กระเป๋าเดินทาง Hard Case กับ Soft Case ต่างกันยังไง
สงสัยไหมว่า กระเป๋าเดินทาง จริงๆ แล้ว เราควรเลือกซื้อแบบไหนดีกว่ากัน เพราะมีทั้งแบบ Hard Case และ Soft Case งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง แบบไหนคุ้มค่าเงินที่สุด และสามารถป้องกันสัมภาระด้านในของเราได้มากที่สุด มาเช็กเลยค่ะ
วิธีเลือก กระเป๋าเดินทาง แบบไหนดีกว่า?
ระหว่าง Hard Case หรือ Soft Case
อย่าลืม รับประกันเดินทาง FWD ได้ที่นี่
Hard Case หรือ กระเป๋าเดินทางประเภทแข็ง
กระเป๋าเดินทางแบบ Hard Case นั้น จะทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน ด้านในจะมีโครงสร้างกันกระแทก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำจาก Polycarbonate (PC) ที่เป็นวัสดุทำให้กระเป๋าแข็งแรง แต่ยังคงมีน้ำหนักที่เบา สามารถรับแรงกดหรือการกระแทกแรงๆ ได้นั่นเองค่ะ ที่สำคัญกระเป๋าแบบนี้ก็ยังสามารถกันน้ำได้ด้วย ในกรณีที่ฝนตก ของภายในของเราก็จะไม่เปียกนั่นเองค่ะ อีกทั้งยังป้องกันการโจรกรรมได้ดีด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กระเป๋าแบบ Hard Case ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน คือ อาจจะมีรอยขีดข่วนได้ง่าย เพราะเป็นพลาสติก หรือถ้ากระเป๋าคุณภาพไม่ดี ก็อาจจะแตกได้ค่ะ
Soft Case หรือ กระเป๋าเดินทางประเภทอ่อน
กระเป๋าเดินทางประเภท Soft Case นี้ที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือ กระเป๋าเดินทางที่ทำมาจากผ้า เลยทำให้กระเป๋ามีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบแข็ง เลยใส่สัมภาระได้มากค่ะ อีกทั้งยังเป็นรอยได้ยากกว่ามาก และถ้าถูกกระแทกก็ไม่แตกหรือพังง่ายๆ
ซึ่งข้อเสียของกระเป๋าเดินทางประเภทนี้คือ ไม่สามารถกันน้ำได้ ถ้าเจอฝนตกก็ทำให้เสื้อผ้าด้านในเปียกได้เลย และ ง่ายต่อการโจรกรรม สามารถกรีดขาดได้เลย รวมถึงยังมีน้ำหนักที่มากกว่าแบบแข็งเพราะทำจากผ้านั่นเองค่ะ
นอกจากประเภทของ กระเป๋าเดินทาง ทั้งแบบแข็งและอ่อนที่เราจะต้องเลือกแล้วนั้น ล้อของกระเป๋าก็เป็นส่วนสำคัญที่เราต้องเช็คก่อนซื้อด้วยค่ะ เพราะทั้งล้อเดี่ยว และ ล้อคู่ ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป รวมถึงคุณภาพของล้อเช่นกัน แนะนำว่าใครอยากได้กระเป๋าเดินทางแบบมีคุณภาพ อยู่ได้นาน ก็เช็กวัสดุต่างๆ กันให้ดีก่อนซื้อนะคะ รวมถึงการรับประกันกระเป๋าของยี่ห้อ หรือร้านนั้นๆ ด้วย