รีเซต

ปราสาทเอ็ลทซ์ Burg Eltz ที่เที่ยวเยอรมนี ความงดงามสุดหลอนแห่งยุคกลาง

ปราสาทเอ็ลทซ์ Burg Eltz ที่เที่ยวเยอรมนี ความงดงามสุดหลอนแห่งยุคกลาง
SummerB
25 ตุลาคม 2565 ( 22:00 )
3K

      ปราสาทในยุคกลางของ ยุโรป นั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งที่สามารถคงความสมบูรณ์และสวยงามเอาไว้จนถึงปัจจุบัน หนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทเอ็ลทซ์ Burg Elz ปราสาทสวยแห่ง เยอรมนี ที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยจากสงครามมาได้หลายศตวรรษ แต่ภายใต้ความงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายนั้น ยังมีตำนานอันแสนเศร้าและน่าขนหัวลุกแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน แล้วเรื่องราวของปราสาทนี้จะเป็นอย่างไร ลองตามมาดูกันค่ะ

 

ปราสาทเอ็ลทซ์ Burg Eltz

ปราสาทสวย ยุคกลาง เยอรมนี

 

ประวัติ ปราสาทเอ็ลทซ์

 

      ปราสาทในยุคเก่าส่วนใหญ่มักจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา หรือถูกทำลายจากการผ่านยุคแห่งสงครามมานักต่อนัก แต่สำหรับ ปราสาทเอ็ลทซ์ (Eltz Castle) หรือ Burg Eltz ประเทศเยอรมนี กลับสามารถคงอยู่มาได้โดยปราศจากการถูกทำลาย และได้รับการดูแลและอนุรักษ์โดยตระกูลเอ็ลทซ์ (Eltz Family) จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนประวัติความเป็นมาของปราสาทนั้น ก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 9 ยามที่ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นเพียงแค่คฤหาสน์หลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าท่านเคานต์แห่งเอ็ลทซ์ (Counts of Eltz) ก่อนจะได้เริ่มการบูรณะต่อเติมจนกลายเป็นปราสาทหลังใหญ่ของตระกูลเอ็ลทซ์นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1157 เป็นต้นมาค่ะ

 

Nikiforov Alexander / Shutterstock.com

 

      ตระกูลเอ็ลทซ์นั้นแบ่งออกเป็นตระกูลสาขาทั้งหมด 3 สาขา แต่ละครอบครัวก็จะอาศัยอยู่ตามส่วนต่างๆ ของปราสาท  ส่วนคนรับใช้ ช่างฝีมือ และชาวบ้านที่สนับสนุนตระกูลเอ็ลทซ์ก็จะอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านรอบนอกของตัวปราสาท ซึ่งตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ปราสาทเอ็ลทซ์นั้นเป็นที่พำนักของคนตระกูลเอ็ลทซ์มาจนถึง 33 รุ่นเลยทีเดียว 

 

สถาปัตยกรรม ปราสาทเอ็ลทซ์

 

 

      รูปแบบสถาปัตยกรรมของปราสาทเอ็ลทซ์ที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมยุคกลางและยุคเรเนสซองส์เข้าด้วยกัน โดยมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานหินและเนินเขาสูงประมาณ 70 เมตร เมื่อประกอบเข้ากับทิวทัศน์ของป่าเขาที่รายล้อมจึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ดูงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกใจเลยหากเราจะเห็นนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางไปชมความงามของปราสาทเอ็ลทซ์แทบจะตลอดทั้งปี โดยเฉพาะระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ที่เป็นฤดูไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ

 

เรื่องราวสุดหลอนของ ปราสาทเอ็ลทซ์

 

