รีเซต

พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน Jim Thompson House Museum เที่ยวกรุงเทพ ชมพิพิธภัณฑ์มีชีวิต

พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน Jim Thompson House Museum เที่ยวกรุงเทพ ชมพิพิธภัณฑ์มีชีวิต
21 กรกฎาคม 2565 ( 11:14 )
164.8K
3

       วันนี้ เราจะพามา เที่ยวกรุงเทพ One Day Trip กับเรื่องราวของ ผ้าไหมไทย และ จิม ทอมป์สัน ชาวอเมริกันที่ทำให้วงการผ้าไหมในบ้านเรามีชื่อเสียงในระดับโลกกันที่ พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สันJim Thompson House Museum หรือที่ใครต่อใครมักจะเรียกสั้นๆ ว่า บ้านจิม นั่นเองค่ะ พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจอีกแห่ง และยังเป็นการอนุรักษ์บ้านไทยไว้ให้เราได้ชมกันอีกด้วย ตามมาดูกันเลยค่ะ

 

ปักหมุด พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

 

      พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน หรือ Jim Thompson House ตั้งอยู่ที่ท้ายซอยเกษมสันต์ 2 ซอยเล็กๆ ริมถนนพระราม 1 ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟฟ้า BTS สนามกีฬาแห่งชาติ เท่าไหร่ค่ะ โดยเราสามารถเดินจากสถานีไปที่พิพิธภัณฑ์ได้เลย หรือ จะรอรถกอล์ฟรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวจากปากซอยเกษมสันต์ 2 ไปยังพิพิธภัณฑ์ก็ได้ชิลๆ เลยจ้า

 

 

รู้จักพิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน

      ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ จิม ทอมป์สัน ผู้ก่อตั้ง ร้านผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สัน และเป็นผู้นำในการสร้างชื่อเสียงของผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

      ภายในบ้านจิมนั้น จะเป็นหมู่เรือนไทยเก่าแก่ 6 หลัง และรายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุเฉียดร้อยปี รวมถึงยังมีทั้งบรรดาเฟิร์น มอส และบ่อน้ำ ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น จนแทบไม่น่าเชื่อว่า ความครึ้มเขียวเย็นนี้ จะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ที่เต็มไปด้วยความจอแจ และเสียงอันอึกทึกเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้นเอง

 

 

     ในบริเวณเรือนไทยจะเป็นส่วนของเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ โดยจะมีไกด์ของทางพิพิธภัณฑ์ นำชมพิพิธภัณฑ์ และให้ข้อมูลทั้งแบบเวอร์ชั่นภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น) ทำให้เราสามารถเดินชมโซนต่างๆ ได้โดยง่าย และรู้เรื่องราวของพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติมอย่างละเอียดนอกเหนือจากป้ายให้ข้อมูลอีกด้วย

 

 

ประวัติ จิม ทอมป์สัน 

      ก่อนไปเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์กัน เรามารู้จัก จิม ทอมป์สัน กันสักหน่อยค่ะ ชื่อจริงของ จิม ทอมป์สัน ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เจมส์ แฮร์ริสัน วิลสัน ทอมป์สัน (James Harrison Wilson Thompson)

      ในช่วงราวๆ ปี ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เป็นช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 จิม ทอมป์สัน ได้ผันตัวเองจากงานด้านสถาปัตยกรรมที่นิวยอร์ก มาเป็นทหารอาสาร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจในประเทศไทย

 

 

      แต่เป็นช่วงที่สงครามจบลงก่อน ทำให้จิม ทอมป์สันต้องพำนักอยู่ในประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าสถานียุทธศาสตร์ในกรุงเทพฯ และมีหน้าที่ฟื้นฟูสถานเอกอัครทูตสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) จิม ทอมป์สัน ได้ปลดประจำการจากกองทัพ และใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ระหว่างนั้นเขาได้เดินทางไปหลายที่ในภาคอีสาน และมีความสนใจอมากๆ ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไหม และทอผ้าในครัวเรือน ที่มีความแตกต่างจากผ้าไหมที่ผลิตจากเครื่องจักร 

 

 

     จิม ทอมป์สัน จึงได้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ และได้นำตัวอย่างผ้าไหมแบบดั้งเดิมไปเผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา จนได้มีการนำผ้าไหมไทยไปตัดเย็บ ออกแบบเป็นเสื้อผ้าไหมโดยวาเลนทินา (Valentina) นักออกแบบเสื้อผ้าผู้มีชื่อเสียงของนิวยอร์ก และได้ขึ้นในนิตยสาร Vogue ในที่สุด ทำให้ธุรกิจผ้าไหมไทยเริ่มโด่งดังไปทั่วโลก 

 

บ้านจิม ทอมป์สัน 

 

 

     ระยะแรกที่จิม ทอมป์สัน ปักหลักอยู่ในประเทศไทย เขาพักอยู่ที่โรงแรมโอเรียลเต็ล และถัดมาได้เช่าบ้าน 2 หลังที่ละแวกศาลาแดงเอาไว้ แต่เนื่องจากภายหลังที่ของสะสมเพิ่มขึ้น ทำให้ จิม ทอมป์สัน ตัดสินใจที่จะสร้างบ้านขึ้นที่นี่ในที่สุด และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในตอนนี้ค่ะ

      หมู่เรือนไทยภายในบ้านจิม ส่วนหนึ่งเป็นเรือนที่เดินทางไปเลือกเองจากจังหวัดอยุธยา เป็นบ้านไม้เก่าอายุเกินหนึ่งศตวรรษแล้วทั้งนั้น เมื่อถูกใจก็ติดต่อขอซื้อ และถอดเป็นชิ้นๆ นำเข้ากรุงเทพฯ เพื่อ จะมาดัดแปลงออกแบบบางส่วนตามความรู้เชิงสถาปัตย์ จนกลายมาเป็นหมู่เรือนไทยที่สวยงามแห่งนี้ค่ะ

 

      พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของมูลนิธิจิม ทอมป์สัน และยังได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2539 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกด้วย

      ภายในเรือนประธาน หรือเรือนใหญ่ ที่เคยเป็นบ้านในสมัยที่ จิม ทอมป์สัน ยังพักอาศัยอยู่ที่นี่ ปัจจุบันปรับปรุง ซ่อมแซม และอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพคล้ายของเดิมที่สุด และนำของสะสมส่วนตัวของติม ทอมป์สันอันประเมินค่าไม่ได้มาจัดแสดงไว้ในห้องต่างๆ ค่ะ ของบางชิ้นเป็นของธรรมดาสามัญเมื่อ 100 ปีก่อน แต่เป็นของที่คนไทยอาจจะไม่ได้เก็บรักษาเอาไว้

 

 

     ของสะสมของจิม ทอมป์สัน มีศิลปวัตถุจำพวกเครื่องกระเบื้องเคลือบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกระเบื้องจีน คอลเลกชั่นนับแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง มาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องลายครามที่ส่งออกในสมัยราชวงศ์หมิง หลายชิ้นได้มาจากอยุธยาเป็นของที่ส่งมาจากเมืองจีนระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15-17 

      เครื่องเคลือบลพบุรี-เขมร  ศิลปวัตถุสีน้ำตาลเข้มเป็นลักษณะที่เด่นชัด ที่ทำในบริเวณอาณาจักรลพบุรีในคริสต์ศตวรรษที่ 12

      เครื่องสุโขทัยและสวรรคโลก เครื่องกระเบื้องของไทยที่ผลิตใน คริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 นอกจากนี้ยังมีเครื่องเบญจรงค์ และเครื่องเคลือบลายน้ำทองเขียนลายไทย ศิลปะสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 อีกด้วย

 

 

      อีกทั้งยัมีประติมากรรม พระพุทธรูป มากมาย ทั้งพระพุทธรูปสมัยต่างๆ รวมถึงชิ้นส่วนพระพุทธรูปเก่าแก่ จากหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยชิ้นสำคัญๆ ที่ไกด์พาเรามาชมก็คือ

      พระวรกายของพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยทวาราวดี ตั้งแสดงไว้ในพื้นที่โล่ง ใต้ถุน บ้านส่วนที่เป็นห้องอาหาร พระพุทธรูปนี้มีอายุตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 หรือ 8 พบอยู่ที่จังหวัดลพบุรีในภาคกลางของประเทศไทย

 

 

     พระพุทธรูปครึ่งองค์ขนาดใหญ่แกะสลักจากหินปูนได้มาจากแถบลพบุรี เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี คริสต์ศตวรรษที่ 8 เป็นของรักที่สุดองค์หนึ่งของจิม ทอมป์สัน เนื่องจากนำไปไว้ในห้องทำงาน 

