เที่ยวแบบขาลาก เที่ยวคือเที่ยวจริงจัง เดินเที่ยวสองเมืองสุดคุ้ม เที่ยวที่ไม่ต้องนอนเพราะตอนกลางวันเที่ยวกับทัวร์ ส่วนในตอนกลางคืนคณะเราก็จะออกท่องราตรี ท่องราตรีในที่นี้ ไม่ได้เที่ยวสถานบันเทิง แต่เราเที่ยวแบบเดินรอบเมือง เดินไปเรื่อยๆ หิวก็หยุดกินอิ่มก็เดินต่อ มาเก๊าจู่ไห่ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนมากเดินทางไป การเตรียมเอกสารง่ายฟรีวีซ่า และเดินทางเข้าง่าย ไปครั้งนี้ก็เช่นกัน ใช้เพียงพาสปอตเล่มเดียวส่งให้เจ้าของทัวร์ เตรียมเดินทางได้เลย ตอนแรกเกือบจะไม่ได้ไปเพราะติดในเรื่องของเวลา แต่พอมานับตารางกลับมีเวลาว่างพอดี เป็นการเที่ยวที่ใช้เวลาจัดกระเป๋าห้านาที เพราะเป็นคนที่เดินทางบ่อย ไม่ว่าจะไปไหนจะหยิบกระเป๋าไปได้เลย ได้หมดเพราะคือกระเป๋าสำหรับไปเที่ยวที่มีของใช้ครบทั้งหมด เที่ยวสามเมือง เพราะเราขึ้นเครื่องไปลงที่ฮ่องกง แล้วนั่งรถมาเที่ยวมาเก๊า จูไห่และวันสุดท้าย ก็กลับไปขึ้นเครื่องกลับที่ฮ่องกง เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเอากระเป๋าใบใหญ่ การท่องเที่ยวครั้งนี้ พวกเราไปกับทัวร์ซึ่งเป็นทัวร์ที่รัฐบาลจีนสนับสนุน นั่งรถข้ามสองเมือง กลับไปกลับมาซึ่งในการเปลี่ยนเมือง ไกด์ก็จะต้องเปลี่ยนตามไปด้วย จึงทำให้เป็นการเที่ยวที่ใช้ไกด์เปลืองที่สุดเท่าที่เคยเที่ยวมา กลุ่มของไกด์แต่ละกลุ่มน่ารักและเป็นกันเอง (ไกด์คนไทย) ทำงานที่ต่างประเทศ เป็นการเที่ยวที่เราจะต้องไปในสถานที่ที่เขาแนะนำ อาจจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าก็ได้ เท่าที่จำได้ก็จะมี ร้านผ้าไหม ร้านของบัวหิมะ ร้านไข่มุกอัญมณี และอีกหลายที่ ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของที่นั่น เมื่อเราไปถึงก็จะมีวิทยากรแนะนำกล่าวต้อนรับ พูดถึงความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ และพาเดินชมสินค้า จากนั้นก็จะเป็นช่วงของการช็อปปิ้ง เดินทางโดยเครื่องของการบินไทย อาหารอร่อยบริการดี ก่อนเดินทางพวกเรานัดรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาจากหลายครอบครัว และในกลุ่มนั้นมาจากต่างที่แบบไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรียกได้ว่าเจอกันทางขึ้นเครื่องกันเลย ในการเที่ยวครั้งนี้ในกลุ่มมีทุกกลุ่มอายุ เยอะหน่อยก็จะเป็นอาจารย์วัยกลางคนขึ้นไป กลุ่มวัยรุ่นของเรา และยังมีคู่รักไปด้วย เรียกได้ว่าทัวร์สีสัน เพียงขึ้นรถคันเดียวกัน ก็สนิทกันในเวลาไม่นาน พวกเรานอนรอไม่นาน เครื่องก็บินออกจากสุวรรณภูมิสู่ฮ่องกง ที่การบริการดีจนถึงที่หมาย เดินทางถึงเสียที ตอนนี้เหยียบแผ่นดินฮ่องกงเรียบร้อย การเที่ยวครั้งนี้ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหลายรอบมาก เดินลากกระเป๋าไปเลยจ้า จำไว้เลยเวลาเราเข้าแถวที่นี้ อย่าเว้นระยะห่าง ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนแซงคิวเป็นได้ สนุกมากในการเข้าแถวและตื่นเต้นกับการมองรอบด้านกลัวโดนแซง บอกลาอาหารกล่องบนเครื่องได้ ตอนแรกคิดว่าอาหารมื้อแรกอาจจะทานยาก เลยห่อบนเครื่องมา 😅 แต่พอมาเจออาหารมื้อแรกพอใจมากอร่อยใช้ได้ ร้านอาหารที่ทัวร์พาไปร้านแรกจัดเต็มมากในเรื่องของอาหาร ถ้าใครไม่ค่อยชอบอาหารมันก็ยากหน่อย แต่สำหรับเราอร่อยทั้งหมด ต้มผัดแกงทอดของหวาน อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ตักเอง หมูสามชั้นทุกจานตุ๋นได้นุ่มลิ้นมาก แต่ที่สะดุดตาคือเครื่องดืมที่นี่ จะมีโซจู เยอะกว่าน้ำเปล่า มาทั้งทีเราก็ชิมเสียหน่อย รสชาติไม่ได้ต่างจากน้ำเปล่าเท่าไหร่ เหมือนน้ำผลไม้เบาๆ แต่สิ่งที่ต้องการมากคือต้องการน้ำแข็ง หายากมาก พวกเราพักกันที่นี่ตลอดการเที่ยว เช้าออกเดินทางเย็นกลับเข้านอน การเที่ยวถ้าหากมีการเปลี่ยนที่พักบ่อยนั้นจะทำให้ผู้เที่ยวเหนื่อยเรื่องแรกคือเรื่องของการเก็บของ ที่สองอาจจะมีเรื่องของการลืมของ ประทับใจที่พักที่นี่มาก อาหารเช้าอร่อย ที่พักสะอาดและอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินไปเที่ยวห้าง ร้านค้า ตลาดได้ทั้งหมด ผู้หญิงชูไห ผู้เขียนชอบตำนานนี้มาก ที่ว่าหญิงสาวยืนรอชายหนุ่มที่ถนนแห่งความรัก พอไปเที่ยวสถานที่นี้ เป็นต้องทำท่าสุดฮิต เขาบอกว่าถ้าลูบตรงหูของกระทะใบนี้แล้วมีเสียงดัง วึงงงงง ยิ่งดังจะยิ่งมีโชค ผู้เขียนเองก็ลูบแต่ไยไม่ดังเท่าชายหนุ่มรูปหล่อที่ลูบก่อน ความเชื่อเรื่องของโชคลาภจะอยู่ทุกที่ ยิ่งไปกว่านั้นสองข้างทางที่ถนนวิ่งไป ตึกที่ตั้งตระหง่านอยู่ทุกตึก ถูกสร้างและคำนวนในเรื่องของฮวงซุ้ยอย่างดี การทำธุรกิจแม้แต่อาคารก็ต่อสู่กัน ตึกสวยรอบถนนที่มองแล้วให้พลัง ลักษณะดีศิลปะในการสร้างสวยแม้ว่ามองจากหน้าต่างของรถ ในอีกสิบนาทีข้างหน้า เราจะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศด้านใน ท้องฟ้าจำลอง สวยเหมือนเราเดินอยู่กลางแจ้ง ด้านในนั้นมีทุกอย่างครบไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สวนสนุก สวนอาหาร ร้านกาแฟทุกญี่ห้อ ธนาคารกดเงิน แลกเงินทุกแบบ ส่วนตรงนี้เป็นจุดนัดพบกัน เพราะเราจะเที่ยวสองชั่วโมงที่นี่ ทานอาหารที่นี่ เที่ยวช็อปปิ้งพักผ่อน ก่อนเดินทางไปสนามบิน ขอบอกว่าด้านในสวย มองไปทางไหนก็งดงามจนไม่อาจละสายตา เดินหนึ่งวันไม่รู้จะทั่วรึบเปล่า มีแผนที่แต่อาจจะสลับซับซ้อนเดินเองน่าจะดีกว่า ด้านในถูกจัดวางตามหลักของฮวงจุ้ยที่ถูกต้องและลงตัว เหมือนดินอยู่ในแดนสวรรค์ที่เข้าไปแล้วอากาศเหมือนอยู่ยุโรป ผู้คนมาเยอะเหมือนเราเข้าเที่ยวอีกเมืองหนึ่งอย่างนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นศิลปะแบบปารีสฝรั่งเศส ผู้คนแต่งตัวเหมือนดาราในหนังฮอลลีวูด อาคารที่สร้างออกแบบในหลักฮวงจุ้ยที่สวยงามในเมือง ประทับใจสองข้างทางที่รถมาวิ่งรอบเมืองเพื่อดูอาคาร การเที่ยวต่างประเทศที่ชอบอย่างแรกคือความเป็นระเบียบของการจราจร มีการจัดระเบียบ ที่นี่รถไม่ค่อยเยอะ เพราะในเมืองจะเน้นในเรื่องของการเดินเท้าและใช้รถโดยสารประจำทางในการเดินทาง การขับรถในเมืองค่อนข้างจะช้า จึงทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุให้เห็นนัก การเที่ยวในครั้งนี้ เป็นการเที่ยวที่นึกถึงเมื่อไหร่ก็ชื่นใจทุกครั้ง เพราะมีความสุขและได้พักผ่อนเต็มที่ การที่เราไปเที่ยวเหมือนการไปเรียนรู้พักผ่อนจริงเราจะมีความสุขมาก เคยมีคนบอกว่าทำงานเก็บเงินแก่ค่อยไปเที่ยว อยากบอกว่าไปเที่ยวตั้งแต่ที่เรายังมีแรง ดีกว่าไปเที่ยวตอนที่เราอายุเยอะแล้ว เพราะว่าถึงตอนนั้นเราจะไม่ค่อยมีแรงที่จะเดินทางไกลวิ่งขึ้นเขา หรือกระโดดโลดเต้น และยังเป็นการเปิดโลกกว้างให้กับสมองและสายตา ประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่ไปชมการแสดงละคร ดนตรีของต่างประเทศ เอาจริงเหมือนเราไปดูหมอลำ ที่ก่อนแรกเริ่มก็จะเป็นการเต้นโชว์ ต่อจากเต้นโชว์ก็การแสดงละคร การแสดงตลก สนุกมากอลังการและยิ่งใหญ่ สมจริงเพราะการแสดงดูเป็นมืออาชีพ อาจจะมีการใช้เคลื่อนไหวของแสง การเที่ยวครั้งนี้ทำให้กลุ่มของพวกเราได้เจอเพื่อนร่วมทางใหม่ กลายมาเป็นเพื่อนสนิท หรือเราอาจจะได้แนวคิดใหม่ในการเที่ยวแต่ละครั้ง ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !