“เวียงจันทน์” เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทั้งวัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หรือแม้กระทั่งไปชมวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย นิสัยน่ารัก และยังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้แบบสบาย ๆ ภายในวันเดียวเท่านั้น ด้วยการเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 ที่จังหวัดหนองคาย แต่ต้องขอบอกก่อนสำหรับคนที่ยังไม่มีพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทาง ต้องไปทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวอยู่ที่สำนักงานออกหนังสือผ่านแดน (BORDER PASS OFFICE) ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ศาลากลางจังหวัดหนองคายหลังเก่าหรือบริเวณลานน้ำพุพญานาคนั่นเอง มีค่าบริการ 40 บาท (หนังสือมีอายุหรือพำนักได้ 3 วัน 2 คืน) เมื่อเราไปถึงด่านพรมแดนจังหวัดหนองคายแล้วจะต้องไปยื่นหนังสือผ่านแดนชั่วคราวและซื้อตั๋วรถโดยสารข้ามไปยังฝั่งลาว ราคา 20 บาท พอถึงด่านพรมแดนของลาว เราจะต้องนั่งรถเข้าไปในเวียงจันทน์อีกประมาณ 20 กม. ซึ่งผู้เขียนได้เช่าเหมารถให้พาเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่วางแผนไว้ ส่วนราคาของการเช่าเหมารถนั้นก็แล้วแต่จะตกลงกับบริษัทหรือคนขับรถเอง ซึ่งราคาที่ผู้เขียนเช่าเหมา นั่นคือ 700 บาท เมื่อเข้าไปถึงเวียงจันทน์แล้ว เรามุ่งหน้าไปที่ประตูไซ แลนด์มาร์คสำคัญที่สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับสดุดีแก่ทหารลาวที่เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และในการกอบกู้เอกราชจากประเทศฝรั่งเศส บรรยากาศโดยรอบของประตูไซเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศที่แวะเวียนมาชื่นชม ความงามและวิวของเวียงจันทน์ในชั้นบนสุดของประตูไซ ภายในประตูไซแต่ละชั้นจะมีการขายสินค้าหรือของฝาก ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ แก้วน้ำ เสื้อผ้า กระเป๋า และอื่น ๆ อีกมากมายที่สวยเก๋ ซึ่งราคาตั๋วเข้าชม(ปี้ขึ้นประตูไซ)ราคา 3,000 กีบ และอีกอย่างหนึ่งที่เราจะได้พบเห็นในจุดชมวิวบนประตูไซ นั่นคือ สำนักงานนายกรัฐมนตรีของลาว จากนั้นเราก็เดินทางไปที่พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ อีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญและอีกหนึ่งศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ซึ่งในทุก ๆ ปีจะมีประเพณีนมัสการพระธาตุหลวงเวียงจันทน์เป็นประจำทุกปีในช่วงขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ประชาชนที่มีจิตศรัทธาก็จะหลั่งไหลมาร่วมบุญใหญ่ทั้งชาวลาวและชาวไทย ที่สำคัญบริเวณนั้นก็จะมีร้านค้าขายของฝากมากมายให้เราได้เลือกสรรและจับจ่าย ใครมีความสามารถในการต่อราคาจากแม่ค้าได้เยอะ คนนั้นคือผู้ชนะนะครับ บอกเลย! และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่อยากเข้าไปชมและทราบประวัติของพระแก้วมรกต ต้องมาที่นี่เลย นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว” ภายในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีพระพุทธรูปเก่าโบราณที่งดงามให้กราบไหว้ขอพร และมีสิ่งของต่าง ๆ ที่เก็บรักษาไว้เพื่อจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์นั้นเขาห้ามถ่ายรูปนะครับ บัตรเข้าชมก็ราคา 3,000 กีบครับ สำหรับการไปเที่ยวเวียงจันทน์ภายในวันเดียวนั้นสามารถปรับเปลี่ยนสถานที่ที่ผู้อ่านอยากจะไปและสารมารถนำมาแชร์ร่วมกันได้นะครับ ขอให้ทุกคนเที่ยวอย่างสนุก มีความสุขและประทับใจกับทุก ๆ สถานที่ที่เราไปเติมเต็มประสบการณ์ให้กับตัวเองนะครับ (รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน)