เปิดทริปนี้ด้วยฝนปรอยๆ และหมอกปังๆ บังวิว ต้อนรับการมาเยือนครั้งแรกของพรว. อันที่จริงทริปนี้ต้องเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม แต่มันก็มีเหตุให้เราต้องพักมันไว้ก่อน จนกระทั่งทุกอย่างลงตัวในปลายเดือนพฤศจิกายนและหากเราเลือกวันที่เดินทางผิดแค่วันเดียวเราก็คงไม่ได้เจออะไรแบบนี้ เราจัดการจองทุกอย่างภายในวันสองวันและถึงแม้จะยังแลกเวรกับเพื่อนที่ทำงานไม่ได้ แต่ใจมันก็บอกให้เราต้องไปวันนี้แหละวะ ขอโทษเพื่อนๆ มา ณ ที่นี้ด้วยที่ต้องวิ่งแทนกัน ทำการจองคิวในวันที่ 23 และเดินทาง 23 เพื่อเข้าอทช.ภูกระดึงวันรุ่งขึ้นเลยจ้า ก็ไม่รู้ทำไมต้องกะทันหันขนาดนั้น 24/11/65 : 05.30 ณ ร้านเจ้กิม จุดเริ่มต้นการเดินทางเข้าสู่อทช.ภูกระดึงพร้อมกับมิตรภาพเล็กๆ ของเรากับใครอีกคน"มาคนเดียวหรอ นั่งสองแถวออกไปพร้อมกันมั้ย " เราถาม" ได้ ไปดิ " เธอตอบ รูปนี้เธอลงไปเสียค่าเข้าอุทยานให้เราอยู่ จนเข้าสู่อทช.ภูกระดึง ทำทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมลุย เราควัก Gopro9 ออกมาพร้อมความเขินอายนิดหน่อยที่ต้องพูดกับกล้องในขณะที่ข้างๆ มีเธอด้วย แต่ก็นะ แม่เจ้า หันไปอีกที เธอเองก็กำลังพูดกับกล้อง camera action ของเธออยู่เช่นกัน / 555555ตอนนั้นเรารู้สึกสบายใจแล้วก็ไม่อายที่เป็นตัวเองเลยต่างคนต่างเดิน ทันกันก็เจอกัน เราเปียกปอนไปยังจุดหมายเดียวกันและเจอกันอีกทีที่ข้างบนภูกระดึงเรานอนเต็นท์ใกล้ๆ กัน ตอนเย็นไปกินหมูกะทะ รุ่งเช้าไปผานกแอ่น แต่ก็ต้องขอโทษด้วยที่เราทิ้งเธอไว้กลางทางเพราะปวดท้องคลอดกะทันหัน ( ปวด... นั่นแหละ) เราคุยกันจนพบว่าเรามีความบังเอิญบางอย่างที่คล้ายกันเพราะพายุเข้า ฝนตกเราเลยไม่ได้ไปไหนมาก นอกจากไปกินข้าวด้วยกันตลอด 2 วัน มีความบังเอิญหลายอย่างที่เรากับเธอต่างคล้ายกัน เธออ่านหนังสือและเขียนบันทึกครส.ของตัวเอง ส่วนเราก็พกสมุดเล่มจิ๋วกับหนังสือไปด้วยกันเกือบทุกทริปเธอฟัง podcast เฮ้ยเราก็ฟัง ถึงแม้จะคนละช่องกันก็เถอะเธอไปปากเซ เราไปวังเวียง แฮชแท็กทริป LaosAlone เหมือนกันอีก นี่ไงทริปนี้ LaosAloneโปสการ์ดที่เธอและเราเลือกส่งให้ตัวเองก็เลือกรูปเดียวกัน ทั้งที่เราไปกันคนละเวลา แต่ร้านเดียวกันแคปชั่นในไอจีบางอันเราก็ตั้งเหมือนกันคำที่เธอพูด มันคือสิ่งที่เราคิด มันเหมือนเราเห็นตัวเองในตัวของเธอ มันคงมีคนที่เหมือนกันอีกเยอะ แต่มันก็คงไม่ใช่บ่อยๆ มั้งที่เราจะมาเจอกันแบบต่างคนต่างมาแบบนี้ เที่ยวคนเดียวมาหลายปีเพิ่งเคยเจอจน Last Dayอากาศมาดีเอาวันจะกลับ เราตัดสินใจไปน้ำตกวังกวางที่ใกล้ที่สุดสักที่หนึ่งก่อนกลับ แต่สุดท้ายก็เก็บครบมันทุกน้ำตกที่มีและลงจากภูในเวลา 12.00 ซึ่งเธอลงจากภูไปตั้งแต่เช้าแล้ว เราได้แต่หวังว่าน่าจะได้เจอกันข้างล่างและสิ่งนั้นก็ทำให้เราเดินลงภูล้วนเดียว ไม่เถลไถล ภายในเวลา 4 ชม. เผื่อจะได้มาทันบ๊ายบายกันก่อนกลับ4 ชม.ผ่านไปเราพาตัวเองลงมาถึงข้างล่างแล้ว นั่งพักพร้อมเปิดโทรศัพท์ดู เธอทิ้งข้อความไว้"เรากลับก่อนนะ" แต่ไม่ใช่แค่ข้อความที่เธอฝากไว้ เธอยังฝากบางอย่างไว้ที่ป้อมยามให้เราด้วยเรารีบลุกจนลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้กว่าจะลุก กว่าจะนั่งได้มันตึงขาขนาดไหน / ฮาาาา เธอฝากอะไรไว้นะเธอวางหนังสือเจ้าชายน้อยไว้ให้ เราคุยถึงหนังสือเล่มนี้กันตอนกินข้าว เราบอกเธอไปว่าเดี๋ยวจะไปหาอ่านบ้างแต่ว่าเธอยังอ่านไม่จบหนิ แล้วก็ไม่ได้บอกว่าเอาหนังสือเล่มนี้มาด้วย เป็นเสียงแรกที่ดังขึ้นในหัว"แล้วจะอ่านอะไร" เราทักไป"เราอ่านจบแล้ว" เราคุยกันแค่นี้ พร้อมคำขอบคุณที่ได้แต่พิมพ์เป็นข้อความไป โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกของคนๆ หนึ่งที่ไม่ค่อยได้เจออะไรแบบนี้บ่อยนัก มันดีใจมากๆเลยหนังสือเจ้าชายน้อยเล่มนี้เราได้เห็นผ่านตามาบ่อยมาก แต่ก็ไม่คิดจะหาอ่านเพราะเข้าใจว่ามันคือการ์ตูนเด็กมาตลอด / ฮาาา แต่ถ้าใครได้อ่านแล้วก็คงจะเข้าใจดีว่ามันมีความหมายมากๆแม้ภูกระดึงจะไม่ให้เราเห็นหมอกสวยๆ ที่ซำแฮก พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นและพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มศักดิ์ แต่ภูกระดึงกลับมอบความทรงจำที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยได้รับมา ขอบคุณทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอบคุณตัวเองที่ดื้อจะไป ว่าแต่ภูกระดึงรู้ใช่มั้ยถึงเรียกให้เราไป ... ปล.และยังมีความบังเอิญอีกอย่างเกิดขึ้นอีกหลังจากเราอ่านหนังสือเล่มนั้นจบ พิกัดภูกระดึง จ.เลยขอบคุณเธอมากๆ ที่ทำให้ทริปนี้จบแบบ HAPPY ENDDINGเครดิตรูปประกอบและรูปปกโดยผู้เขียน แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”