รีเซต

ลงเรือเที่ยวเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพ One Day Trip

ลงเรือเที่ยวเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพ One Day Trip
เอิงเอย
12 ธันวาคม 2560 ( 08:30 )
932.9K

      ช่วงวันหยุดยาวนี้ ถ้าใครยังไม่ได้มีแผนจะไปเที่ยวทำบุญต่างจังหวัดไกลๆ เราชวนให้มาทำบุญ ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ ในบรรยากาศใหม่ๆ ด้วยการ ลงเรือเที่ยวเจ้าพระยา ล่องแม่น้ำ แวะไหว้พระตามวัดต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสิริมงคลให้ตัวเอง และรีแลกซ์ท่องเที่ยวง่ายๆ 1 วัน ในกรุงเทพฯ พร้อมแล้วตามเรามาได้เลยค่ะ !

 

 

     เริ่มจากการมาลงเรือที่ท่าน้ำสาธรค่ะ วิธีการเดินทางมาง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสินนั่นเอง ที่ ท่าน้ำสาธร ซึ่งเราต้องซื้อตั๋วเรือไปเอง แล้วก็ไปลงแต่ละวัด และซื้อตั๋วต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ข้อดีคือ เราจะได้ใช้เวลาในแต่ละวัดอย่างไม่เร่งรีบ และทำตารางเวลาในการไปเที่ยวแต่ละวัดเอง 

     หรือถ้าใครไม่อยากต้องไปเอง ตามวัดต่างๆ ก็จะมีบริการเรือด่วนพาเราไปไหว้พระ 9 วัดอยู่แล้วค่ะ แต่อาจจะไม่ได้ไป 9 วัดตามนี้ เพราะโปรแกรมก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ 

 

 

 

 

วัดที่ 1 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

      สำหรับการไปไหว้พระที่วัดนี้จะมีคติอยู่ว่า “เดินทางปลอดภัยมีมิตรไมตรีที่ดี” นั่นเองค่ะ

      วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารนั้น สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ค่ะ วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอก

      เมื่อเข้ามาในวัดแล้ว ควรจุดธูปเทียนบูชาพระก่อน ตามลำดับที่ทางวัดตั้งไว้ แล้วจึงเดินเข้าไปภายในพระวิหารหลวง เพื่อกราบนมัสการ หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือเรียกตามแบบจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีแค่ที่นี่ ที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา 3 วัดเท่านั้นในประเทศไทยค่ะ

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สักการะหลวงพ่อโต ณ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

=====================

 

 

วัดที่ 2 วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง

 

       เป็นที่รู้กันอยู่ค่ะว่า มาไหว้พระ 9 วัดครั้งไหนๆ ก็ต้องมาที่วัดแจ้งด้วยทุกครั้งไป ด้วยคติที่ว่า “ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน” นั่นเองค่ะ

 

      วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอกนอก สร้างในสมัยอยุธยา สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ 2 มาบรรจุที่พุทธอาสน์ของพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในอุโบสถ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม” จึงได้ถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ค่ะ

 

=====================

 

วัดที่ 3 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง

 

 

      สำหรับวัดระฆังนั้นคนนิยมมากราบไหว้บูชา ปล่อยนกปล่อยปลาที่นี่ค่ะ ด้วยคติ และคำเชื่อที่ว่า มาทำบุญที่วัดระฆัง จะทำให้ “มีชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ” นั่นเอง

      เมื่อเอ่ยถึงวัดระฆัง สิ่งที่หลายๆ คนต้องนึกถึง คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เนื่องจากท่านเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก และพระคาถาชินบัญชรที่เชื่อว่าหากสวดกันเป็นประจำจะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองค่ะ

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ อิ่มบุญ อิ่มใจ ไหว้พระ วัดระฆัง

=====================

 

 

วัดที่ 4 วัดอมรินทรารามวรวิหาร

       เชื่อกันว่าการมาไหว้พระที่วัดนี้ก็คือ “พระอินทร์ประทานพรให้ปลอดภัยจากอันตรายใดๆ ทั้งปวง” วัดอมรินทรารามวรวิหารสร้างขึ้นประมาณ ปี พ.ศ.2200 ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง เดิมทีมีชื่อวัดว่า “วัดบางว้าน้อย” ตั้งคู่กับ “วัดบางว้าใหญ่” หรือวัดระฆังค่ะ

