รีเซต

7 กำแพงโบราณ The Wall มรดกโลกที่ป้องกันข้าศึกมาอย่างโชกโชน

7 กำแพงโบราณ The Wall มรดกโลกที่ป้องกันข้าศึกมาอย่างโชกโชน
Muzika
14 พฤษภาคม 2562 ( 07:26 )
7.4K
2

     ย้อนไปสมัยอารยธรรมโบราณที่มนุษย์เรายังคงมีการสู้รบเพื่อขยายอำนาจ และดินแดนกันอยู่ นอกเหนือจากปราสาทหลังใหญ่ที่เป็นป้อมปราการรับมือกับต่างอาณาจักรแล้ว ด่านแรกที่ต้องปะทะประมือจริงๆ ก็คือกำแพงเมืองขนาดยักษ์นั่นเอง เวลาเราไปเที่ยวเมืองโบราณต่างๆ ก็ต้องได้เจอซากของมันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเสมอ ถ้าใครชอบเรื่องราวของต่อสู้ในแบบฉบับยุคกลางแล้วล่ะก็ ลองมารู้จักกับ 7 กำแพงโบราณเหล่านี้ ที่ทั้งอลังการ และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์นองเลือดเหล่านี้ดูดีกว่า

 

7 กำแพงโบราณ มรดกโลกที่ป้องกันข้าศึกมาอย่างโชกโชน

 

1. Hadrian's Wall

 

The Great Wall

 

     กำแพงเฮเดรียน หรือฮาดริอานุสตามภาษาโรมัน เป็นแนวกำแพงที่จักวรรดิโรมันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 122 เพื่อเป็นแนวป้องกันการรุกรานอาณานิคมโรมันบริเตน บริเวณใต้แนวพรมแดนอังกฤษ และสกอตแลนด์ในปัจจุบัน ความยาวกว่า 122 กิโลเมตร ตั้งแต่ทะเลฝั่งซ้ายไปจนจรดแนวทะเลฝั่งขวาของแผ่นดิน ปัจจุบันกำแพงบางส่วนยังคงหลงเหลือให้เห็น และยังแข็งแรงจนสามารถเดินตามได้ตลอดแนว ที่่นี่ได้รับฐานะเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987

 

ที่สำคัญอีกอย่างคือ กำแพงเฮเดรียนนี่เองที่เป็นต้นแบบของ The Wall ในซีรี่ส์ Game of Thrones ด้วย อ่านต่อได้ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก จากซีรีย์ Game of Thrones ที่มีต้นแบบจากสถานที่จริง

==========

 

2. Great Wall of China

 

 

     สุดยอดกำแพงที่ใครๆ ก็รู้จัก และเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วย กำแพงเมืองจีนนั้นสร้างในสมัยราชวงศ์ฉิน (ราวๆ 200 ปีก่อนคริสตกาล) ทอดตัวยาวผ่านประเทศจีน กินระยะทางกว่า 6,000 กิโลเมตร และแม้จะอยู่บนหน้าผาที่สูงชันขนาดไหนก็ไม่อาจหยุดยั้งการก่อสร้างกำแพงนี้ได้ รวมถึงวามกว้างของฐานกำแพงที่สามารถให้ม้าวิ่งผ่านได้พร้อมกัน 5 ตัว พร้อมกับหอสังเกตุการณ์ที่มีอยู่ตลอดแนว จึงทำให้นี่เป็นปราการป้องกันเหล่าชนเผ่าทางเหนือไม่ให้เข้ามาโจมตีได้

 

     อ่านเพิ่มเติมเรื่องกำแพงเมืองจีนได้ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ยุคกลาง ยุคเก่า มรดกโลกที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

==========

 

3. Western Wall

 

 

     กำแพงประจิม หรือกำแพงอัล-บิรักในเขตเมืองเก่าเยรูซาเลม เป็นกำแพงหินปูนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บริเวณขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าเนินพระวิหาร ซึ่งสำหรับชาวมุสลิมแล้ว เนินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มุฮัมหมัดถูกพระอัลลอห์รับขึ้นไปบนสวรรค์ ชาวยิวจะเรียกกำแพงนี้ว่ากำแพงประจิม เนื่องตั้งอยู่ทางตะวันตกของเนินพระวิหาร ส่วนชาวคริสต์จะเรียกกำแพงนี้ว่ากำแพงโอดครวญ (Wailing Wall) เพื่อสะท้อนเหตุการณ์ที่ชาวยิวต่างพากันมาร่ำร้องโอดครวญกันที่กำแพงแห่งนี้ ในวันที่พวกโรมันเข้ายึดครองเยรูซาเลมในค.ศ. 70 และพระวิหารของชาวยิวถูกทำลาย

==========

 

4. Hwaseong Fortress Wall

 

 

     ป้อมกำแพงฮวาซอง ตั้งอยู่ที่เมืองซูวอน ทางตอนใต้ของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 มีความยาว 6 กิโลเมตร และว่ากันที่นี่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการทหารที่สูงมากในยุคนั้น บริเวณนี้ยังรวมถึงหอสังเกตการณ์อีก 40 แห่ง ป้อมเชิงเทินสำหรับป้องกันข้าศึกที่มีทางเดินเชื่อมถึงกัน และสามารถตรวจตราเมืองได้โดยรอบ

==========

 

5. Sacsayhuaman

 

 

     แซคไซวามาน กำแพงหินประหลาดขนาดใหญ่โตมโหฬารในเปรู คาดว่าสร้างในช่วงปีค.ศ. 900-1200 ความพิเศษของมันก็คือ หินแต่ละก้อนมีรอยตัดที่ปราณีตราวกับตัดด้วยเครื่องมือทันสมัย นักวิจัยส่วนมากเชื่อว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ แต่คำถามก็คือ วิธีการสร้าง และการขนย้ายหินปูนหนักราว 200 ตัน สูงกว่า 20 เมตร มายังหุบเขานั้น คนโบราณเขาทำได้อย่างไร ?

 

     อ่านเรื่องราวของสิ่งก่อสร้างปริศนาได้เพิ่มเติมใน 11 สถานที่ลึกลับรอบโลก มนุษย์ต่างดาวเคยมาเยือน

==========

 

6. Great Zimbabwe Wall

 

 

     หนึ่งในสิ่งก่อสร้างโบราณที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของอาณาจักรซิมบับเวโบราณ นั่นคือมหากำแพงแห่งนี้ ด้วยความสูง 11 เมตร ยาว 250 เมตร เป็นสิ่งก่อสร้างโบราณที่ใหญ่ที่สุดในตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ในอดีตที่นี่เป็นเมืองหลวงในช่วงศตวรรษที่ 11-15

==========

 

7. Kumbhalgarh fort

 

 

     ป้อมปราการคัมบาลกาห์ของอินเดียนั้นมีอีกสมญาหนึ่งว่า The Great Wall of India กำแพงป้อมแห่งนี้เลาะไหล่เขายาวถึง 36 กิโลเมตร กำแพงส่วนหน้าหนาถึง 15 ฟุต ที่นี่สร้างไว้เพื่อเป็นที่หลบภัยของเหล่ากษัตริย์จากการรุกรานของโมกุลในช่วงศตวรรษที่ 15

==========