คงมีหลายครั้ง ที่เรานัดพบเพื่อนเก่า ๆ นัดสังสรรค์เพื่อนใหม่ ไปทานข้าวพูดคุยสรรพเพหระกัน หลาย ๆ คนคงเลือกนัดพบกันในห้างสรรพสินค้าที่มีแอร์เย็นฉ่ำ หรือร้านอาหารดัง ๆ ในตัวเมือง แต่เคยไหมที่นัดพบกันในสถานที่แบบนั้น แล้วนั่งคุยกันได้ไม่นานก็แยกย้าย ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ที่ทำให้นั่งนานไม่ได้ และต้องย้ายไปโน่นมานี่ทำให้ต้องเสียบรรยากาศ วันนี้ผู้เขียนจะพาไปทลายข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการนัดพบปะเพื่อน ๆ กัน ตายายชมทุ่ง ร้านคาเฟ่กาแฟ สไตล์ทุ่งนา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ผู้เขียนรู้จักสถานที่แห่งนี้จากการนัดเจอเพื่อนรักคนหนึ่ง เราอยู่จังหวัดอุบลราชธานีด้วยกัน แต่คนละอำเภอ บ้านเราอยู่ห่างกันร้อยกว่ากิโลเมตร เพราะฉะนั้นเวลาที่เรานักเจอกันจึงต้องเข้ามาเจอกันในตัวเมือง ตอนนั้นตายายชมทุ่ง สถานที่แห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่ ๆ ยังไม่มีร้านอาหารที่มีความหลากหลายเหมือนทุกวันนี้ ตอนที่ผู้เขียนนัดเจอกับเพื่อนรักที่นี่ครั้งแรก มีแค่ซุ้มร้านขายก๋วยเตี๋ยว และขนมถ้วยอยู่ด้านหน้า น้ำในคลองสวนมะพร้าวก็ยังแห้งขอด มีเพียงสะพานไม้ทอดยาวไปยังตัวคาเฟ่ และทอดยาวต่อไปอีกยังทุ่งนา มีซุ้มศาลาพักร้อนตั้งอยู่เรียงรายเป็นระยะ 3 – 4 หลัง และมีหอคอยขนาดย่อมอยู่ปลายนา เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวถ่ายรูป ข้าวในนาเพิ่งปลูกใหม่ยังไม่แตกกอดีนัก แต่เจ้าของที่นี่ก็สูบน้ำเข้าไปในนาข้าวตลอดเวลาทำให้ข้าวของที่นี่เขียวขจีกว่าแปลงอื่น ๆ อากาศก็เย็นสบายตามไปด้วย หลังจากนั้นที่นี่ก็เริ่มปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดไปเรื่อย ๆ มีการเพิ่มร้านขายอาหารตามสั่งเข้ามาเพื่อเอาใจลูกค้าที่อยากนั่งทานอาหารลมเย็น ๆ กลางทุ่งนา มีการนำร่มสีสันต่าง ๆ มากางบังแดดบังฝนให้กับนักท่องเที่ยว เพิ่มลูกเล่นเปลเหล็กต่อออกไปจากตัวร้านกาแฟให้เด็ก ๆ ลงไปนอนดูท้องฟ้าแบบฟิน ๆ ครั้งแรกที่เรานัดเพื่อนมาที่นี่ เราสั่งกาแฟคนละแก้ว เครื่องดื่มของที่นี่ เริ่มต้นที่ราคา 35 - 55 บาท ถือว่าราคาน่ารักมาก รสชาติก็อร่อยทีเดียว เรานั่งคุยกันในซุ้มศาลาริมทุ่ง เนื่องจากทุ่งนาแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งโอบล้อมด้วยทุ่งนาแปลงอื่น ๆ เพราะฉะนั้นลมจะผ่านตลอดเวลา เราจึงคุยกันเพลิน ๆ ตามสภาพอากาศ ผ่านไปสองสามชั่วโมงแค่อึดใจเดียว ในระหว่างที่เรานั่งคุยกัน เด็ก ๆ ก็จะไปเดินถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน เพราะตื่นเต้นกับความสวยงามของการจัดตกแต่งสถานที่แบบท้องทุ่ง สรุปวันนั้น เรานั่งดื่มกาแฟเล่าความหลังกันอย่างมีความสุข