 

      จุดที่น่าสนใจภายในวัด อยู่ที่วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งมีพระประธานคือ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบสุโขทัย ปางมารวิชัยลงรักปิดทอง เป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมากราบสักการะขอพรจากหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมากค่ะ

       เพราะด้วยความศักดิ์สิทธ์ของหลวงพ่อตั้งแต่ในครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา ตอนที่ระเบิดลง ภายในวัดนี้เสียหายพังพินาศหมด เนื่องจากวัดอยู่ติดกับสถานีรถไฟพอดี คงเหลือไว้แต่เพียงวิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย และมณฑปพระพุทธบาทจำลอง ที่รอดพ้นภัยมาได้ แต่ด้วยแรงระเบิดจึงทำให้เศียรของหลวงพ่อร้าว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรหลวงพ่อโบสถ์น้อยได้นั่นเองค่ะ

     

       หลังจากมาไหว้พระกันถึง 4 วัดแล้ว เราก็สามารถมาแวะทานมื้อกลางวันกันก่อนที่จะไปวัดต่อไปได้ที่ ตลาดน้ำตลิ่งชัน ค่ะ เราสามารถเช่าเรือเหมาลำมาลงที่ตลาดน้ำได้ ที่ตลาดน้ำนี้คงความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตของชาวคลองไว้ให้เราได้เห็นๆ กันอยู่ค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าหาดูยากมากในสมัยที่เมืองพัฒนาไปมากขนาดนี้

       ภาพที่เห็นได้ในตลาดน้ำตลิ่งชันก็คือ พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือขายอาหาร ผักผลไม้ต่างๆ ทั้งบนโป๊ะ และในคลอง เช่น ก๋วยเตี๊ยว ขนมไทย ผลไม้ต่างๆ ฯลฯ ค่ะ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่คงหนีไม่พ้นปลาเผา กุ้งเผา หอยแมลงภู่นึ่ง ค่ะ และของฝากที่นิยมมากนั่นก็คือ หมี่กรอบ นั่นเอง แวะทานอาหารกันเรียบร้อยก็มาลงเรือต่อเพื่อไปวัดต่อไปกันเลยค่ะ

 

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดนี้มีแต่ของอร่อย

=====================

 

 

วัดที่ 5 วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

 

 

       จากตรงนี้ เราสามารถเช่าเรือจากตลาดน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นเรือของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อมาเที่ยววัดสุวรรณารามต่อเองได้ค่ะ โดยวัดตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันตกค่ะ เป็นวัดสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดทอง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม และพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม”

 

      วัดสุวรรณารามนี้ เคยปรากฏในพระราชพงศาวดารสมัยกรุงธนบุรีว่า คราวพม่ายกกองทัพมาตีเมืองพิษณุโลก พระเจ้าตากสินมหาราชจะยกกองทัพไปช่วย จึงโปรดให้ถามเชลยศึกพม่าที่จับมาได้จากค่ายบางนางแก้วว่าจะสมัครใจไปช่วยรบพม่าด้วยหรือไม่

      แต่เชลยศึกพม่าตอบปฎิเสธ พระเจ้าตากสินจึงจับเชลยศึกทั้งหมดประหารใกล้ๆ วัด จึงทำให้มีความเชื่อว่า ตอนกลางคืนจะมีม้ามาวิ่งอยู่รอบโบสถ์ค่ะ ใครที่มาบนขออะไรที่วัดมักจะประสบความสำเร็จค่ะ วิธีแก้บนก็คือให้มาวิ่งม้าก้านกล้วยรอบโบสถ์นั่นเอง

=====================

 

วัดที่ 6 วัดคฤหบดี

 

 

      มีคติว่า “เสริมโชควาสนา บารมี ดุจดั่งทอนพคุณ เคียงคู่แก้วมรกต” วัดคฤหบดี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับบ้านปูน เชิงสะพานพระราม 8 ค่ะ

 

      มี พระพุทธแซกคำ เป็นพระประธานในพระอุโบสถของวัดคฤหบดี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองคำโบราณ ปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปคู่เมืองแห่งราชอาณาจักรล้านนา

      ต่อมาเจ้าพระยาบดินทรเดชาเป็นแม่ทัพไปปราบกบฏเวียงจันทน์ ได้จับกุมเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์เวียงจันทน์มากรุงเทพฯ พร้อมอัญเชิญพระพุทธแซกคำนำมาทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดคฤหบดีจากนั้นเป็นต้นมาค่ะ

 

=====================

 

วัดที่ 7 วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร

 

 

       เป็นพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุต ซึ่งมีคติว่า “มีลาภยศที่ยิ่งใหญ่ ดุจพระราชา” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดราชาธิวาสวิหาร” มีความหมายว่า “วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา” เป็นวัดแรกที่ถือกำเนิดคณะสงฆ์ ธรรมยุติกนิกายค่ะ

       พระอุโบสถเป็นทรงขอมคล้ายนครวัด ออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ มีห้องสามตอนคือ ห้องหน้าเป็นระเบียง ห้องกลางเป็นห้องพิธี มีพระสัมพุทธพรรณีเป็นพระประธาน มีเศวตฉัตร 9 ชั้น (ร. 5 หล่อพระราชทาน) หลังพระประธานเป็นซุ้มคูหา

      และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในแสดงเรื่องพระเวสสันดรชาดก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นผู้ร่างภาพ และ ศ.ซี.ริโกลี (C.Rigoli) จิตรกรชาวอิตาเลียน เป็นผู้เขียนด้วยการใช้สีปูนเปียก (Fresco) ซึ่งมีความสวยงามต่างจากภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดอื่นๆ ค่ะ

=====================

 

 

วัดที่ 8 วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร หรือ วัดสมอแครง

 

 

      เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีมาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียวค่ะ ในการมาไหว้พระที่วัดนี้มีคติว่า “มงคลเทพเทวดา มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง”

      มี พระพุทธเทวราชปฏิมากร เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปโลหะหล่อลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ฝีมือช่างสมัยทวารวดี ประดิษฐานบนฐานชุกชี ค่ะ พระประธานในพระอุโบสถของวัดเทวราชกุญชรนับว่าแปลกกว่าวัดอื่น เนื่องจากพุทธศาสนิกชนนิยมถวาย “ผ้าไตร” แทนดอกไม้ธูปเทียน ได้สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่การกราบขอพรพระศักดิ์สิทธิ์องค์นี้เป็นเท่าทวีคูณ และนับเป็นวัดแรกในประเทศไทยที่นำผ้าไตรมาเป็นเครื่องสักการะที่ได้รับความศรัทธาสูงสุดมาจนทุกวันนี้

 

=====================

 

วัดที่ 9 วัดยานนาวา

 

 

      เดิมชื่อ วัดคอกควาย เนื่องจากมีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และชาวทวายจะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันนั่นเองค่ะ

      ต่อมารัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือเป็น “วัดยานนาวา” นั่นเองค่ะ สำหรับวัดนี้ มีคติว่า “การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง”

 

       จบทริปในวันนี้ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มท้องอิ่มบุญ ค่ะ ใครที่อยากลองมาตามรอยไหว้พระ 9 วัดด้วยการล่องเรือมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเราก็สามารถเอาตารางนี้ไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติของวัดสำคัญต่างๆ ซึ่งพ่วงกับประวัติศาสตร์ของเราอีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

ลงเรือเที่ยวเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ

ที่อยู่ขึ้นเรือ : ท่าเรือสาทร ท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก หรือฝั่งพระนคร ใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน บริเวณปลายถนนสาทร และปากคลองสาทร

เปิดบริการ : 09.30 – 19.30 น.

การเดินทาง : โดยใช้รถไฟฟ้า bts ลงสถานีสะพานตากสิน ใช้ทางออก 2 เดินไปยังท่าเรือสาทร

หมายเหตุ : เรือด่วนไม่สามารถไปได้ครบทุกวัด ต้องมีการต่อเรือจากตลาดน้ำตลิ่งชั่น โดยเรือชาวบ้าน เช่าเหมาลำ

รายละเอียดเพิ่มเติม ททท.กรุงเทพฯ https://www.facebook.com/tatbangkok

 

 

ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่น่าสนใจอื่นๆ

20 ที่เที่ยว กรุงเทพ จูงมือแฟนเที่ยว

9 ร้านอาหาร ประตูผี ในตำนาน ย่านนี้มีแต่ของอร่อย

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่

Facebook Twitter

และ แอปพลิเคชั่น

TrueID Application Add friend ที่ ID : @TrueID