     ทั้งยังมี “พระแผง” โบราณขนาดใหญ่  ทำมาจากดินเผาประดับด้วยกระจกสี  บรรจุพระไว้ถึง 450 องค์ แต่น่าเสียดายที่บางองค์ถูกหัวขโมยเจาะลักเอาไปจนเป็นช่องโหว่ แต่ก็ถือว่าสมบูรณ์มากและหาชมได้ยากอย่างยิ่งทีเดียวค่ะ

 

 

 

     นอกจากนี้ ยังมีภาพจิตรกรรมจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีเนื้อหาเชิงพุทธศาสนา รวมถึงคอลเล็คชั่นผ้าพระบฏสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 อีกด้วย

 

     อีกทั้งในบ้านจิม ทอมป์สัน ยังมีของชิ้นเล็กๆ น่ารักอีกหลายอย่างค่ะ เช่น บ้านหนู ฝีมือช่างแกะสลักชาวจีนในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นของเล่นของเด็กจีน ในการนำหนูขาวมาแต้มสีของใครของมัน แล้วปล่อยในบ้านหนูซึ่งออกแบบให้มีหลายคูหา หลายช่อง หนูของใครออกมาก่อนตัวแรก ถือว่าเป็นผู้ชนะนั่นเอง เอาจริงๆ เราก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยเหมือนกันค่ะ ได้มาเห็นที่นี่เป็นที่แรกเลย

 

 

      นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน จะมี ร้านผ้าไหม จิม ทอมป์สัน ซึ่งภายในก็จะเต็มไปด้วยสินค้าจากผ้าไหมนานาชนิด เลยทีเดียวค่ะ ทั้ง เสื้อผ้า เนคไท ตุ๊กตา ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ และอื่นๆ มากมายเลยค่ะ 

ร้านผ้าไหม จิม ทอมป์สัน

 

 

     และยังมีร้านอาหาร Jim Thompson Restaurant and Wine Bar ตั้งอยู่อีกด้วยค่ะ ภายในร้านจะให้บริการทั้งอาหารไทย และอาหารฟิวชั่น หลากหลายเมนู ให้ได้ชิมกันอีกด้วย ว่าแล้วก็แวะสักหน่อย เดินเที่ยวกันมาทั้งวัน ขอมาจบทริปกันตรงนี้แล้วกันนะคะ 

 

 

การหายตัวไปอย่างลึกลับของ จิม ทอมป์สัน

      ตำนานความเป็นราชาไหมไทยของ จิม ทอมป์สัน ปิดฉากลง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) เขาเดินทางไปพักผ่อนตากอากาศกับเพื่อนที่บริเวณที่ราบสูงคาเมรอน เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย และได้หายตัวไปอย่างลึกลับ มีเพียงคำบอกเล่าของพยานที่ระบุว่า จิม ทอมป์สัน ได้ทิ้งกล่องใส่บุหรี่และกล่องยาประจำตัววางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านพัก แล้วเดินเข้าป่าที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านพัก แล้วก็หายสาบสูญไป

      ทางการมาเลเซียระดมตำรวจกว่า 300 นาย ติดตามค้นหา และกลุ่มเพื่อนของ จิม ทอมป์สัน ก็ออกติดตามหาด้วย เป็นระยะเวลายาวนานถึง 2 ปี ก็ไม่พบหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นหลักฐานแสดงถึงการมีชีวิตอยู่ หรือหลักฐานที่ระบุว่า จิม ทอมป์สัน เสียชีวิตแล้ว

 

 

      ใครที่ยังไม่เคยได้มาเที่ยวบ้านจิม หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน แห่งนี้ ก็อยากให้ลองเข้ามาเดินชมกันดูสักครั้ง เพราะข้าวของเครื่องใช้บางชิ้น ตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปจนถึงชิ้นใหญ่ๆ อย่างพระพุทธรูป ประติมากรรม ก็ถือว่าหาชมได้ยากแล้วค่ะ บางอย่างอาจจะเป็นแค่ของเล่น ของใช้ในยุคเก่าก่อน แต่ทุกวันนี้ เราก็แทบจะไม่รู้จักกันแล้ว เป็นการมาเที่ยวที่นี่ เหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต และได้สัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆ ในสมัยเก่าอยู่เหมือนกันค่ะ

 

ข้อมูล พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน 

  • ที่อยู่ : ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/AQFZhp2tUL8NLass7
  • เปิดให้เข้าชม : 11.00-18.00 น.
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก (อายุต่ำกว่า 22 ปี) 100 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้าฟรี
  • โทร : 0-2216-7368
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/jimthompsonhouse