รีเซต

7 ทริป เส้นทางเที่ยว เชียงใหม่ ชมสายหมอก ทุ่งดอกไม้ ที่จะทำให้หลงรัก

7 ทริป เส้นทางเที่ยว เชียงใหม่ ชมสายหมอก ทุ่งดอกไม้ ที่จะทำให้หลงรัก
aichan
26 กันยายน 2561 ( 10:40 )
135.6K
8

      จัดทริปเที่ยวเมืองเหนือทีไร เชียงใหม่ เป็นจังหวัดยอดนิยมที่ต้องอยู่ในแพลนจริงไหมคะ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่ใครๆ ก็อยากจะขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น สูดโอโซนให้ชุ่มปอด นอนดูดาว ชมทะเลหมอก ชมดอกไม้ เอาล่ะ ตามเราไปเที่ยว 7 ทริป เส้นทางเที่ยว เชียงใหม่ ชมสายหมอก ทุ่งดอกไม้ ที่จะทำให้หลงรัก เชียงใหม่ไปตามๆ กัน เที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ไปเส้นทางไหนดีนะ!

 

 

 

 

เส้นทางที่ 1

“ดอกไม้งามในเมือง ลือเลื่อง อุทยานหลวงราชพฤกษ์”

 

       เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมือง อ.เมืองเชียงใหม่ ตามถนนคันคลอง หรือถนนเชียงใหม่-หางดง ไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ ประมาณ 10 กม.

 

       อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นสวนพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 468 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก มีสถานที่จัดแสดงอื่นๆ ที่สำคัญ อย่าง หอคำหลวง เรือนร่มไม้ เรือนกล้วยไม้ สวนสมุนไพร เรือนพืชทะเลทราย โดมไม้เขตร้อนชื้น โลกแห่งแมลง สวนบอนไซ สวนบัว สวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ สวนองค์กรหน่วยต่างๆ ให้ได้เที่ยวชมพืชพันธุ์ไม้นานาชนดิ ซึ่งทีน่าสนใจ ทิวลิปคิงภูมิพล สวนไม้ดอกไม้ประดับ โซน G และเรือนกล้วยไม้ จะเดินเที่ยวชม นั่งรถราง หรือปั่นจักรยานก็ได้

 

 

      ห้ามพลาดชมความงดงามของ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงดงามของพันธุ์ไม้เมืองหนาวกว่า 100 สายพันธุ์ เช่น ลิลลี่, ทิวลิป มากกว่า 100,000 ต้น มีการจัดสวนและภูมิทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนหอสูงกว่า 15 เมตร เพื่อชมความงามของสวนดอกไม้ได้แบบ 360 องศา และมีร้านอาหารบริการในบริเวณริมอ่างเก็บน้ำในบรรยากาศที่โรแมนติกอีกด้วย

 

สวนสัตว์เชียงใหม่

 

       สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ บนถนนห้วยแก้ว เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. เหมาะสำหรับคนรักสัตว์ ที่นี่มีสัตว์นานาชนิดทั้งสัตว์ท้องถิ่นและจากต่างประเทศ และยังมีส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าช่วงช่วง และหลินฮุ่ย จากประเทศจีน ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย

 

     ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ยังเป็นที่ตั้งของ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำครบวงจร ซึ่งคุณจะได้สัมผัสฝูงปลาน้อย-ใหญ่ นับหมื่นตัวอย่างใกล้ชิด ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาว กว่า 133 เมตร ที่จัดว่ายาวที่สุดในโลก ภายในยังมีกิจกรรม ดำผิวน้ำดูปลา (Snorkeling Explorer) โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงทะเล

 

88studio / Shutterstock.com

 

      นอกจากนี้ยังมี เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์เปิด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาด 819 ไร่ ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสวนสัตว์กลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น Nature Theme Park เพื่อตอบโจทย์ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาสัมผัสใกล้ชิด กับสัตว์นานาชนิดสไตล์ซาฟารีได้ตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืน และในกลางคืนยังมีการแสดงน้ำพุดนตรี รถนำเที่ยวสัตว์กลางคืนอีกด้วย

