จุดเริ่มต้น เนื่องด้วยทางบ้านเตยประกอบอาชีพค้าขาย ตั้งแต่เด็กจนโตเตยเลยไม่ค่อยได้เที่ยวอย่างเพื่อนๆ เท่าไหร่นัก เพราะถ้าต้องปิดร้านเพื่อไปเที่ยวก็เสียดายรายได้ของทางบ้านที่หายไป ทำให้ในวัยเรียนเตยไปเที่ยวแทบจะนับครั้งได้ พอเรียนจบ มีงานทำ ก็ได้เวลาออกเดินทางแบบจริงๆจังๆ สักที เรียกว่าออกเดินทางแทบทุกเดือน วางแผนเที่ยวล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เลยค่ะ แต่ต่อให้วางแผนเที่ยวล่วงหน้านานแค่ไหน ในทุกๆ ทริปก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ผิดแผนอยู่เสมอ เช่นทริปลพบุรีทริปนี้ ที่ผิดแผนตั้งแต่ต้นทริป จนถึงขากลับ จะเป็นทริปที่สนุก วุ่นวาย และเมื่อยร่างขนาดไหน เตยจะพาทุกคนย้อนกลับไปเที่ยวทริปลพบุรีด้วยกันนะคะ ก่อนทริปลพบุรีประมาณ 1 เดือน พี่มาร์ค : แกวางแผนเที่ยวเลยนะ อยากเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามใจแกเลย เตย : ได้เลยสบายมากกกกก 😊 แผนเที่ยวทริปลพบุรี Day 1 : เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุ่งทานตะวัน Day 2 : น้ำตกวังก้านเหลือง ทุ่งดาวกระจาย เราวางแผนไว้หลวมๆ ไม่อยากอัดที่เที่ยวในแต่ละวันเยอะมาก เพราะเราเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซต์ อยากเที่ยวแบบชิวๆ สบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยกันมาก 2019/02/08 เริ่มทริปลพบุรี @ลพบุรี 08.20 น. "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" เรามาถึงเขื่อนช่วงเช้า อากาศกำลังดีไม่ร้อนจนเกินไป จอดรถ ถอดเสื้อการ์ด ยืดเส้นยืดสายก่อนเดินมานั่งพักตรงริมเขื่อน บรรยากาศรอบๆ เขื่อนเงียบสงบ แม้บริเวณนั้นจะมีคนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะก็ตาม ที่เขื่อนสามารถให้อาหารปลาได้นะคะ ปลาที่เขื่อนตัวใหญ่ แถมขี้อายด้วยนะ ไม่ค่อยกล้ามากินอาหารเท่าไหร่นัก ต่างจากปลาที่วัดลิบลับเลยค่ะ กระโจนที่น้ำสาดคนให้อาหารเปียกหมด 555 "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" เราสองคนนั่งรับลมกันพักใหญ่ๆ ก็ชวนกันออกไปหาร้านอาหารแถวนั้นเพื่อกินข้าวเช้า + ข้าวเที่ยง เสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปที่พักที่จองไว้ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย2 โมงนิดๆ กว่าจะไปถึงที่พักก็กินเวลาไปเกือบบ่าย 3 แล้ว กว่าจะอาบน้ำอาบท่า ก็คงไปทุ่งทานตะวันกันไม่ทัน ( ผิดแผนเรื่องที่1 ) เลยตัดสินใจทบทุ่งทานตะวันไว้เที่ยววันพรุ่งนี้แล้วกัน วันนี้แยกย้ายพักผ่อน แล้วค่อยเริ่มเที่ยวกันใหม่พรุ่งนี้แต่เช้า พี่มาร์ค : พรุ่งนี้ออกกี่โมงดี เตย : ก่อน 8 โมงแล้วกัน จะได้ไม่ค่อยร้อน พี่มาร์ค : โอเค เจอกันนะ 2019/02/09 @ ที่พัก 7.40 น. เวลานี้เราควรจะหยิบหมวกกันน็อคมาใส่หรือไม่ก็ยืนรอพี่มาร์คสตาร์ทรถ แต่ความเป็นจริงคือ ... เพิ่งตื่น !!!!!!!!! ( ผิดแผนเรื่องที่2 ) โอเคไหนๆ ก็สายแล้ว ไม่เป็นไรหรอกเรามาพักผ่อน เอาที่เราสบายๆ แล้วกันไม่ต้องเป๊ะตามแผนก็ได้ เราคิดในใจ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย ก็ออกมาเช็คเอ้าท์ และนัดแนะแผนการเที่ยวกับพี่มาร์คก่อนออกเดินทาง พี่มาร์ค : เมื่อคืนลองดูแล้วเหมือนทุ่งทานตะวันกับทุ่งดาวกระจายตอนนี้ไม่มีไรนะ จะไปหรอ เตย : อ่าวหรอ งั้นไปน้ำตกวังก้านเหลืองเลยแล้วกัน ( ผิดแผนเรื่องที่3+เรื่องที่4 ) @น้ำตกวังก้านเหลือง 09.47 น. .... เตย : แก ฉันว่ามันต่างจากที่ฉันดูมานะ พี่มาร์ค : ต่างยังไงอ่ะ เตย : ไม่รู้อ่ะ แต่เราคงหามุมถ่ายแบบไม่ติดคนไม่ได้หรอก คนโครตเยอะเลย พี่มาร์ค : งั้นก็เดินเล่น ตามทางน้ำไปแล้วกัน ไหนๆก็มาแล้ว เตย : เอางั้นก็ได้ 😊 @น้ำตกวังก้านเหลือง 10.30 น. เตย : แกไปเที่ยวไหนต่อดีอ่ะ พี่มาร์ค : ไปเขาวงพระจันทร์ไหมละ เขาจัดงานพอดี เปิดให้เดินขึ้นไปด้วยนะ 3000 กว่าขั้นมั้งถ้าจำไม่ผิด เตย : ไปๆ ไปดิ @เขาวงพระจันทร์ 11.36 น. อากาศที่เขาวงพระจันทร์ร้อนมากกก แดดแรงแถมลมไม่พัดเลย แต่เตยกับพี่มาร์คก็อยากเดินขึ้นไปบนเขานะคะ ไหนๆก็มาแล้ว ปีนึงเปิดให้เดินขึ้นไปแค่ครั้งเดียวเอง เอาว่ะ! แค่3,790 ขั้นเอง เราก็แค่ยี่สิบนิดๆ จะกลัวอะไร ระหว่างทางเดินพิชิตเขาวงพระจันทร์ จะมีร้านค้าตามจุดพักต่างๆ ตลอดทาง แต่ราคาของก็สูงขึ้นตามจำนวนขั้นบันได แต่ไม่ได้แพงจนเกินเหตุนะคะ ต่างกัน 5 บาท 10 บาท ถือเป็นค่าขนของขึ้นมาลำบากแล้วกันเนาะ เตยกับพี่มาร์คค่อยๆ เดินกันมาเรื่อยๆ เดินช้าบ้างเร็วบ้าง เหนื่อยก็แวะพักตามร้านค้าต่างๆ ผ่าน 500ขั้น 1,000ขั้น 1,500ขั้น ขยับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ความเหนื่อยก็เริ่มเพิ่มขึ้นที่ละนิด แต่วิวรอบๆ ก็ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" อีกสิ่งที่น่าประทับใจของการเดินพิชิตเขาวงพระจันทร์ของเตยรอบนี้คือ เตยเจอคุณลุงคนนึงค่ะ แกเดินขึ้นเขาพร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่1ใบ และคอยเก็บเศษขยะที่พบระหว่างทางใส่ถุงค่ะ เตยเห็นแล้วอดชื่มชมคุณลุงไม่ได้ เลยเดินช่วยแกเก็บเท่าที่จะพอช่วยได้ อย่างน้อยเราช่วยลดขยะบริเวณนั้นไปได้ไม่มากก็น้อย ในมี่สุดเราก็ทำสำเร็จ เราสองคนสามารถพิชิตเขาวงพระจันทร์ 3,790 ขั้นได้สำเร็จ ความรู้สึกตอนนั้นเรียกว่าเหนื่อยนิดหน่อย ไม่เมื่อยขาอย่างที่คิดไว้เท่าไหร่นัก "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" "ภาพถ่ายโดยผู้เขียน" เดินชมวิวไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็เดินลงกันดีกว่า เพราะเริ่มจะเย็นแล้วกว่าจะลงไปถึงข้างล่างเดียวจะมืดเสียก่อน จากที่บอกว่าไม่ปวดขาไม่เมื่อยเท่าไหร่ ตอนเดินลงบอกเลยนะคะว่าขาสั่นพับๆ ตึงทั้งขาทั้งตัว ก้าวขาแทบไม่ไหว ทรมานกว่าตอนขึ้นหลายเท่าตัวเลยค่ะ กว่าจะพาตัวเองลงมาถึงด้านล่างได้แทบจะคลานลงมาเลยทีเดียว เดินมาถึงข้างล่างตอนประมาณ 6โมงเศษๆ พร้อมร่างกายที่ปวดระบมทั้งตัว น้ำตาแทบไหล ไม่เคยปวดขนาดนี้มาก่อน อาจเพราะเราไม่ได้เตรียมร่างกายมาเดินตั้งแต่แรก ตอนเดินขึ้นก็ไม่ได้วอร์มร่างกายก่อน ไหนละทริปสบายๆ สายชิวของฉัน กลายเป็นทริปสายลุยไปแล้ว ร้าวทั้งร่าง 555 แต่มันยังไม่จบแค่นั้นเพราะเราต้องเดินทางกลับกรุงเทพกันต่อ เตยกับพี่มาร์คได้แต่มองหน้ากัน แล้วให้กำลังใจกันว่าสู้ๆ กว่าจะพากันมาถึงกรุงเทพได้เรียกว่าสายตัวแทบขาดจริงๆ ค่ะ เตยนี่น้ำตาซึมเลยทีเดียว มันปวดตัวมากกกกกกกก ทางก็ขรุขระ รถตกหลุมที น้ำตาซึมที ภาวนาในใจอยากวาร์ปให้ถึงหอไวๆ ปวดตัวไปหมด จะไม่ไหวแล้ว จากวันนั้นจนวันนี้ผ่านมาจนเกือบปีแล้ว แต่พอพูดถึงทริปลพบุรีทีไร เตยกับพี่มาร์คก็อดพูดถึงความทรมานของขากลับไม่ได้จริงๆ แล้วก็อดขำความรั้นเล็กๆ ของเรา2คน ที่พยายามเดินจนพิชิตเขาวงพระจันทร์จนได้ แถมได้ความปวดตัว ปวดขา ไปอีกเกือบ2อาทิตย์กว่าจะหายเป็นปกติ จนถึงตอนนี้เตยกับพี่มาร์คออกทริปด้วยกันเรื่อยๆ ไม่รู้กี่ทริปต่อกี่ทริป แต่ก็ยังไม่มีทริปไหนที่ล้มความสนุกปนความทรมานขั้นสุดของทริปลพบุรีได้เลย 55555 ❤️❤️❤️