รีเซต

ประวัติจังหวัดอุทัยธานี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เมืองสวยริมแม่น้ำสะแกกรัง

ประวัติจังหวัดอุทัยธานี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เมืองสวยริมแม่น้ำสะแกกรัง
เอิงเอย
27 พฤษภาคม 2564 ( 18:29 )
6.1K

     ตามเรามารู้จัก ที่มาของจังหวัดอุทัยธานี ประวัติจังหวัดอุทัยธานี อีกหนึ่งจังหวัดในภาคกลางที่เต็มไปด้วย ที่เที่ยวธรรมชาติ วัดสวยๆ และวิถีชีวิตของคนริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง ที่มีมายาวนานกว่าพันปีค่ะ แม้ที่นี่จะดูเป็นจังหวัดเล็กๆ เงียบๆ แต่กลับมีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นๆ เลยทีเดียวค่ะ

 

ประวัติจังหวัดอุทัยธานี
เรื่องราวริมแม่น้ำสะแกกรัง

 

      อุทัยธานี แต่เดิมแล้วเขียนว่า อุไทยธานี ค่ะ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในเขตภาคกลางของประเทศไทย ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายริมแม่น้ำสะแกกรัง โดยในแม่น้ำบริเวณตลาดหน้าวัดอุโปสถาราม เป็นที่อยู่อาศัยของ ชุมชนชาวแพ กันมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังมีการทำสวนต้นเตย และเพาะเลี้ยงปลาแรดในกระชัง ซึ่งเป็นปลาที่มีชื่อของจังหวัดอุทัยธานีค่ะ

      ถ้าย้อนเรื่องราวของจังหวัดอุทัยธานีไปแล้ว คงต้องเล่ากันยาวๆ ไปตั้งแต่ยุคก่อนสมัยประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพราะ มีหลักฐานยืนยันว่า อุทัยธานี เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 3,000 ปี มาแล้ว โดยพบหลักฐานยืนยันในหลายพื้นที่ เช่น โครงกระดูก เครื่องมือหินกะเทาะจากหินกรวด ภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์บนหน้าผา ที่ เขาปลาร้า นั่นเอง

 

 

     ในสมัยสุโขทัย ท้าวมหาพรหม ได้เข้ามาสร้างเมืองที่ บ้านอุทัยเก่า คือ อำเภอหนองฉางในปัจจุบันนี้ และพาคนไทยย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ท่ามกลางหมู่บ้านคนมอญ และคนกะเหรี่ยงที่อยู่เดิม ทำให้ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า เมืองอู่ไทย ซึ่งเป็นการเรียกชื่อตามกลุ่มที่อยู่ของคนไทยในสมัยนั้นค่ะ


จากเมืองอู่ไทย มาเป็น เมืองอุไทย

      เมืองอู่ไทย ตามที่เรียกกันต่อมาได้เรียกกันเป็น "เมืองอุไทย" แทน ซึ่งคาดว่าเพี้ยนไปตามสำเนียงชาวพื้นเมืองเดิมค่ะ และได้มีฐานะเป็นหัวเมืองด่านชั้นนอก


อุทัยธานีในสมัยกรุงศรีอยุธยา

 

Suchart Boonyavech / Shutterstock.com

 

     มาถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยา พะตะเบิด ได้เข้ามาเป็นผู้ปรับปรุงเมืองอู่ไทย เนื่องจากกระแสน้ำเปลี่ยนทางเดินทำให้น้ำขาดแคลน จนเมืองอู่ไทยจึงถูกทิ้งร้าง พะตะเบิดจึงได้ขุดที่เก็บกักน้ำไว้ใกล้เมือง และมาเป็นผู้ปกครองเมืองอู่ไทยเป็นคนแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา

     ต่อมาในสมัยของ พระเอกาทศรถ ช่วงปี พ.ศ.2148-2163 ได้โปรดให้บัญญัติอำนาจการใช้ตราประจำตำแหน่ง มีบัญชาการตามหัวเมืองนั้นๆ และได้ระบุในกฎหมายเก่าลักษณะพระธรรมนูญว่า “เมืองอุไทยธานี เป็นหัวเมืองขึ้นแก่มหาดไทย”

 

 

     เมืองอุไทยธานี เป็นเมืองที่อยู่บนที่ดอนและลึกเข้าไป ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ และไม่สามารถติดต่อทางเรือได้ ดังนั้นชาวเมืองอุไทยธานี จึงต้องขนข้าวบรรทุกเกวียนมาลงที่แม่น้ำ จึงทำให้พ่อค้าพากันไปตั้งยุ้งฉางรับซื้อข้าวที่ริมแม่น้ำจนเป็นหมู่บ้านใหญ่ เรียกว่า หมู่บ้านสะแกกรัง เนื่องจากเป็นพื้นที่มีป่าสะแกขึ้นเต็มริมน้ำ และมีต้นสะแกใหญ่อยู่กลางหมู่บ้าน ที่นี่เป็นหมู่บ้านค้าขายข้าวที่สำคัญ อีกทั้งได้มีขุนนางมาตั้งบ้านเรือนอยู่ เพราะความสะดวกในการส่งส่งของต่างๆ ไปยังเมืองหลวงนั่นเอง


