บางคนเกิดมาเพื่อท่องเที่ยวไปเสพธรรมชาติที่สวยงาม บางคนโหยหาความสงบ แต่........ ที่ไปมันไม่สงบ!! ต้องทำยังง๊ายยยยย! สวัสดีค่ะ ทริปนี้จะเรียกว่าทริปน้ำตาเลยก็ว่าได้ คนอกหักนะเห๊ยยยยไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากไป...... /ตะมายม๊ายเข้าจายเลาาาาาล่ะห๊ะะะ โอโห! สุดจัดปลัดลาออก ไปเที่ยวแล้วดราม่าได้อะ ยอมใจตัวเอง เอาแหละ มันผ่านไปด้วยดีทุกเรื่องแล้ว มันจึงเป็นการพิสูจน์ได้ว่า ธรรมชาติบำบัด ขนานแท้ไงละ จบทริปก็หายเฮิร์ทกันเลยทีเดียว มาเครียดเพราะดำกว่าเดิมนี่แหละ ฮ่า ๆ ทริปนี้พวกเราเลือกเหมาเรือหางยาวกันค่ะ 3000 บาท ต่อวัน โปรแกรม : เกาะห้อง อ่าวห้อง(ลากูน) เกาะผักเบี้ย เกาะเหลาลาดิง (พาราใดซ์) ของสหกรณ์เรือหางยาว อ่าวนาง เป็น private trip มีสมาชิกทั้งสิ้น 4 คน หารกันได้แบบไม่เจ็บตัว คุณลุงเจ้าของเรือแถมฟรีอีกหลายเกาะเลยค่ะ แต่ไม่มีชื่อหรอก เป็นเกาะเล็ก ๆ ตามปกติ เรือให้บริการ 8.00 - 16.00 น. แต่นี่คุณลุงใจดีอีกแหละ แถมให้เกือบ 6 โมงเย็น โอโห! เหนื่อยมากจนได้ขอร้องคุณลุงว่า กลับกันเถอะค่ะ ไม่ไหวแล้ว ตอนก้าวลงจากเรือขาสั่นพลั่บ ๆ ไม่มีแรงจะเดินเลยอะ เหตุผลที่เหมาเรือก็เพราะชอบความสงบ ไม่ชอบความจอแจ มาคำนวณแล้วมันถูกกว่าไปแบบจอยทัวร์ซะอีก เรือแล่นไปตามเกาะเล็ก เกาะน้อย ส่วนภาพด้านบนที่เลยหาดนพรัตน์ธารามาแป๊ปเดียว ตามโปรแกรมทัวร์ เราจะได้ไปทั้งหมด 4 ประกอบด้วย เกาะห้อง อ่าวห้อง(ลากูน) เกาะผักเบี้ย เกาะเหลาลาดิง ตัดมาที่ความจริง เราไปทัวร์ทั้งหมด 9 เกาะ น้ำตาจะไหล รักคุณลุงมากค่ะ เราถ่ายภาพมาไม่ครบทุกเกาะนะคะ ถ่ายมาแค่หลัก ๆ เท่านั้น เกาะแรกที่คุณลุงไปส่งก็คือ เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะส่วนตัวมากคร่าา เพราะบนเกาะมีแค่กลุ่มเรา เขาไปจอดกันอีกฟากหนึ่งนู้น! ดีมากค่ะ จะได้วิ่งถ่ายรูปรอบเกาะ เกาะผักเบี้ยตั้งอยู่ด้านหลังเกาะห้องนี่เองค่ะ โดยเกาะผักเบี้ยถูกน้ำทะเลแบ่งเกาะออกเป็นสองเกาะน้อย ๆ ช่วงน้ำทะเลลดลงจะมีสันทรายโผล่ขึ้นมาให้เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ อีกฝั่งที่เรือจอดเยอะ ๆ ก็เป็นเกาะผักเบี้ยเหมือนกัน ในรูปน้ำก็เริ่มลงจนเห็นแนวสันทรายขึ้นมาค่ะ เสียดายเหมือนกัน อยากเห็นทะเลแหวก เดินหาเศษเหรียญแพร๊พพ เผื่อมีใครทำเงินหล่นบาท สองบาท เดินก้มจนคอเคล็ด ได้แต่ขยะ เหมือนมาเก็บขยะมากกว่ามาเที่ยว ฮ่า ๆ แต่ก็เอาแหละมันทนเห็นความสกปรกไม่ได้ มียารักษาโรคนี้ไหมคะ อยากมองผ่านตาแบบคนทั่วไปบ้าง จบเกาะผักเบี้ย ไปต่อเกาะห้องเลยละกัน แค่เข้าสู่เวิ้งของเกาะห้องก็รู้สึกถึงความเย็นมากระทบผิวของตัวเอง นี่แหละหนาสิ่งดี ๆ ที่ธรรมชาติมอบให้มนุษย์ แล้วมนุษย์ละมอบสิ่งดี ๆ ให้ธรรมชาติบ้างหรือยัง? ขอตัดมาเกาะแดง เกาะที่ดำน้ำได้สวยที่สุด ตามคำบอกเล่าของคุณลุงเจ้าของเรือ จากที่สัมผัสด้วยตา 8 เกาะก่อนหน้านั้น เกาะแดง หรือ เกาะหินแดง เป็นเกาะที่ไม่มีชายหาด เอกลักษณ์ก็คือชั้นหินที่มีสีแดง ถึงไม่มีชายหาดให้เดินเหมือนเกาะอื่น เกาะแดงกลับเป็นเกาะที่มีแนวปะการังที่สวยงามมากค่ะ และน้ำใสกว่า 8 เกาะก่อนหน้านั้นมากกกกกก ก.ไก่ล้าน ๆ ตัว ขนาดไม่ลงน้ำยังสามารถมองดูน้องปลาแหวกว่ายไปมาอย่างเห็นได้ชัด คุณลุงบอกว่าน้องชอบกินแตงโม ตามความคิดเราก็ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวเอาอาหารไปให้น้องปลานะคะ น้องจะไม่ยอมหาอาหารเอง น้องจะลืมธรรมชาติของตัวเอง ถ้ารักน้อง ดูแลปะการัง งดการจับปลาในฤดูวางไข่ ดูแลรักษาปะการัง เพื่อให้น้องมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ไว้ทานดีกว่าค่ะ (เกี่ยวไหมนะ แต่ก็อยากให้ทำอะแหละ) ที่พักเราพักกันที่ บีช เทอเรส โฮเทล ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Days Inn by Wyndham Aonang Krabi เราชอบตรงบรรยากาศ ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้า ทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นชายหาดอ่าวนาง มันดีมากจริง ๆ สำหรับเราการชาร์จแบตคือการได้นอนในที่เงียบ ๆ ครบ 8 ชั่วโมง ตื่นมาเจอบรรยากาศที่สดชื่น ดูแล้วเบิกบานใจ สมองไม่ต้องมาคิดเรื่องอะไร นอกจากการจดจำวิวรอบตัว อื้ม!! แค่นี้แหละก็พร้อมไปรับมือกับทุกสถานการณ์ ʕ·ᴥ·ʔ เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า ทะเลสีครามที่ทอดยาว เห็นความรักฉันบ้างไหม พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