รีเซต

เที่ยวเมืองภูเก็ต 3 วัน 2 คืน เยือนเมืองเก่า ถ่ายรูปสวย สัมผัสวิถีชุมชน สนุกครบรส

เที่ยวเมืองภูเก็ต 3 วัน 2 คืน เยือนเมืองเก่า ถ่ายรูปสวย สัมผัสวิถีชุมชน สนุกครบรส
SummerB
17 มีนาคม 2565 ( 20:00 )
6.8K

       วัดหยุดสุดสัปดาห์ หาที่เที่ยวชิคๆ ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันดีกว่า ถ้าคิดไม่ออก เราขอพาไป เที่ยวเมืองภูเก็ต 3 วัน 2 คืน แบบจัดเต็ม ทั้งเยือนเมืองเก่า ชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกแบบชิโน-โปรตุกีส สีสันสดใส ถ่ายรูปสวย ช้อปปิ้งเพลินๆ ต่อด้วยการไปสัมผัสวิถีชุมชนที่ บ้านบางโรง และชมวิวสวยๆ ที่ จุดชมวิวเขารัง กิจกรรมแน่นๆ สนุกครบรสแบบนี้ อย่าได้รอช้า ตามเรามาเลย!~

 

ทริป 3 วัน 2 คืน เมืองภูเก็ต

ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย สนุกครบรส

 

Day 1

 

       สำหรับวันแรกของทริป เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตด้วยเครื่องบินไฟลท์ตอน 12.45 น. กว่าจะไปถึงโรงแรมก็ช่วงบ่ายๆ แล้ว วันนี้เราเลยขอพักชิลๆ ที่โรงแรมก่อน ซึ่งทริปนี้เราเลือกมาพักที่ โรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ (Courtyard by Marriott Phuket Town) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ตค่ะ โรงแรมสวยมาก ตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัยผสานกับศิลปะกลิ่ยอายภาคใต้เมืองไทย มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เยอะแยะ แถมยังเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกด้วยนะ

 

 

       ระหว่างพักผ่อนเราก็ไปจิบชายามบ่ายที่ ตะลุง เลาจน์ (Talung Lounge) ของโรงแรมที่เสิร์ฟ Afternoon Tea Set พร้อมขนมคาวหวาน และชาหอมๆ เติมพลังก่อนไปเดินเล่นรอบๆ โรงแรม นี่ก็ตะลุยถ่ายรูปมาซะเยอะเลยค่ะ เพราะแต่ละมุมของเขานี่เก๋จริง โดยเฉพาะบาร์ริมสระว่ายน้ำที่เป็นเหมือนไฮไลท์ของที่นี่ มีบาร์ริมสระว่ายน้ำที่เสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีที่นั่งให้แฮงเอาท์ และชมวิวชิลๆ ของเมืองภูเก็ตอีกด้วย

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ที่พักสวยภูเก็ต Courtyard by Marriott Phuket Town ถ่ายรูปสุดชิค กลางเมืองเก่า 📸

 

 

Day 2

ศาลเจ้าแสงธรรม

 

 

       พักผ่อนพร้อมทานอาหารเช้าเติมพลังเต็มเปี่ยมแล้ว วันนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวโซนเมืองเก่าของภูเก็ตแล้วค่ะ ! ที่น่าตื่นเต้นคือเราได้เดินทางด้วยรถตุ๊กๆ สไตล์เมืองภูเก็ตด้วยแหละ คลาสสิกตรงกับคอนเซ็ปต์ของวันนี้เลย พิกัดแรกที่เราไปเยือนก็คือ ศาลเจ้าแสงธรรม หรือที่เรียกในภาษจีนฮกเกี้ยนว่า อ๊ามเตงก่องต๋อง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 อายุกว่าร้อยปีมาแล้ว เป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าจีนที่ชาวท้องถิ่นเคารพนับถือโดดเด่นด้วยอาคารรูปทรงคล้ายเก๋งจีนขนาดเล็ก มีหลังคาปูนปั้นรูปมังกรและตุ๊กตาจีนในศิลปะแบบฮกเกี้ยน ส่วนกำแพงด้านหน้าทางเข้าก็ตกแต่งลวดลายด้วยสตรีทอาร์ตที่บอกเล่าถึงขนบธรรมเนียมประเพณีจีน เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ก่อนเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างในศาลเจ้าค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ศาลเจ้าแสงธรรม อ๊ามเต่งก้อง ที่เที่ยวภูเก็ต ไหว้ขอพร เทพเจ้าจีน ให้เฮงเฮงเฮง

 

 