อุทัยธานี เมืองพระราชสมภพ
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกฯ

     น้อยคนนักที่จะรู้ว่า สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกฯ พระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระราชสมภพที่เมืองสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานีค่ะ โดยในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ นั้น จมื่นมหาสนิท หรือ ทองคำ ได้ย้ายมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสะแกกรัง โดยต่อมาได้กำเนิดบุตรชายคนโตชื่อ “ทองดี” และได้ดำรงตำแหน่งพระอักษรสุนทร

     ต่อมาในช่วงรัชสมัย พระเจ้าเอกทัศ พม่ายกกองทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา ในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 ได้เกิดการระส่ำระสายแตกสามัคคีในพระนคร พระอักษรสุนทร จึงทรงอพยพครอบครัว และบุตรชายชื่อ “ทองด้วง” ไปรับราชการกับเจ้าเมืองพิษณุโลกและได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ต่อมาทรงพระประชวร สิ้นพระชนม์ในเมืองพิษณุโลก

     หลังจากนั้น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และสถาปนาเป็นกษัตริย์ราชวงศ์จักรีปกครองแผ่นดินทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" ทรงอัญเชิญพระอัฐิส่วนหนึ่งประดิษฐาน ณ หอพระในพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการถวายบังคมในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจาในฐานะ สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก แห่งราชวงศ์จักรี

 

อุทัยธานีในสมัยรัตนโกสินทร์

 

Nisa Paobunthorn / Shutterstock.com

 

     ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองอุไทยธานีได้มีผู้คนอพยพเข้ามาอยู่กันอย่างหนาแน่น อีกทั้งเป็นสถานที่ที่ชาวอุไทยธานีติดต่อค้าขายข้าวและไม้ซุงอีกด้วย เมื่อ พ.ศ. 2391 ได้มีการแบ่งเขตดินแดนเมืองอุไทยธานี และเมืองไชยนาท โดยตัดเขตบ้านสะแกกรังทางฝั่งคลองฟากใต้ ตั้งแต่ท้ายบ้านสะแกกรังไปจดเมืองอุไทยธานีเก่า โอนที่นั่นจากเมืองไชยนาทเป็นของเมืองอุไทยธานี ดังนั้นเมืองอุไทยธานี จึงตั้งอยู่ที่ปลายสุดเขตแดนเมืองมโนรมย์ ข้างใต้บ้านลงมาสักคุ้งน้ำหนึ่งก็เป็นแดนเมืองไชยนาท

     ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2441 เมืองอุไทยธานีได้ขึ้นกับ มณฑลนครสวรรค์ แต่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนไปขึ้นกับ มณฑลอยุธยา สุดท้ายมีการประกาศเลิกมณฑลปี พ.ศ. 2476 และจัดให้จังหวัดเป็นหน่วยปกครองส่วนภูมิภาคที่สำคัญที่สุด มาจนถึงปัจจุบันค่ะ

 

คำขวัญจังหวัดอุทัยธานี

     เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ


สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี

 

ที่เที่ยวอุทัยธานี ห้วยขาแข้ง

 

     ด้วยความที่เป็นเมืองริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง รวมถึงมีป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ทำให้อุทัยธานีมีที่เที่ยวธรรมชาติมากมายค่ะ ใครที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติสวยๆ ต้องไปพลาดไปยัง หุบป่าตาด ป่าโบราณ และถ้ำสวยๆ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่าตะวันตกของประเทศไทย และยังได้ขึ้นทะเบียน มรดกโลก อีกด้วย ถ้ำพุหวาย ที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อยมากมาย น้ำตกผาร่มเย็น น้ำตกที่สวยที่สุดในอำเภอบ้านไร่ หรือจะไปชิลๆ ล่องเรือ แม่น้ำสะแกกรัง ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมสองฟากฝั่งแม่น้ำค่ะ

 

 

     สำหรับสายบุญ อุทัยธานี ก็มีชื่อเสียงในเรื่องของ วัดสวย วัดดัง ไม่แพ้ที่อื่นอย่าง วัดท่าซุง วัดสำคัญประจำจังหวัดที่มี วิหารแก้ว 100 เมตรอันงดงาม เขาสะแกกรัง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองให้เราได้ไปสักการะบูชา วัดอุโปสถาราม ศาสนสถานเก่าแก่ ที่มีมีจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม หรือ วัดผาทั่ง ซึ่งประดิษฐาน หลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดประจำจังหวัดอุทัยธานี

 

 

     นอกจากนี้ อุทัยธานียังเป็นมืองที่มีที่เที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจค่ะ อีกทั้งยังมีร้านอาหารอร่อย ขึ้นชื่อเรื่องของปลาน้ำจืดอีกด้วย เพราะฉะนั้น ใครที่มีวันหยุดชิลๆ อย่าพลาดมาเที่ยวเมืองอุทัยธานีสักครั้งหนึ่งค่ะ

 

อ้างอิง

http://www.uthaithani.go.th

https://www.m-culture.go.th

 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<