ภาพปกจากpixabay.com “บ้านห้วยปูแกง” หมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาร์ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของพี่น้องชาวกะเหรี่ยงคอยาว(กะยัน) กะเหรี่ยงหูยาว(กะยอ) กะเหรี่ยงแดง โดยการเดินทางไปท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตทางชาติพันธ์ของพี่น้องชาวกะเหรี่ยงบ้านห้วยปูแกงครั้งนี้ ผู้เขียนได้เช่ารถจักรยานยนต์ ขับตรงจากในตัวเมืองมายังหมู่บ้านห้วยปูแกงระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมื่อมาถึงทางเข้าหมู่บ้านซึ่งอยู่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำปายนั้นจะต้องนั่งเรือข้ามฟากไป ค่าใช้จ่ายไปกลับคนละ 20 บาท แม่น้ำปายไหลเชี่ยวทว่าสีใส มองเห็นกรวดทรายในน้ำจนผู้เขียนเองอยากจะอาสาว่ายข้ามฟากไปเอง ยิ่งประกอบกับทัศนียภาพภูเขาสีเขียวขจีสลับซับซ้อนชวนให้คนมองอดยิ้มชื่นชม และอดที่จะดื่มดำกับบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมื่อก้าวขึ้นเรือพร้อมสรรพ ฝีพายก็กระตือรือร้นมาให้บริการด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพาลูกเรือทั้ง 4 ชีวิตข้ามฟากไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยภายในเวลาไม่ถึงนาที ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ชาวกะเหรี่ยงนั้นเป็นชาติพันธุ์ที่รักและผูกพันกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก นอกจากต้นไม้ที่ทอดร่มเงาตลอดหมู่บ้านแล้ว ภายในบริเวณหมู่บ้านยังปราศจากเศษขยะ นับว่าสะอาดสะอ้านทุกอณู ทุกบ้านจะมีผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมเรียงรายไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและเลือกซื้อเพื่อเป็นของที่ระลึก อาทิ ผ้าทอกะเหรี่ยง เสื้อกะเหรี่ยงทอมือ ตุ๊กตาไม้แกะสลัก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน หญิงสาวจะนั่งทอผ้าอยู่หน้าบ้าน ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและมักจะส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้แก่ผู้มาเยือนทุกคน บ้านแต่ละหลังนั้นทำขึ้นแบบเรียบง่าย หลังไม่ใหญ่แต่ดูอบอุ่น บางบ้านจะมีห่วงทองเหลืองให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองแต่งกายเป็นหนุ่มสาวกะยันถ่ายภาพลงสื่อออนไลน์ต่าง ๆ กันอย่างสนุกสนาน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประหลาดใจที่สุดคือ ชาวกะเหรี่ยงคอยาวสามารถพูดได้มากกว่า 3 ภาษา แถมคล่องแคล่วสำเนียงดีจนต้องยกนิ้วให้ ภาพจากpixabay.com ผู้เขียนลืมเล่าว่ากะเหรี่ยงหูยาวและกะเหรี่ยงแดงนั้นจะไม่ใส่ห่วงหลายชั้นที่คอ กะเหรี่ยงหูยาวจะเจาะหูและขยายรูให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วใส่เครื่องประดับ สร้อยคอ ต่างหูรูใหญ่ ๆ แทน ส่วนกะเหรี่ยงแดงนั้นจะไม่นิยมประดับทั้งห่วงและไม่ขยายรูหู เมื่อถึงเวลากลับต้องบึ่งรถกลับไปยังตัวเมือง ท่ามกลางบรรยากาศแสนเย็นสบายพาให้เคลิ้มหลับจนต้องเปลี่ยนให้คนซ้อนมาขับแทน ภาพจากpixabay.com หากต้องการไปสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของชาวบ้านห้วยปูแกง สามารถขึ้นเรือที่ท่าน้ำบ้านห้วยเดื่อ(แต่จะเปิดบริการเฉพาะปลายปี) และเดินทางด้วยรถยนต์แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปก็สะดวก แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศสายลมเอื่อย ๆ ปะทะใบหน้าล่ะก็ ผู้เขียนขอแนะนำให้ขับรถสองล้อไปจะดีที่สุด