================

 

 

 

เส้นทางที่ 2

“ไหว้สา พระธาตุดอยสุเทพ ชมสวนกุหลาบงามที่พระตำหนักภูพิงค์ฯ”

 

       เส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขึ้นมาตามถนนสุเทพ-ดอยปุย ระยะทาง 6 กม. จุดแรกที่แนะนำคือ แวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย 

        อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ครูบาศรีวิชัยเป็นนักบุญแห่งล้านนาผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวล้านนา และประชาชนโดยทั่วไป ผู้ที่จะขึ้นไปดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเพื่อความเป็นสิริมงคล ในอดีตครูบาศรีวิชัยพร้อมด้วยประชาชนได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ระยะทาง 12 กิโลเมตร จนเกิดเป็นชื่อ ถนนศรีวิชัย ขึ้นไปยังพระธาตุดอยสุเทพ

 

 

      วัดพระธาตุดอยสุเทพ ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุดอยสุเทพสีทองอร่าม เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม (ปีแพะ) จากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นสู่พระธาตุดอยสุเทพประมาณ16 กิโลเมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้อย่างงดงาม

 

       พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชนีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม พระตำหนัก และความสวยงามของพันธุ์ไม้นานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงามของกุหลาบมากกว่า 360 ชนิด รวมทั้งกุหลาบควีนสิริกิติ์ เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าชมได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งนี้จะต้องเป็นช่วงเวลาที่มิได้มีเสด็จแปรพระราชฐานประทับ

 

 

       ไฮไลท์อีกอย่างของเส้นทางนี้คือ ดอกพญาเสือโคร่ง ที่ ขุนช่างเคี่ยน ถือเป็นแหล่งชมดอกพญาเสือโคร่งที่อยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มากที่สุดซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปีเพราะดอกพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนมีความสวยงาม และบานในฤดูหนาว ช่วงระหว่างปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคมเท่านั้น

       เส้นทางไปถึงขุนช่างเคี่ยนประมาณ 7 กิโลเมตร มีความคดเคี้ยวและคับแคบ ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องมีความชำนาญและยานพาหนะควรมีสภาพที่ดี บริเวณขุนช่างเคี่ยน มีบ้านพักและจุดกางเต็นท์ให้บริการ อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร.0-5322-2014

 

 

       ดอยปุย ยอดดอยปุย มีความสูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ดอยปุย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดดอยปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่ และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ดอยสุเทพ และดอยปุยเป็นถิ่นอาศัยของนกมากกว่า 300 ชนิด เช่น ไก่ฟ้าหลังขาว นกกางเขนน้ำหลังดำ นกศิวะปีกสีฟ้า ฯลฯ บริเวณ ดอยปุยเป็นที่อาศัยของชาวเขาเผ่าม้งที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม เช่น การแต่งกาย อาหาร และของที่ระลึกจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม

================

 

 

 

เส้นทางที่ 3

“โรแมนติก ขุนเขาม่อนแจ่ม ศึกษาเรียนรู้ สวนพฤกษศาสตร์”

 

       จากตัวเมืองเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสาย 107 ผ่านอำเภอแม่ริม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่สาย 1069 แม่ริม-สะเมิง มีแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางไปม่อนแจ่มหลายแห่ง

 

       ฟาร์มกล้วยไม้ แวะชมฟาร์มกล้วยไม้และฟาร์มผีเสื้ออยู่หลายแห่ง เช่น สวนกล้วยไม้เม้าท์เท่นออร์คิด สวนบัว แม่สาออร์คิด แม่แรมออร์คิด สายน้ำผึ้งพิพิธภัณฑ์กล้วยไม้ไทยที่รวมพันธุ์กล้วยไม้ และไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์