      ทำบุญพร้อมกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราก็ไปเดินเล่นในเขตเมืองเก่ากันต่อ ระหว่างทางได้ผ่านตึกอาคารสวยๆ มากมาย ส่วนใหญ่ก็จะตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส สีสันสดใสเรียงรายเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นก็คือ ตึกธนาคารกสิกรไทย จุดถ่ายรูปยอดฮิตที่เหล่าสายแชะห้ามพลาด ต้องไปแอคท่าเท่ๆ หน้าตึกสักหน่อย จากนั้นก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ แวะร้านช็อคโกแล็ตบ้าง แวะจิบกาแฟที่คาเฟ่ เล่นกับเจ้าเหมียวบ้าง เพลินสุดๆ 

 

 

พิพิธภัณฑ์เพอรานากัน ภูเก็ต

Museum Phuket

     

 

       ไปกันต่อที่ พิพิธภัณธ์เพอรานากัน ภูเก็ต (Museum Phuket) ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของภูเก็ต ตั้งแต่การอพยพของชาวเพอรานากัน หรือ ชาวจีน-มาลายูมาตั้งถิ่นฐานที่ภูเก็ต สมัยที่เหมืองแร่เจริญรุ่งเรือง ก่อนจะผันตัวมาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ต รวมถึงการแต่งตัว และอาหารการกิน เป็นแหล่งการศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ มิวเซียมภูเก็ต ที่เที่ยวพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราวของนครภูเก็ต

 

 

      ซึมซับประวัติศาสตร์จนเต็มอิ่ม เราก็ไปเดินเล่นชิลๆ กันต่อที่ ถนนคนเดินหลาดใหญ่ ที่ตอนนี้อาจจะไม่ได้คึกคักมากเพราะยังเป็นตอนกลางวันอยู่ เลยไม่มีร้านรวงมาตั้งแผงขายของกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเงียบเหงาเสียทีเดียวเพราะยังมีร้านค้าตามตึกต่างๆ เปิดให้เข้าไปช้อปปิ้งได้อยู่ แน่นอนว่าสายช้อปอย่างเราก็ไม่รอช้า แวะร้านโน้นที ร้านนี้ที ได้ของฝากมาเพียบ แถมยังได้แชะภาพสวยๆ ของตึกอาคารสีสันสดใสมาเต็มไปหมดเลย~ 📸

 

 

ศาลเจ้าไหหลำ

 

 

      ระหว่างทางก็พบกับ ศาลเจ้าไหหลำ ศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453 รวมๆ แล้วก็มีอายุกว่า 112 ปีมาแล้วค่ะ ด้านในเป็นที่ประดิษฐาน เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนมากมาย ถ้าใครมีโอกาสได้ไปกราบไหว้ท่านล่ะก็ อย่าลืมไปจุดเทียนเพื่อไปไหว้ขอพร จากนั้นก็มาเผากระดาษ และตีระฆังถึงจะครบพิธีการไหว้เจ้าแม่ทับทิมค่ะ  

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ศาลเจ้าไหหลำ ที่เที่ยวภูเก็ต สักการะ เจ้าแม่ทับทิม กลาง เมืองเก่าภูเก็ต

 

 

บ้านชินประชา

 

 

      ไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเลยเมื่อมาเที่ยวเมืองภูเก็ตคือ บ้านชินประชา บ้านทรงชิโนโปรตุกีสหลังแรกของภูเก็ตที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2447 ในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ซึ่งคนที่นี่เขาจะเรียกกันว่า อังม่อเหลา นั่นเองค่ะ เดิมเป็นบ้านของ อำมาตย์ตรีพระพิทักษ์ชินประชา หรือ ตันม่าเสียง ที่ทำกิจการเหมืองแร่ดีบุกและค้าขายกับปีนังในอดีต ปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์เรื่อยมา ด้านในจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ในอดีต เสื้อผ้าพื้นเมือง และการจัดแต่งห้องแบบโบราณ แต่ละมุมมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง สะท้อนกลิ่นอายความเป็นชิโน-โปรตุกีสได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ บ้านชินประชา ที่เที่ยวภูเก็ต ชมบ้านสไตล์ชิโนโปรตุกีส หลังแรกแห่งอดีต

 

 

เก็บมะพร้าว ทำบัวลอยที่

ชุมชนบ้านบางโรง

 

 

     หลังจากที่ทานข้าวกลางวันจนอิ่มท้องก็ไปลุยกันต่อที่ ชุมชนบ้านบางโรง ค่ะ เรียกว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของภูเก็ตที่สมควรมาสัมผัสจริงๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำอาชีพกรีดยาง ออกเรือทำประมง ทำไร่มะพร้าว สัปปะรด และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับวันนี้เราจะมาเก็บมะพร้าวกะทิเพื่อมาทำบัวลอยกันจ้า!~ น่าตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่เคยลองเก็บมะพร้าวด้วยตัวเองเลย พอได้ลองมาทำแล้วสนุกมาก ถึงจะล้มจุ้มปุ๊กตอนดึงมะพร้าวลงจากต้นก็เถอะ 😅 แต่โดยรวมคือชอบมากค่ะ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ดีเลย

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ชุมชนบ้านบางโรง ที่เที่ยวภูเก็ต เก็บมะพร้าว สัมผัสวิถีชุมชน กิจกรรมสนุกๆ เพียบ !