      ภายใต้ความงดงามอันน่าอัศจรรย์ใจของปราสาทเอ็ลทซ์นั้นมีโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้า และเรื่องราวอันแสนขนหัวลุกซุกซ่อนอยู่ด้วย เรื่องราวนี้เกี่ยวกับ แอ็กเนส เอ็ลทซ์ (Agnes Eltz) ธิดาของท่านเคานท์รุ่นที่ 15 ของตระกูลเอ็ลทซ์ ผู้ซึ่งมีพันธะหมั้นหมายกับอัศวินแห่งเบราเนแบร์ก (Knight of Braunsberg) ตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อผูกสัมพันธไมตรีของทั้งสองตระกูล แต่เนื่องจากอัศวินผู้นี้มีความเย่อหยิ่งและไร้น้ำใจ แอ็กเนสจึงพยายามที่จะยุติการหมั้นหมายนี้แต่ก็ไม่เป็นผล ส่งผลให้เกิดเรื่องราววุ่นวายในวันงานหมั้น และทำให้งานหมั้นยุติลงท่ามกลางความไม่ลงรอยกันของทั้งสองตระกูล ตระกูลเอ็ลทซ์จึงจัดเตรียมทัพเพื่อป้องกันศึกที่อาจมาในไม่ช้า 

 

canadastock / Shutterstock.com

 

       ทว่าเวลาผ่านไปนานเป็นปี ทัพของตระกูลเบราเนแบร์กก็ยังไม่มีทีท่าที่จะโจมตี จึงทำให้ฝ่ายของตระกูลเอ็ลทซ์สันนิษฐานว่าทางตระกูลเบราเนแบร์กคงไม่คิดที่จะโจมตีอีกต่อไปแล้วจึงผ่อนคลายการป้องกันลง ใครจะคาดคิดว่านั่นคือสิ่งที่ตระกูลเบราเนแบร์กรอคอยมาตลอด! คืนนั้นเองที่ปราสาทเอ็ลทซ์ถูกโจมตีอย่างกะทันหัน เมื่อเรื่องไปถึงหูของแอ็กเนสเธอก็ไม่รอช้าที่จะแอบสวมรอยเป็นอัศวินและเข้าสู่การสู้รบในทันที ก่อนจะสิ้นใจลงด้วยศรธนูของอัศวินแห่งเบราเนแบร์ก โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าอัศวินที่เขาสู้ด้วยนั้นเป็นคู่หมั้นของเขาเอง

      แม้ว่าเรื่องราวนี้จะเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ก็ยังเชื่อกันว่าวิญญาณของแอ็กเนสยังคงวนเวียนอยู่ในปราสาทและอาจปรากฏให้เห็นในยามค่ำคืน บ้างก็เล่าว่าบางคืนยังมีวิญญาณของเหล่ากองทัพอัศวินบนหลังม้ามายืนอยู่หน้ารั้วปราสาท โดยเชื่อว่าอัศวินเหล่านี้อาจเป็นกองทัพของตระกูลเบราเนแบร์กที่มาร้องขอให้แอ็กเนสให้อภัยในความผิดของพวกเขาก็เป็นได้ค่ะ

 

 

      แม้ว่าจะมีตำนานสุดหลอน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนลดน้อยลงไป ทางปราสาทจะเปิดให้เราได้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 09.30-17.00 น. ซึ่งด้านในก็จะจัดแสดงห้องต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ ภาพจิตรกรรม และประวัติของปราสาทและตระกูลเอ็ลทซ์ให้เราได้ชมกัน

 

การเดินทางไปยัง ปราสาทเอ็ลทซ์

 

     การเดินทางไปยังปราสาทเอ็ลทซ์นั้นสามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัสสาธารณะ นั่นก็คือ รถบัสสาย 330 ที่จะวิ่งจากเมือง Treis-Karden ไปปราสาท Burg Pyrmont และ ปราสาท Burg Eltz ไปจนถึง Hatzenport  และพากลับไปยังเมือง Treis-Karden เช่นเดิม ซึ่งจะบริการรับ-ส่งเฉพาะช่วงเดือนวันเสาร์ อาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์ ของเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมเท่านั้นค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/hQuw93tbTqyhihsN6