 

 

       สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพื้นที่ขนาด 3,500 ไร่ ที่ได้อนุรักษ์ และรวบรวมพืชพันธุ์ไม้เป็นหมวดหมู่ตามวงศ์สกุลต่างๆ โดยจัดปลูกให้สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุด มีอาคารเรือนกระจกบนยอดเขา ที่มีทั้งความสวยงาม และความรู้ ทำให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ศึกษาธรรมชาตินับว่าเป็น สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล เพื่อเป็นที่ศึกษาวิจัย และให้ความรู้ ทางด้านพฤกษศาสตร์

 

       โครงการหลวงหนองหอย เป็นสถานที่ปลูกและวิจัย ผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้นต์ คาร์โมมายด์และโรสแมรี่ ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รี แปลงผักไฮโดรพอนิกส์ เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน หรือจะไปเดินศึกษาธรรมชาติ “ดอยม่อนล่อง” ซึ่งเป็นจุดชมวิวชมทะเลหมอกบนหน้าผา 1,460 เมตร ที่นี่ยังมีไกด์ท้องถิ่น และมัคคุเทศก์น้อย ของหมู่บ้านชาวเขา บริการนำเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวเขา

 

 

      ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่บนเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง เป็นภูเขาสูง 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และสวนไม้ดอกไม้ประดับ มุมถ่ายภาพสวยๆ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอแม่แตง และแม่ริม ในกลางวันได้อย่างสวยงาม และในยามค่ำคืนจะเห็นท้องฟ้ากลายเป็นทะเลดาว ม่อนแจ่มเป็นสถานที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวและยัง เป็นสถานที่ถ่ายทำละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์แนวโรแมนติกหลายเรื่อง บนม่อนแจ่มยังมีบริการที่พัก และอาหารไว้บริการอีกด้วย

 

Pairoj R / Shutterstock.com

 

      ม่อนล่อง ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหอยมีลักษณะเป็นผาหินสูงจากระดับน้ำทะเล 1,450 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเชียงใหม่ สามารถมองทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ บริเวณเส้นแม่ริม-สะเมิง

       ไร่สตรอว์เบอร์รีสะเมิง จากโครงการหลวงหนองหอย เดินทางสู่อำเภอสะเมิง เส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง แหล่งผลิตสตรอว์เบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะที่ตำบลบ่อแก้ว ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมไร่สตรอว์เบอร์รีในหุบเขา อำเภอสะเมิงยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ ถ้ำหลวงแม่สาบ น้ำตกห้วยตาด น้ำตกห้วยแม่นาเปอะ “ม่อนอังเกตุ” มีความสูง 1,840 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เป็นเมืองขุนเขาดินแดนที่น่าค้นหางานสตรอว์เบอร์รีสะเมิงจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

 

================

 

 

 

เส้นทางที่ 4

“ยลทะเลหมอกห้วยน้ำดัง ตระการตาผืนป่าสนวัดจันทร์ กัลยาณิวัฒนา”

 

       จากตัวเมืองเชียงใหม่ด้วยเส้นทางหลวง 107 ผ่านอำเภอแม่ริม-แม่แตง เลี้ยวซ้ายแยกแม่มาลัย เข้าสู่ทางหลวงสายแม่มาลัย-ปาย หมายเลข 1095 ไปประมาณ 35 กิโลเมตร ก็จะถึงห้วยน้ำดัง

 

       ห้วยน้ำดัง สถานที่ที่นิยมมาเที่ยวทะเลหมอกที่สวยที่สุดในประเทศ จุดชมวิวบริเวณ “ห้วยน้ำดัง” (ดอยกิ่วลม) นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิพระตำหนัก เอื้องเงิน น้ำตกแม่หาด น้ำตกแม่ลาด น้ำพุร้อนท่าปาย และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในอุทยานมีที่พัก ลานกางเต็นท์ และร้านค้าไว้บริการ

