ถ้าพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี หลายคนคงนึกถึงสะพานข้ามแม่น้ำแควหรือเส้นทางรถไฟสายมรณะแต่ที่จริงแล้วกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์หนึ่งในนั้นคือ อุทยานแห่งชาติไทรโยค พื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่ ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ น้ำตก ถ้ำ และความหลากหลายทางชีวภาพ จนกลายเป็นปลายทางยอดฮิตสำหรับนักเดินทางที่รักธรรมชาติและประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 19 ของประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ.2523 ครอบคลุมพื้นที่อำเภอไทรโยคและอำเภอทองผาภูมิ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นหินปูนสลับซับซ้อน มีแม่น้ำแควน้อยไหลผ่าน ทำให้เกิดน้ำตกและถ้ำสวยงามมากมาย นอกจากนี้พื้นที่แผ่งนี้ยังเป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และค้างคาวสายพันธุ์หายาก จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในอุทยานไทรโยค 1.น้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกชื่อดังที่ถูกกล่าวถึงในวรรณคดีของไทย “กาพย์เห่เรือ” ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากหน้าผาสูงราว 15 เมตร ตกสู่แม่น้ำแควน้อย เกิดเป็นม่านน้ำที่สวยงามตลอดทั้งปี ช่วงหน้าฝนจะยิ่งมีสายน้ำแรงและชื้น เหมาะกับการมาชมบรรยากาศสุดอลังการและนั่งพักผ่อน ถ่ายรูปสวยๆหรือแค่เดินเล่นรับลมเย็นๆ 2.น้ำตกไทรโยคน้อย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำ “ตกเขาพัง” ตั้งอยู่บริเวณถนนเส้นหลักสะดวกต่อการแวะชม ตัวน้ำตกไหลลงมาตามหน้าผาหินปูน มีแอ่งน้ำด้านล่างที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำคลายร้อนได้ บริเวณรอบๆ ยังมีร้านอาหารและของฝากให้เลือกซื้อ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มหรือครอบครัวที่อยากหากิจกรรมพักผ่อนร่วมกัน 3.ถ้ำละว้า ถ้ำเหินปูนขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แบ่งเป็นห้องต่างๆภายในถ้ำ บางห้องมีหินรูปร่างคล้ายม่านบางส่วนคล้ายเจดีย์ธรรมชาติ เป็นสถานที่ยอดนิยมของนกถ้ำที่อยากชมความงดงามใต้พิภพ นอกจากนี้ถ้ำละว้ายังเป็นถ้ำที่มีความหลากหลายและมีความสำคัญทางธรณีวิทยาและเป็นจุดเรียนรู้ธรรมชาติ เหมาแก่การเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการศึกษาที่แท้จริง 4.ล่องแพแม่น้ำแควน้อยและชมค้างคาวถ้ำไทรโยค อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตคือการล่องแพไม้ไผ่ไปตามแม่น้ำแควน้อย ชมวิวสองฝั่งที่เต็มไปด้วยป่าเขียวขจีและหน้าผาหินปูนบางเส้นทางอาจจะผ่านชุมชนท้องถิ่น ทำให้สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน สูดอากาศบริสุทธิ์และชมวิวสองข้างทาง ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน การชมถ้ำค้างคาวในช่วงพลบค่ำ นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมปรากฏการณ์ “ค้างคาวนับล้านตัว” บินออกจากถ้ำเป็นสายยาวบนท้องฟ้า เป็นภาพที่หาชมได้ยากและสร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างมาก 5.เส้นทางศึกษาธรรมชาติและแคมป์ปิ้ง อุทยานมีเส้นทางเดินป่าที่จัดไว้สำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้พืชพรรณและสัตว์ป่า รวมถึงพื้นที่กางเต็นท์และบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากค้างคืน ฟังเสียงน้ำตกและนกร้องท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด: เดินป่าและศึกษาธรรมชาติ แคมป์ปิ้งริมแม่น้ำหรือน้ำตก เล่นน้ำและพักผ่อนที่น้ำตก ล่องแพหรือพายเรือคายัก ถ่ายภาพธรรมชาติและสัตว์ป่า เคล็ดลับการท่องเที่ยว หากอยากเห็นน้ำตกในช่วงที่สวยที่สุด ควรมาในฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม แต่ถ้าอยากเดินป่าแบบสบาย ๆ แนะนำช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว อีกทั้งการมาเที่ยวอุทยานควรแต่งกายสุภาพ เคารพกฎระเบียบ และไม่ทิ้งขยะ เพื่อช่วยกันรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ไปนาน ๆ การเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี สามารถขับรถไปตามถนนเส้น 323 (กาญจนบุรี-ไทรโยค) ได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือถ้าไม่สะดวกขับรถก็มีรถโดยสารสาธารณะให้บริการ "อีกหนึ่งที่เที่ยวไกล้กรุงเทพฯ" อุทยานแห่งชาติไทรโยคไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติธรรมดา แต่เป็นจุดหมายที่ผสมผสานความงดงามของสายน้ำ ภูเขา และความลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์เข้าด้วยกัน ที่นี่จึงเหมาะสำหรับทั้งคนที่อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ คนที่หลงใหลการผจญภัย และคนที่อยากสัมผัสเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ การมาเยือนอุทยานแห่งชาติไทรโยคสักครั้งจึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ยากจะลืมเลือน ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติไทรโยค ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภาพโดย: Ronnachai Weerasirikun อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !