ประวัติ จังหวัดจันทบุรี เมืองผลไม้ อัญมณีภาคตะวันออก
จันทบุรี หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของไทยที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ น้อยคนจะรู้ว่าที่นี่เป็นเมืองที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปีแล้ว ในช่วงเดียวกันกับอาณาจักรขอมเลยทีเดียว ไล่มาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงกลายมาเป็นหนึ่งในอาณาจักรไทย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ประวัติจังหวัดจันทบุรี นี้กันมากขึ้นดีกว่า
- ไหว้พระ 9 วัด จันทบุรี เที่ยววัดสวย ทำบุญ อิ่มใจ
- 19 ที่เที่ยว จันทบุรี เที่ยวเมืองรอง มาจันท์ทั้งที เที่ยวไหนดีนะ!
ประวัติ จังหวัดจันทบุรี ยุคเริ่มต้น
ตามศิลาจารึกแล้ว สมัยนั้นเรียกจันทบุรีว่า ควนคราบุรี แต่ชาวบ้านเรียกว่า เมืองนางกาไว ตามชื่อผู้ครองเมือง แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเมืองจันทบุรีเริ่มสร้างขึ้นจริงๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จากโบราณวัตถุต่างๆ เช่น ข้าวของเครื่องใช้ยุคหินขัด และศิลาจารึกภาษาสันสกฤต ที่ขุดค้นพบก็ทำให้ประมาณได้ว่าน่าจะมีมนุษย์อาศัยอยู่บริเวณนี้มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้ว แต่น่าจะเริ่มมีการตั้งเมืองเป็นครั้งแรกบริเวณตำบลเขาสระบาป (ซึ่งปัจจุบันยังมีซากเมือง และซากกำแพงเมืองให้เห็นอยู่) สร้างโดยชาวชอง ซึ่งเป็นชนเผ่าในตระกูลมอญ-เขมร ก่อนที่ภายหลังอาณาจักรขอมจะแผ่ขยายอิทธิพลมาถึง และเข้าครอบครองเมืองจันทบุรี ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกับ เมืองพิมาย เพชรบูรณ์ และลพบุรี
ผ่านไปประมาณ 400 ปี ขอมก็เสื่อมอำนาจลงในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ในที่สุดก็ต้องเสียเมืองจันทบุรีให้แก่อาณาจักรไทยทางฝ่ายใต้ ซึ่งมีราชธานีอยู่ที่เมือง สุพรรณภูมิ(เมืองอู่ทอง) จันทบุรีจึงกลายเป็นเมืองประเทศราชของไทย
ต่อมามีการย้ายตัวเมืองเดิมที่เชิงเขาสระบาป ตำบลคลองนารายณ์ มาสร้างเมืองใหม่ที่บ้านหัววัง ตำบลพุงทลายเดิม (ปัจจุบันเป็นตำบลจันทนิมิต) ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี เหตุผลที่ต้องย้ายเมืองมาตั้งใหม่ เพราะเมืองเดิมอยู่ติดกับภูเขาสระบาป ยากที่จะขยายเมืองออกไปให้ใหญ่โตกว่าเดิมได้ และเมืองใหม่ที่บ้านหัววังนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำ สะดวกต่อการคมนาคมและหาน้ำใช้
จากนั้น ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2200 ได้ย้ายมาสร้างเมืองใหม่ที่บ้านลุ่ม ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เพราะเมืองเดิมที่บ้านหัววัง ตำบลพุงทลาย แม้ว่าจะอยู่ริมแม่น้ำจันทบุรี สะดวกต่อการคมนาคมติดต่อค้าขายก็ตาม แต่มีข้อเสียสำคัญคือมีน้ำท่วมทุกปี
จันทบุรี สมัยกรุงธนบุรี - กรุงรัตนโกสินทร์
amnat30 / Shutterstock.com
หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งยังเป็นพระยาวชิรปราการ ได้นำกำลังพลประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมาทางทิศตะวันออก และยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารและไพร่พล จากนั้นจึงนำกองทัพทั้งชาวไทยและชาวจีนจำนวน 5,000 คน กลับไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาได้
สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (รัชกาลที่ 3) ได้มีการขยายเมืองจันทบุรีจากบ้านลุ่ม ไปอยู่บริเวณ ค่ายเนินวง บริเวณวัดโยธานิมิตรเพื่อเตรียมการป้องกันทัพญวนที่จะยกเข้ามาตีจากทะเลเมืองใหม่มีลักษณะเป็นเมืองป้อมปราการ มีกำแพงล้อมรอบ แต่ประชาชนย้ายตามขึ้นมาน้อย ส่วนใหญ่ยังคงอยู่บริเวณบ้านลุ่ม เพราะอยู่ติดแม่น้ำสะดวกแก่การคมนาคม ติดต่อค้าขาย ดังนั้น สมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้ย้ายเมืองกลับมายังเมื่องเก่าดังเดิม
ปี พ.ศ. 2436 เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสเข้ามายึดครองเมืองจันทบุรีไว้นานถึง 11 ปี จนไทยยินยอมยกดินแดนเมืองตราด ตลอดจนถึงเมือง ประจันตคีรีเขตให้ฝรั่งเศสเพื่อแลกเมืองจันทบุรีกลับคืนมา
ปี พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดตั้งระเบียบบริหารราชการแผ่นดินขึ้นใหม่ เมืองจันทบุรีได้ยกฐานะเป็นจังหวัดจันทบุรีมาจนถึงปัจจุบัน จันทบุรีจึงเป็นเมืองชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย ทั้งในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์จวบจนทุกวันนี้
====================
คำขวัญประจำจังหวัดจันทบุรี
น้ำตกลือเลื่อง เมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดี
อัญมณีมากเหลือ เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมญาติกู้ชาติที่จันทบุรี
====================
สัญลักษณ์ประจำจังหวัดจันทบุรี
- ต้นไม้ : สำรอง, จัน
- ดอกไม้ : เหลืองจันทบูร
- สัตว์น้ำ : ปลาบู่มหิดล
====================
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดจันทบุรี
จันทบุรีเองเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความหลากหลายในแง่ของการท่องเที่ยวมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวธรรมชาติอย่าง วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ ภูเขาใหญ่ที่ติดกับทะเล จุดชมวิวเนินนางพญา ถนนเลียบทะเลยาวที่สุดในประเทศไทย ที่เที่ยวน้ำตกก็มี น้ำตกกระทิง น้ำตกสวยใกล้เขาคิชฌกูฏ ถ้าเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาก็เช่น ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ วัดมังกรบุปผาราม โบสถ์สีน้ำเงินขาวสุด Unseen วัดปากน้ำแขมหนู หรือ โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์โกธิคแบบฝรั่งเศส รวมถึงชุมชนเก่าแก่อย่าง ชุมชนริมน้ำจันทบูร เป็นต้น
ข้อมูล :
ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<