 

 

      ขุนแม่ยะ จากห้วยน้ำดังเดินทางไปยังขุนแม่ยะระยะทางไม่ไกลนัก เป็นแหล่งชมดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยที่งดงามอีกแห่งของจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้กับอำเภอปาย เส้นทางแยกจากถนนแม่มาลัย-ปาย เข้าสู่ขุนแม่ยะ ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นทางลูกรังขรุขระต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งบานจะมีรถรับจ้างบริการ บริเวณขุนแม่ยะ มีบ้านพัก และจุดกางเต็นท์บริการ ดอกพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงปลายเดือนธันวาคม-มกราคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย

 

 

       ป่าสนบ้านวัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา ผืนป่าสนที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวดินแดนกลางหุบเขาแห่งนี้ จะถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและอากาศที่หนาวเย็น ป่าสนวัดจันทร์ได้รับเลือกจาก ททท. ในปี 2556 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันที่ต้องไปเยือนครั้งหนึ่งในชีวิต (Dream Destination)

 

 

       นอกจากนี้ยังมี โครงการหลวงวัดจันทร์ ที่มีการปลูกพืชผักและผลไม้เมืองหนาวหลายชนิด ในหมู่บ้านวัดจันทร์ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมได้อย่างเหนียวแน่น ดังนั้นป่าสนวัดจันทร์และอำเภอกัลยาณิวัฒนาจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ความสงบ และศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

================

 

 

 

เส้นทางที่ 5

“สักการะพระมหาธาตุเจดีย์ ชมดอกไม้เมืองหนาวขุนวาง บนยอดดอยอินทนนท์”

 

      จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-หางดง-สันป่าตอง-จอมทอง ระหว่างทางไปดอยอินทนนท์ มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง

      บ้านถวาย เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวหัตถกรรม OTOP ต้นแบบของประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านงานศิลปหัตถกรรมไม้แกะสลัก และเป็นศูนย์รวมของสินค้าหัตถกรรมที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นงานที่ทำขึ้นด้วยมือ (Hand Made) ผสมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมและของตกแต่งบ้านทั้งรูปแบบพื้นบ้านและโมเดิร์นทันสมัยได้

 

     วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีชวด สิ่งสำคัญภายในวัดคือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทอง อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา ซึ่งมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นพระบรมธาตุที่มิได้ฝังใต้ดินแต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายใน

 

 

      โครงการหลวงขุนวาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตรที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและดอกไม้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ สามารถเที่ยวชมพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิดที่พร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งยามหน้าหนาว 

      เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางมีพันธุ์ไม้ พืชสมุนไพร นก น้ำตกเต๊ะเละโพ น้ำตกผาดำ และชมทุ่งกุหลาบพันปีสีแดงออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ที่บริเวณผาแง่ม ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีทิวทัศน์งดงามนอกจากนี้ บริเวณโครงการหลวงขุนวางยังมีดอกพญาเสือโคร่งสีชมพู จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมของทุกปี

 

 

       พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุเจดีย์คู่บนยอดดอยอินทนนท์ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล องค์สีน้ำตาล ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุดเคียงคู่กับพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ องค์สีม่วงอมชมพู ตั้งอยู่บนกิโลเมตรที่ 41.5 ทางด้านซ้ายมือ เป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย ณ ยอดดอยอินทนนท์อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยระดับ 2,565 เมตร ตกแต่งแวดล้อมไปด้วยไม้ประดับเมืองหนาว และชมทิวทัศน์ที่สูงสุดของประเทศไทย

 

 

       โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ชมพืชผัก ผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว รวมทั้งผักไฮโดรพอนิกส์ และงานวิจัยพืชเมืองหนาว สวนแปดสิบพรรษา ภายในสวนตกแต่งด้วยกุหลาบพันปี และไม้ดอกไม้ประดับตามฤดูกาล โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงเฟิร์น เป็นแหล่งเก็บรวบรวมพันธุ์เฟิร์นหายากและใกล้สูญพันธุ์ จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ และโรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงพืชกินสัตว์ สวนกุหลาบพันปี และกุหลาบพันปีชนิดต่างๆ หลายชนิด เป็นพืชการค้าในต่างประเทศและหลายชนิดได้ขยายพันธุ์มาจากต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติ

 

      พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ตั้งอยู่ที่ถนนเชียงใหม่-ฮอด กม.35 เป็นพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในได้จัดแสดงพระพิฆเนศ ที่เก็บรวบรวมมากมายหลายปางต่างๆ กว่า 1,000 ชิ้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ห้ามบันทึกภาพ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเปิดให้ชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-17.00 น.

 

       บ้านร้อยอันพันอย่าง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมงานแกะสลักไม้งานแต่ละชิ้นได้รับการแกะสลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง โดยสุดยอดช่างฝีมือล้านนา “อาจารย์ชรวย ณ สุนทร” ได้รวบรวมอนุรักษ์ไว้ นอกจากนี้ยังมีไม้แกะพญางิ้วดำ ซึ่งเป็นไม้หายาก เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.30-16.30 น.

================

 

 

 

เส้นทางที่ 6 

“เส้นทางดอกไม้งาม อร่ามบนดอยอ่างขาง”

 

       สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง กม.137 จะมีแยกซ้ายมือบ้านยางที่ตลาดแม่ข่า เดินทางต่อไปประมาณ 26 กิโลเมตร ถนนสูงคดเคี้ยว

 

 

       สัมผัสสายหมอก ดอกไม้สวยโรแมนติก เที่ยวชมพันธุ์ไม้ไว้เป็นกลุ่มตามฤดูกาล เช่น สวนกล้วยไม้ซิมบิเดียม กลุ่มกล้วยไม้รองเท้านารี กลุ่มดอกโคมญี่ปุ่น ไม้ดอกกระถางตามฤดูกาล ไม้ดอกตามฤดูกาลกลางแจ้ง และพืชกินแมลง สวนบอนไซ โรงชา สวน 80 ชมไม้ดอกเมืองหนาว ไม้ดอกฤดูร้อนและฝน สวนดอยคำ กุหลาบกว่า 258 ต้น สวนสมเด็จ โรงเรือนผักเมืองหนาว แปลงสาธิตไม้ดอก และโรงเรือน กุหลาบตัดดอก มีกุหลาบกว่า 10 สายพันธุ์ จะออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี

 

 

       นอกจากนี้บริเวณเส้นทางก่อนถึงดอยอ่างขาง และในบริเวณโครงการหลวง ยังมีต้นพญาเสือโคร่ง ที่จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมของทุกปี

================

 

 

 

เส้นทางที่ 7

“ดอกเสี้ยวบานที่เทพเสด็จ ดอกสะเก็ด และป่าเหมี้ยงแจ้ซ้อน”

 

        จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๑๘ เชียงใหม่ – เชียงราย ไปชมทุ่งดอกเสี้ยวในตำบลเทพเสด็จ และเดินทางต่อไปยังบ้านป่าเหมี้ยง อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง มีแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางที่น่าสนใจหลายแห่ง

 

 

        ชมสวนพฤกษศาสตร์ทวีชล พระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง เขื่อนแม่กวงอุดมธารา โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด ดอกเสี้ยว ที่ตำบลเทพเสด็จ และดอกเสี้ยวบ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่

 

 

ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่น่าสนใจอื่นๆ

ไหว้พระ เชียงใหม่ 9 วัดดัง ขอพรปังๆ รวยๆ

11 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ถ่ายรูปสวย
สุดม่วนใจ๋ ชวนเพื่อนไปอัพไอจี

 

 

 

อัพเดทที่พักสุดชิล ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่