 

 

      พอได้มะพร้าวมาแล้วก็ถึงเวลามาขูดมะพร้าวเพื่อคั้นเอาน้ำกะทิค่ะ จากนั้นก็มาปั้นแป้งทำบัวลอยเพื่อเอาลงไปต้มกับกะทิหอมๆ ซึ่งแต่ละคนก็ต่างโชว์ความคิดสร้างสรรค์ สร้างเม็ดบัวลอยแปลกตากันเต็มที่ ตั้งแต่ทรงกลมธรรมดา ทรงสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ไปจนถึงมังคุด มะม่วง ซูชิ ทำไปก็หัวเราะไป เอ็นจอยมากค่ะ 😄

 

จุดชมวิวเขารัง

 

 

      พอตกเย็นก็ไปชมวิวสวยๆ ที่ จุดชมวิวเขารัง ที่ตั้งอยู่บน เขารัง ด้วยความสูงที่กำลังพอดีจึงสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก อีกทั้งยังเห็นทิวทัศน์ของตัวเมือง ทะเล และขุนเขาได้อย่างชัดเจน แต่น่าเสียดายที่ตอนเราไปฝนกำลังจะตกพอดี ฟ้าก็เลยไม่ค่อยเปิดเท่าไร แต่ก็ถือว่ามีเสน่ห์ไปอีกแบบ ได้รูปสวยๆ มาพอสมควรเลยค่ะ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ จุดชมวิวเขารัง ที่เที่ยวภูเก็ต ขึ้นเขา ชมวิวฟินๆ ถ่ายรูปสวย

 

 

       เที่ยวเล่นมาทั้งวันก็มาเติมพลังที่ ทุ่งคา-กาแฟ (Tunk-Ka Cafe) ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ติดกับจุดชมวิว เสิร์ฟอาหารไทยเลิศรส โดยเฉพาะเมนูปักษ์ใต้ เช่น แกงไตปลา หมูฮ้อง หมูสามชั้นทอดน้ำปลา และอื่นๆ อีกมากมาย ทานกันจนอิ่มพุงกางเลยทีเดียว เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปเพื่อเป็นการย่อยสักหน่อย เพราะทางร้านเขามีส่วนของระเบียงให้ไปชมวิวสวยๆ ของเมืองภูเก็ตในยามค่ำคืนด้วย บรรยากาศโรแมนติกไม่เบาเลย

 

ถนนคนเดินหลาดใหญ่

 

 

       ปิดท้ายวันที่ 2 ด้วย ถนนคนเดินหลาดใหญ่ ที่มีบรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ผิดกับตอนกลางวันลิบลับเลยค่ะ กลางถนนมีของขายเพียบ ทั้งสินค้าแฮนด์เมด เครื่องประดับ เสื้อผ้า เวิร์คช็อปผ้าบาร์ติก D.I.Y ต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร ขนมอีกมากมายให้เลือกสรร ที่สำคัญยังมีการแสดงเปิดหมวกโชว์ความสามารถกันด้วยนะ ได้เดินช้อปพลางฟังเพลงไปเพลินๆ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ถนนคนเดิน หลาดใหญ่ ที่เที่ยวภูเก็ต เดินชิล กินชิล ถ่ายรูปสวย ครบ 

 

 

Day 3

หอนาฬิกาวงเวียนสุรินทร์

 

 

      เที่ยวจนหนำใจก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว แต่ก่อนกลับเราก็ไม่ลืมที่จะออกไปถ่ายรูป หอนาฬิกาวงเวียนสุรินทร์ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมค่ะ นับเป็น 1 ใน 3 หอฬิกาแลนด์มาร์คของภูเก็ตเลยก็ว่าได้ นับเป็นการจบทริป 3 วัน 2 คืน เมืองภูเก็ต ได้อย่างสมบูรณ์ การมาเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้ ต่อให้ไม่ได้ไปเที่ยวทะเล แต่ก็ประทับใจสุดๆ ได้สัมผัสเสน่ห์เมืองเก่าอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ต ทำกิจกรรมสนุกตามวิถีชุมชน แถมยังได้ช้อปปิ้งและกินของอร่อยเยอะแยะเลย ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่นอน! 😊