เที่ยวทิพย์พระอารามในเกาหลี ตอนที่ ๑ โดย นายสัณหวัช รามพูล เตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ ๗๙ สาขาวิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ · วัดแห่งที่ ๑ : วัดทงโดซา (Tongdosa Temple) วัดทงโดซา (Tongdosa Temple) ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Yeongchwisan ใน Yangsansi ที่จังหวัดคย็องซังใต้ (Gyeongsangnam-do) ของประเทศเกาหลีใต้ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในสามวัดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงของเกาหลี โดยวัดนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สาเหตุที่วัดมีชื่อว่า “Tongdosa” เนื่องจากลักษณะของภูเขา Yeongchwisan ที่วัดตั้งอยู่นั้น ทำให้นึกถึง “เขาคิชฌกูฏ (Gridhrakuta Hill)” ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนา วัดทงโดซา (Tongdosa Temple) สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรชิลลา (พุทธศักราช ๔๘๖ – ๑๔๗๘) รัชสมัยสมเด็จพระราชินีซอนด็อกแห่งชิลลา (ครองราชสมบัติในปีพุทธศักราช ๑๑๗๕ - ๑๑๙๐) โดยพระภิกษุ Jajangyulsa ผู้ไปศึกษาพระพุทธศาสนาในจีนแผ่นดินใหญ่ สมัยราชวงศ์ถัง แล้วได้เดินทางกลับมาที่อาณาจักรชิลลา และสร้างวัดตามพระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรชิลลา โดยช่วงเวลานี้เป็นครั้งเดียวกันที่มีการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และบริเวณ Geumgang – gyedon ได้สร้างขึ้น นับแต่นี้ต่อไป วัดนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของวัดต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นในอาณาจักรชิลลาในภายหลัง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของอาณาจักรชิลลาด้วย อาคารศาสนสถานหรือสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งสิ่งที่สำคัญภายในวัด มีดังต่อไปนี้ ๑. บริเวณ Geumgang – gyedon (Geumgang – gyedon Stairs) ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากแผ่นดินจีนโดยพระภิกษุ Jajangyulsa โดยในพื้นที่นั้นประกอบไปด้วยซุ้มประตูหิน (Stone Gate) และเจดีย์ศิลา (Sarira pagoda of Buddha) ภาพที่ ๑ บริเวณ Geumgang – gyedon (Geumgang – gyedon Stairs) ที่มาของภาพ : mayokorea ภาพที่ ๒ เจดีย์ศิลา (Sarira pagoda of Buddha) ที่มาของภาพ : english.cha ภาพที่ ๓ ซุ้มประตูหิน (Stone Gate) ที่มาของภาพ : english.cha ๒. ประตูอิลจุลมุน (Iljumun Gate) ซึ่งประดับป้ายด้านบนด้วยคำว่า “Yeongchwisan Tongdosa” ซึ่งหมายความว่า “วัดทงโดซาที่ภูเขา Yeongchwisan” โดยจารึกด้วยภาษาเกาหลีที่ใช้อักษรจีน โดยลายพระหัตถ์ของเจ้าชายแทว็อนกุนฮึงซ็อน (Heungseon daewongun) พระราชบิดาของพระเจ้าโคจงแห่งราชวงศ์โชซอน (King Gojeong in The Joeson Dynasty) ที่ครองสิริราชสมบัติระหว่างปีพุทธศักราช ๒๓๙๕ – ๒๔๖๒ ภาพที่ ๔ ประตูอิลจุลมุน (Iljumun Gate) ที่มาของภาพ : wikipedia ๓. วิหารแทอึงจอน (Daeungjeon Hall) บางครั้งอาจเรียกว่า วิหาร Jeokmyeolbo - gung ซึ่งไม่ได้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ทำหน้าที่เพียงเป็นทางผ่านจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เพราะไม่มีความจำเป็นในการประดิษฐานพระพุทธรูป เพราะด้านหลังของวิหารหลังนี้ คือ บริเวณ Geumgang – gyedon ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ภาพที่ ๕ วิหารแทอึงจอน (Daeungjeon Hall) ที่มาของภาพ : tongdosa วิหารแทอึงจอน (Daeungjeon Hall) เป็นอาคารศาสนสถานในกลุ่มวิหารที่เรียกรวมกันว่า “กลุ่มวิหารแทกวังมยองจอน (Daegwangmyeongjeon Hall)” ที่สร้างขึ้นในสมัยโครยอตอนปลาย (พุทธศักราช ๑๔๖๑ – ๑๙๓๕) นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยวิหารยองซันจอน (Yeongsanjeon Hall) วิหารกึงนักจอน (Geungnakbojeon Hall) และบริเวณใกล้เคียงมีวิหารอีก ๑๒ หลัง ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ด้วย นับรวมอาคารทั้งหมดในวัดแล้วมี ๖๕ หลัง และ ๕๘๐ ห้อง และวิหารแทอึงจอน (Daeungjeon Hall) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ หมายเลข ๒๙๐ ๔. เจดีย์ศิลา Bongbaltap (Stone Pagoda) นักวิชาการเชื่อว่า เจดีย์ศิลา Bongbaltap สร้างขึ้นในสมัยโครยอ (พุทธศักราช ๑๔๖๑ – ๑๙๓๕) และมีลักษณะรูปร่างแสดงให้เห็นถึงบาตรของพระพุทธเจ้า รวมทั้งเจดีย์ศิลา Bongbaltap เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับการมาถึงของพระพุทธเจ้าศรีอริยเมตไตรย ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่จะอุบัติขึ้นในอนาคตด้วย และเจดีย์ศิลา Bongbaltap ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ หมายเลข ๔๗๑ ภาพที่ ๖ เจดีย์ศิลา Bongbaltap (Stone Pagoda) ที่มาของภาพ : tongdosa ๕. เจดีย์ศิลา ๓ ชั้น (Three Storied Stone Pagoda) มีลักษณะเป็นเจดีย์ ๓ ชั้น ตั้งอยู่บนฐาน ๒ ชั้น โดยปรากฏจารึกว่า สร้างขึ้นในปีที่ ๒ ของรัชสมัยพระเจ้าซอนจงแห่งราชวงศ์โครยอ (King Seonjong of Goryeo Kingdom) ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช ๑๖๒๘ ภาพที่ ๗ เจดีย์ศิลา ๓ ชั้น (Three Storied Stone Pagoda) ที่มาของภาพ : english.cha ๖. ภาพจิตรกรรม Samsin – buldo ภายในวิหาร Daegwangmyeongjeon (Samsin – buldo Painting of Daegwangmyeongjeon Hall) โดยเป็นภาพพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ตามพระคัมภีร์อวตังสกสูตร (Avatamsaka Sutra) ซึ่งเป็นพระสูตรสำคัญของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน พระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ ได้แก่ พระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / Vairocana Buddha (พระพุทธเจ้าแห่งแสงที่แผ่ซ่านไปทั่ว) อยู่ตำแหน่งกลาง พระองค์ทรงจีวรห่มคลุมพระอังสา (ไหล่) ทั้งสองข้าง และแสดงพระหัตถ์ในท่าวัชรมุทราอันเป็นสัญลักษณ์ว่าพระพุทธเจ้าและพุทธศาสนิกชนเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งท่าวัชรมุทรา มีลักษณะที่ใช้พระกรขวายกขึ้นกำพระหัตถ์ชี้พระดัชนี (นิ้วชี้) ขึ้นด้านบน พระกรซ้ายยกเหนือขึ้นสูงเล็กน้อย โดยฝ่าพระหัตถ์ซ้ายได้รวบกำพระดัชนีของพระหัตถ์ขวาเอาไว้ อายุราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๓ อันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลจากศิลปะจีนและญี่ปุ่น ถัดมา คือ พระพุทธเจ้าแห่งสัมโภคกาย / Nosana Buddha (พระพุทธเจ้าแห่งการช่วยปัดเป่าภยันตรายต่าง ๆ) ปรากฏทางด้านซ้ายของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ ทรงยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างประหนึ่งกำลังเทศนาธรรมและนุ่งห่มจีวรที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับล้ำค่า พร้อมกับสวมมงกุฎที่ประดับไปด้วยอัญมณีบนพระเศียร ส่วนพระพุทธเจ้าศากยมุนี / Sakyamuni Buddha (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันตามพุทธประวัติ) ปรากฏทางด้านขวาของพระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ พระองค์ห่มจีวรเฉียงพาดพระอังสาซ้าย ทำให้เผยให้เห็นพระอังสาขวา พร้อมทั้งแสดงพระหัตถ์ในปางมารวิชัย (ภูมิสปรรศมุทรา) จากที่กล่าวมาข้างต้น ภาพจิตรกรรมชุดนี้กำหนดอายุได้อยู่ในสมัยโชซอน (พุทธศักราช ๑๙๓๕ - ๒๔๔๐) เนื่องจากภาพมีสีสันสดใสกว่าสมัยก่อนหน้า และนิยมใส่รายละเอียดจนเต็มพื้นที่ ภาพที่ ๘ พระพุทธเจ้าศากยมุนี / Sakyamuni Buddha (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันตามพุทธประวัติ) ที่มาของภาพ : english.cha ภาพที่ ๙ พระพุทธเจ้ามหาไวโรจนะ / Vairocana Buddha (พระพุทธเจ้าแห่งแสงที่แผ่ซ่านไปทั่ว) ที่มาของภาพ : english.cha ภาพที่ ๑๐ พระพุทธเจ้าแห่งสัมโภคกาย / Nosana Buddha (พระพุทธเจ้าแห่งการช่วยปัดเป่าภยันตรายต่าง ๆ) ที่มาของภาพ : english.cha แหล่งที่มาของข้อมูล ภาษาไทย เกาหลีใต้. เข้าถึงเมื่อ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. เข้าถึงได้จาก thaipng อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช. “งานจิตรกรรมในศิลปะเกาหลี (Korean Paintings).” เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ๓๑๐ ๒๒๔ ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๖๓. อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช. “งานประติมากรรมของพระพุทธศาสนาในศิลปะเกาหลี (Korean Buddhist Sculptures).” เอกสารประกอบการสอนรายวิชา ๓๑๐ ๒๒๔ ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๖๓. ภาษาอังกฤษ Government Complex-Daejeon. Buddhist Painting in Daegwangmyeongjeon Hall of Tongdosa Temple (Buddha Triad). Accessed July 28, 2021. Available from http://english.cha.go.kr/cha/idx/SubIndex.do?mn=EN Government Complex-Daejeon. Daeungjeon Hall and Ordination Platform of Tongdosa Temple, Yangsan. Accessed July 30, 2021. Available from http://english.cha.go.kr/cha/idx/SubIndex.do?mn=EN Government Complex-Daejeon. Three-story Stone Pagoda of Tongdosa Temple, Yangsan. Accessed July 30, 2021. Available from http://english.cha.go.kr/cha/idx/SubIndex.do?mn=EN MAYOKOREA. Tongdosa Temple: UNESCO World Heritage. Accessed July 28, 2021. Available from https://mayokorea.com/tongdosa-temple-unesco-world-heritage/ Park Ki - seok, and Kim Hong – sik. Korean Cultural Heritage 1 Seen through Pictures and Names. Seoul: Sigong Tech & Korea Visuals, 2005. Tongdosa. Accessed July 28, 2021. Available from https://en.wikipedia.org/wiki/Tongdosa Tongdosa Temple. Daeungjeon. Accessed July 28, 2021. Available from http://www.tongdosa.or.kr/eng/#tab11 Tongdosa Temple. Tongdosa Bongbaltap. Accessed July 28, 2021. Available from http://www.tongdosa.or.kr/eng/#tab11 Tongdosa Temple. Tongdosa, the most precious temple in Korea(the temple without buddha statue). Accessed July 28, 2021. Available from http://www.tongdosa.or.kr/eng/ วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !