ดาวดึงส์...สวรรค์ชั้นที่ 2 จากสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น สวรรค์บนดินที่ใครก็ไปได้ ตามหลักของศาสนาพุทธแล้วเชื่อว่า สวรรค์เป็นสถานที่ที่คนประพฤติดี ประพฤติชอบจะได้ไปอยู่ โดยจะแบ่งเป็น 6 ชั้นไล่จากชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 6 คือ จาตุมหาราชิกา, ดาวดึงส์, ยามา, ดุสิต, นิมมานรดี และ ปรนิมมิตวสวัตดี ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินรุ่นพ่อรุ่นแม่หรือปู่ย่าตายายเคยพูดให้ฟังว่า ถ้าทำดีจะได้ขึ้นสวรรค์และทำไม่ดีจะได้ลงนรกกันมาบ้างแล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำสอนที่ผู้หลักผู้ใหญ่พร่ำบอกให้เราทำแต่ความดี และในวันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับสวรรค์มาให้ทุกคนนะครับ หากใครเดินทางผ่านไปผ่านมายังจังหวัดนครสวรรค์ (เมืองแห่งสรวงสวรรค์) ที่นี่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเลยครับไม่ว่าจะเป็น เขาหน่อ-เขาแก้ว, พาสาน และที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย ในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปยังสวรรค์ชั้นที่ 2 หรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั่นเองครับ สวรรค์บนดินที่ใคร ๆ ก็เดินทางมาได้ หนึ่งในสถานที่สุด Unseen ของจังหวัดนครสวรรค์ ที่นี่คือ "วัดคีรีวงศ์" วัดที่ตั้งอยู่บนเขาดาวดึงส์ วิมานสีทองของจังหวัดนครสวรรค์ ถ้าอยากรู้ว่าที่นี่มีความพิเศษอย่างไร ตามผมมากันได้เลยครับ วัดคีรีวงศ์ ภาพจากบนยอดเขา ความเป็นมา วัดคีรีวงศ์ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ (ชื่อสวรรค์ชั้นที่ 2 ) ถนนมาตุลี ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่ทั้งบนยอดเขาและชายเขา บนเนื้อที่ประมาณ 280 ไร่ ตามประวัติได้กล่าวไว้ว่า วัดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยสุโขทัยและถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่นั้น ต่อมาในช่วงประมาณปี 2504 ได้มีพระธุดงค์ขึ้นมาปักกลดบนยอดเขาแห่งนี้ ท่านได้สังเกตเห็นฐานพระอุโบสถเก่า จึงเชื่อว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดมาก่อน หลังจากนั้นจึงชักชวนชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาและติดต่อไปยังกรมศาสนาให้บูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นวัดแห่งนี้ก็ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่จนเป็นวัดคีรีวงศ์มาถึงทุกวันนี้ ด้วยลักษณะพื้นที่ของวัดที่ตั้งอยู่ทั้งบนยอดเขาและชายเขา บริเวณด้านล่างจะเป็นที่พักอาศัยของพระสงฆ์และสถานที่ปฏิบัติธรรม ส่วนบนยอดเขาจะเป็นที่ประดิษฐานของพระจุฬามณีเจดีย์ เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์สีทองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญของประเทศไทย และมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากอยู่ด้านใน ผมจะพาทุกคนขึ้นไปด้านบนกันเลยนะครับ วัดคีรีวงศ์ วิหารสีทองกลางยอดเขา ภายในวัด การเดินทางมายังวัดแห่งนี้ สามารถตั้งพิกัดมาที่วัดได้เลยนะครับ เมื่อขับรถเข้ามาภายในวัดจะมีป้ายบอกทางขึ้นไปบนยอดเขา ระหว่างทางควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดชัน จากนั้นก็ขับไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงจุดจอดรถบนยอดเขาแล้วครับ เมื่อทุกคนมาถึงยอดเขาแล้ว จะได้พบกับภาพทิวทัศน์ ของเมืองนครสวรรค์แบบ 360 องศา บริเวณที่จอดรถจะมีร้านค้าของชาวบ้านตั้งอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขายเครื่องดื่มไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวในราคาไม่สูงมากอีกด้วยนะครับ เมื่อเดินเข้ามาด้านใน ทุกคนจะได้พบกับความสวยงามของจุฬามณีเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ครับ เริ่มจากลักษณะภายนอก ของเจดีย์จะมีลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สีทองตั้งอยู่บนฐานเจดีย์สีทอง บริเวณทิศตะวันตกของฐานเจดีย์จะมีบันไดเดินขึ้นไปบนเจดีย์ได้ บริเวณบันไดทุกคนสามารถถ่ายรูปได้นะครับ ถ้ามีกล้องที่มีเลนส์มุมกว้างจะได้ภาพที่สวยมาก ๆ เลยครับ หลังจากนั้นถ้าหากใครจะเดินขึ้นมาบริเวณรอบ ๆ เจดีย์ด้านนอก ทุกคนจะพบกับภาพวิวแบบพาโนรามาอีกด้วย จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นตัวเมืองนครสวรรค์ได้เกือบทั้งเมือง, อุทยานนครสวรรค์, แม่น้ำเจ้าพระยาและบึงบอระเพ็ดอีกด้วยครับ จิตรกรรมฝาผนังภายใน พระบรมสารีริกธาตุบนยอดวิหาร เมื่อเดินเข้ามาภายในเจดีย์นี้ จะสามารถเดินชมได้ทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน ในแต่ละชั้นประกอบด้วย ชั้นที่ 1 เป็นจุดสำหรับกราบไหว้บูชา สามารถจุดธูป เทียน ดอกไม้เพื่อบูชาพระพุทธรูปได้ที่นี่ ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานของรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในประเทศไทย เช่น หลวงปู่ทวด, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), หลวงพ่อสดและยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีตู้สำหรับจัดแสดงวัตถุมงคลต่าง ๆ และเปิดให้เช่าวัตถุมงคลกลับบ้านได้อีกด้วย ชั้นที่ 3 ชั้นนี้จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญของประเทศไทยมากมาย เช่น พระพุทธชินราช หลวงพ่อโสธร พระแก้วมรกต เป็นต้น ชั้นที่ 4 ชั้นนี้จะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ตั้งอยู่ในเจดีย์จำลองขนาดเล็ก ใจกลางโดมจะมีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามไว้ด้านบน ซึ่งจิตรกรรมนี้จะแสดงให้เห็นถึงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าโดยย่อ เช่น ประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน โดยแต่ละภาพวาดมีความวิจิตรงดงามเป็นอย่างมากเลยครับ บัตรเครดิตกับระฆังน้อย ดูสวยงามแปลกตาดีครับ หลังจากที่พวกเราได้ชมความสวยงามด้านในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางออกมายังด้านนอกของเจดีย์ บริเวณด้านนอกไม่ว่าจะยืนอยู่จุดใดก็ตาม จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์ได้อย่างชัดเจนเลยครับ และที่สำคัญที่วัดแห่งนี้จะมีลมพัดตลอดทั้งวัน นี่จึงทำให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดวันหายไปพร้อมกับสายลมอีกด้วยครับ ในระหว่างที่เดินรับลมและชมนครสวรรค์ในมุมมองต่าง ๆ ผมก็สังเกตเห็นระฆังเล็กอันหนึ่งดูแปลกตากว่าอันอื่นมาก ๆ เพราะว่าบริเวณสายจับของระฆังอันนี้จะมีบัตรเครดิตที่ใช้งานไม่ได้แล้วผูกติดไว้อยู่ด้วย ผมและภรรยาเลยแซวกันว่า "หรือว่านี่จะเป็นเพราะมีคนมาบนให้ปลดหนี้บัตรเครดิตได้ แล้วมาแก้บนด้วยการแขวนบัตรเครดิตไว้ก็ได้นะ" นี่ก็เป็นแค่มุมมองขำ ๆ ของพวกเราสองคนนะครับ แท้จริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้ เป็นอย่างไรบ้างครับกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่ผมนำมาแนะนำให้กับทุกคนในวันนี้ แม้ตอนนี้สภาพอากาศจะมีฝุ่น PM 2.5 อยู่พอสมควร รวมไปถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเข้ามาด้วยแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดหมดสิ้นไปจากเมืองไทย ผมขอแนะนำให้ทุกคนลองเดินทางมาที่นี่กันดูสักครั้งนะครับ ผมรับรองได้เลยว่าทุกคนจะต้องชอบอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะได้วิถีชีวิตของชาวเห็นเมืองนครสวรรค์ในภาพมุมสูงแล้ว ยังได้กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอื่นต่อไปอีกด้วยครับ แม้ทริปนี้สำหรับผมจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่นครสวรรค์ยังมีเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายรออยู่นะครับ ทริปต่อไปผมจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรมาแนะนำอีก อย่าลืมติดตามกันได้นะครับ ที่ทรูไอดี ที่นี่ที่เดียวครับ ☼ ที่ตั้ง : 18 ถนนมาตุลี ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 60000 ☼ พิกัด : >>> Click <<< ☼ เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 19.00 น. ☼ เพจทางการ : >>> Click <<< ☼ โทรศัพท์ : 056-222009 ภาพประกอบบทความโดย Tom Percy on TrueID In-Trend ครับ