แล้วแยกย้ายกันกลับ ครั้งที่สองที่ผู้เขียนนัดกับเพื่อน สถานที่แห่งนี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก มีการขยายสถานที่จอดรถเพิ่มขึ้น มีคนขายคูปองซื้ออาหารหน้าทางเข้า ภายในที่เป็นร่องสวนมะพร้าว จากที่เคยแห้งขอด ก็มีการนำบัวสีต่าง ๆ มาปลูก มีการเลี้ยงปลาในร่องน้ำ คนมาเที่ยวที่นี่ก็เริ่มมากขึ้น ผู้เขียนมาถึงก่อนเพื่อน เลยถือโอกาสสั่งก๋วยเตี๋ยวรอ เพราะอากาศเย็น ๆ ทานอะไรอุ่น ๆ คงดี ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ราคาชามละ 50 บาท ได้เยอะมาก น้ำและผักเราต้องบริการตัวเอง มีขนมถ้วยโบราณ ราคากล่องละ 40 บาท ให้เราซื้อมานั่งทานระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว บอกเลยว่าขนมถ้วยของที่นี่ของเขาอร่อยจริง ๆ ซุ้มนั่งทานก๋วยเตี๋ยวของที่นี่จัดเป็นแบบนั่งห้อยขาทาน หันหน้าออกไปชมวิวด้านนอก รสชาติก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยไม่แพ้ขนมถ้วยเลย เรานั่งทานก๋วยเตี๋ยวแล้วก็นั่งคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับเพื่อนไปเรื่อย ทานเสร็จแล้วเราก็เดินเข้าไปด้านในร้านกาแฟ ส่วนที่เป็นทุ่งนา บรรยากาศเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความแปลกตาของร่วมสีสันต่าง ๆ ที่นำมาตกแต่งด้านบนตลอดเส้นทางเข้าไปยังร้านกาแฟ มีร้านอาหารตามสั่งคั่นกลางระหว่างทางเข้ากับร้านกาแฟ ในส่วนของพื้นที่ที่เป็นร้านกาแฟมีการต่อเหล็กออกไปแขวนเปล ไว้ให้กับนักท่องเที่ยวลงไปนอนดูท้องฟ้า เด็ก ๆ ชอบจุดนี้มาก นอนไม่ยอมลุกเลย ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเราก็สั่งกาแฟ แล้วไปนั่งคุยกันในซุ้มเหมือนเดิม ทุกครั้งที่ได้มาพบเพื่อนรัก ปีละครั้งหรือสองครั้ง เราก็จะมีเรื่องให้เมาท์มอยกันได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่มีเบื่อเลย และทุกครั้งที่เรานัดเจอกันสถานที่ยอดฮิตก็จะเป็นที่นี่ เพราะเรารู้สึกว่าที่นี่บรรยากาศเป็นส่วนตัว เราไม่ต้องรีบร้อนและไม่ต้องกลัวสายตาของใครว่าจะมองว่าเรานั่งนาน ๆ เพราะคนที่มาที่นี่คือคนที่ต้องการมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบท้องทุ่งจริง ๆ สำหรับใครที่ต้องการมาพักกายพักใจหลบความวุ่นวายในเมือง แนำนำที่นี่เลย การเดินทางนั้นก็แสนจะง่าย ออกจากตัวอำเภอวารินชำราบ ใช้ถนนเทศบาล 81 ไปถนนสถลมาศ มุ่งหน้าตรงไปทางมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประมาณ 9.6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะเห็นตายายชมทุ่งอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 19.00 น. ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน