เปิดเงื่อนไข 50 รัฐ ฉีดวัคซีนที่อเมริกา ต้องไปเที่ยวรัฐไหนถึงได้ฉีด?
สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ หรือที่เรียกว่า Vaccine Tourism นั่นเอง เพื่อเป็นการเร่ง และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศให้เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่านึกอยากจะไปฉีดก็ไปได้เลย ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าถ้าจะไปจริงๆ ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
*ข้อมูล ณ วันที่ 27 เมษายน 2564*
Rosemarie Mosteller / Shutterstock.com
Vaccine Tourism ที่สหรัฐอเมริกา ถูกกฏหมายหรือไม่?
หลายๆ รัฐในอเมริกาอนุญาตให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นประชาชนสหรัฐหรือไม่ก็ตาม ขอเพียงคุณมีวีซ่าเข้าประเทศ จะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าทำงาน ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ทันที เพียงแต่ไม่มีการการันตีว่าจะได้รับการฉีดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ รวมไปถึงรัฐที่คุณเดินทางเข้าไปด้วย เพราะแต่ละรัฐก็จะมีกฏเกณฑ์ และขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไปในการแจกจ่ายวัคซีน จำนวนวัคซีนในบางรัฐยังสามารถหาได้ง่ายกว่าที่อื่น บางรัฐสามารถขับรถเข้าไปฉีดแบบ drive-thru ได้เลย
*ดังนั้น การเดินทางไปอเมริกาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉีดวัคซีนโดยเฉพาะจึงยังไม่แนะนำ (เพราะยังไม่การันตีว่าได้ 100% ในทุกรัฐ) เว้นเสียแต่ว่าคุณมีแพลนที่จะไปท่องเที่ยวอยู่แล้ว และเผื่อว่าจะได้ฉีดวัคซีนเป็นของแถมซะมากกว่า
====================
รัฐไหนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวบ้าง?
| รัฐ | หมายเหตุ |
| Alabama | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Alaska | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Arizona | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Arkansas | อนุญาตให้บุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ |
| Colorado | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Connecticut | อนุญาตให้บุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐฉีดได้ แม้ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Delaware | อนุญาตให้บุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐฉีดได้ แม้ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Florida | อนุญาตให้บุคคลที่อาศัยอยู่ หรือทำงานอยู่ในรัฐฉีดได้ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Georgia | อนุญาตให้บุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐฉีดได้ แม้ไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Hawaii | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือได้รับสิทธิพลเมืองชั่วคราว (part-time residents) |
| Idaho | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Illinois | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือได้รับสิทธิพลเมืองชั่วคราว (part-time residents) |
| Indiana | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Iowa | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Kansas | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Kentucky | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Louisiana | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Maine | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Maryland | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Massachusetts | อนุญาตให้บุคคลที่อาศัยอยู่ และทำงานในรัฐ |
| Michigan | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Minnesota | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Mississippi | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Missouri | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Montana | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Nebraska | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Nevada | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| New Hampshire | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| New Jersey | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงาน หรือศึกษาอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน หรือเอกสารรับรองการศึกษา) |
| New Mexico | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| New York * | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| North Carolina | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| North Dakota | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Ohio | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Oklahoma | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Oregon | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงาน หรือศึกษาอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน หรือเอกสารรับรองการศึกษา) |
| Pennsylvania | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Rhode Island | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงาน หรือศึกษาอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน หรือเอกสารรับรองการศึกษา) |
| South Carolina | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| South Dakota | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือจนกว่าจำนวนวัคซีนจะมีเพียงพอแล้วจึงอนุญาตให้บุคคลอื่นฉีดได้ |
| Tennessee | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Texas | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Utah | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Vermont | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Virginia | ไม่กำหนดว่าต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
| Washington | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| West Virginia | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน) |
| Wisconsin | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลที่ทำงาน หรือศึกษาอยู่ในรัฐ (มีเอกสารรับรองการทำงาน หรือเอกสารรับรองการศึกษา) |
| Wyoming | ต้องเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา |
* ที่นิวยอร์กเปิดรับ Walk-in ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนจากทั่วโลก เพียงแค่นำ passport หรือหนังสือเดินทางมาที่ American museum of Natural and history (พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและประวัติศาสตร์) ในเวลา 08.00-09.00 น. หรือ 17.00-18.00 น. ไม่ว่าจะอยู่ด้วยสถานะอะไร หรือแม้แค่เป็นนักท่องเที่ยว ก็สามารถขอเข้ารับวัคซีนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยสามารถลงทะเบียนขอรับได้เลย ทั้ง 15 พื้นที่ ทั่ว NYC สามารถเช็กวันเวลา และสถานที่ได้เลยที่ vaccinefinder.nyc.gov
รวมไปถึงสนามบินซานฟรานซิสโก จัดการฉีดวัคซีนแก่ผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ต้องเป็นผู้โดยสารขาเข้า หรือออกในประเทศ และระหว่างประเทศ ลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์ https://mhealthsystem.com/SWYSFOCOVID
====================
วิธีการหาจุดฉีดวัคซีน โควิด-19 ในอเมริกา
Evgenia Parajanian / Shutterstock.com
- เข้าไปที่เว็บไซต์ Vaccine Spotter
- เลือกรัฐที่ต้องการค้นหา
- เลือกชนิดของวัคซีน
- จองวันฉีดผ่านช่องทางออนไลน์
- save ข้อมูลการจองทั้งหมดในอีเมล์ไว้ เพื่อความสะดวกเวลานำไปแสดงที่จุดฉีดวัคซีน
- เมื่อถึงวันจอง ให้เตรียมเอกสารที่จำเป็นไปด้วย เช่น บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตหากไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกัน
- เมื่อฉีดแล้ว ให้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน CDC vaccine card แล้วนั่งพักรอดูอาการในบริเวณที่จัดไว้
*วัคซีนของ Johnson and Johnson ฉีดเพียงเข็มเดียว
*วัคซีนของผู้ผลิตรายอื่น คุณจะยังต้องพำนักอยู่ในอเมริกาอีกประมาณ 3-4 อาทิตย์ หากต้องการรับวัคซีนเข็มที่สองด้วย
อ้างอิง : https://www.visaplace.com/blog-immigration-law/vaccine-tourism
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<