ในบทความนี้เราจะพาทุกคนหลบหนีฝุ่น ควัน และโควิท 19 ไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่อุดมไปด้วยความน่ารัก หมู่บ้านที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและลำธาร แม้จะยากต่อการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง สัญญาณโทรศัพท์ ไฟฟ้า ก็ไม่ใช้ปัญหาสำหรับนักเดินทาง แต่ยังเป็นเสน่ห์ของเล็ก ๆ ของที่นี่ " บ้านแม่แมะ (ทรายคำ)" ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จุดหมายปลายทางของเรา คือ บ้านแม่แมะ แห่งนี้ตั้งอยู่ใน อ.เชียงดาว ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 90 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มายังอ.เชียงดาว สามารถหารถได้ที่ บ.ข.ส.ช้างเผือก จะมีรถประจำทางไปยังเชียงดาว ที่นี่จะมีทั้งรถบัส รถสองแถวส้ม รถตู้ วิ่งไปที่ตัวอำเภอเชียงดาว ให้ทุกคนได้เลือกกัน หรือจะยิงยาวจากกรุงเทพโดยนั่งรถทัวร์กรุงเทพ - ท่าตอนก็แล้วแต่ถนัด โดยจะต้องบอกคนขับว่า เราจะลงปากทางบ้านแม่แมะ จากนั้นจะให้รถของทางโฮมสเตย์ที่จองไว้มารับ โดยต้องบอกกับที่พักล่วงหน้า ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500 บาท เป็นราคาเหมาต่อเที่ยว ถ้าไปหลายคนจะคุ้มกว่าการมาคนเดียว หรือจะหาคนหารด้วยก็ตามแต่ (แอบถามบ้านแม่ครัวของที่พัก เฌอชีวา (ในบ้านแม่แมะเหมือนกัน) ป้าแม่ครัวที่เฌอชีวาบอกว่าลูกชายเขารับส่งเหมือนกันคิดแค่ 300 บาท ใครสนใจก็ลองโทรถามได้ ) จากปากทางเข้าก็ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรค่ะ โดยเราได้จองที่พักไว้ก็คือ บ้านต้นไม้แม่แมะ โฮมสเตย์ชื่อดังที่หลายคนคงเคยได้เห็นรีวิวจากเหล่านักท่องเที่ยวกันมาไม่มากก็น้อย ค่าที่พักคิดเป็นต่อคนต่อคืน โดยราคาอยู่ที่ คนละ 500 บาท มาคนเดียวก็นอนเป็นห้องเดี่ยว ซึ่งห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 4 ห้อง เป็นห้องรวม 1 ห้องและ ห้องเดี่ยวอีก 3 ห้อง ส่วนห้องน้ำจะใช้เป็นห้องน้ำรวม ขอบอกว่าห้องน้ำมีน้ำอุ่น แต่ไม่ค่อยไหล ผู้เขียนเคยไปแล้วระหว่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นก็ไม่ทำงาน หนาวกันเลยทีเดียว สำหรับในห้องนอนยังโชคดีที่มีปลั๊กไฟให้ได้ใช้กันค่ะ ราคานี้รวมอาหารเย็นและอาหารเช้าแล้วนะคะ โดยอาหารจะเป็นแบบบุฟเฟต์ ส่วนมากจะเป็นอาหารเหนือ โดยตอนเย็นจะมีเด็กๆในหมู่บ้าน มาฟ้อนให้ดูบริเวณลานเอนกประสงค์ น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ หรือใครชอบมื้อดึก ที่พักก็มีให้นะคะ เครื่องดื่มก็มีขายค่ะ มาถึงหมู่บ้านก็ต้องเดินสำรวจกันซักหน่อย โดยเดินลงไปทางลำธารก็จะมีโฮมสเตย์น่ารักๆมากมาย ทั้งบ้านไอยเรศชมจันทร์ บ้านเฌอชีวา บ้านระเบียงน้ำ ซึ่งวิวแต่ละบ้านพักก็จะแตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่มากับกลุ่มเพื่อนก็สามารถมาเล่นน้ำที่ลำธารได้ ไม่ว่าเราจะพักบ้านพักไหน เราก็สามารถเข้าไปชมวิวที่บ้านพักอื่น ๆ ได้ ขอบอกว่าผู้คนในหมู่บ้านนี้เป็นมิตรมาก สำหรับคอกาแฟ ที่นี่ก็มีร้านกาแฟ พร้อมวิวดี ๆ ให้บริการค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดในเรื่องอาหารเหนือ ก็สามารถมาทานอาหารตามสั่งที่ บ้านพักเฌอชีวา ได้ค่ะ ขอบอกว่า เมนู ข้าวผัดกะเพรา ของแม่ครัวที่นี่ขึ้นชื่อมาก ต่อมาก็ได้เดินชมมาถึงบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากจะตัดขาดจากโลกภายนอก เก็บตัว เก็บใจ เป็นบ้านพักที่อยู่ในเครือเดียวกับบ้านพักเฌอชีวา โดยเป็นบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่ใกล้ป้ายหมู่บ้านห่างจากบ้านต้นไม้แม่แมะประมาณ 300 เมตร ตั้งอยู่ริมลำธาร ภายในบ้านมีแค่มุ้ง ไม่มีไฟฟ้า สามารถนอนรวมได้ถึง 5คน โดยจะมีคุณลุง สามีของป้าแม่ครัวที่บ้านเฌอชีวาเป็นคนคอยดูแล บ้านพักนี้ปลูกต้นไม้เยอะมาก ทั้งลิ้นจี่ ส้มโอ เงาะ พริก ดอกดาวเรือง ดอกยิปโซ ชา ต้นไผ่ และหลาย ๆ อย่างไว้ทานกินเอง ข้างบ้านพักเป็นนั้นจะบ้านให้คุณลุงไว้นอนเฝ้าแขกที่มาเข้าพัก สำหรับใครที่อยากเดินขึ้นเขา อย่างดอยหลวงเชียงดาว ก็สามารถติดต่อ คุณลุงได้ โดยจะเริ่มเดินขึ้นเขาเวลา 7 โมงเช้า ตอนแรกก็คิดว่าจะเดินชมไปเรื่อย แต่คุณ ลุงใจดีมาก ทั้งต้มชา ปลอกส้มโอ หาเหล้าให้ผู้เขียนและผู้เข้าพักบ้านหลังนั้นกินกันฟรี ๆ ระหว่างที่กิน ก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันพอสมควร กลายเป็นมิตรภาพขนาดเล็กระหว่างการเดินทาง ที่อยู่ท่ามกลางความเรียบง่ายของธรรมชาติ มีเสียงน้ำในลำธารไหลตลอดเวลา กับความงดงามที่ได้เจอนี้ คำบรรยายไหน ๆ ก็อาจจะบรรยายได้ไม่หมดกับสิ่งที่ได้เจอ เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน