีกรรมวิธีที่น่าสนใจ แถมยังได้อร่อยอิ่มท้อง สนุกสนานทั้งวันเลยค่า

 

Goldquest / Shutterstock.com

 

     อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจมากคือ ศูนย์อนุรักษ์ควายไทยเขางาม สถานที่อนุรักษ์ควายไทย สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมายาวนาน อีกทั้งมีความสำคัญในด้านการเกษตรและสู้รบในอดีตด้วยค่ะ

 

อ้างอิง http://www.singburi.go.th

 

ที่เที่ยวสิงห์บุรี ที่น่าสนใจอื่นๆ

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<