ขอแค่ได้ออกจากบ้าน เกินสี่สิบกิโลเมตร เพียงเท่านี้เราก็เรียกว่าการท่องเที่ยว ทิ้งภาระงานทิ้งสิ่งที่ทำอยู่ปัจจุบัน ปล่อยตัวเองให้มีความสุข ด้วยการมองธรรมชาติรอบข้างหรือ มองผู้คนที่อยู่รอบตัว การไปเที่ยวที่ไม่มีแผน ไปแบบกลุ่มมินิครอบครัว ที่เน้นการเดินทางแบบเรื่อยๆ ไม่เข้าเซเว่นพวกเราจะกระจายรายได้ให้กับร้านค้า ของชำเล็กๆ รายทาง แวะเพื่อประชุมวางแผนการเดินทาง เนื่องจากต้องการที่จะเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้าของสมาชิกในกลุ่ม ความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของเจ้าของร้านขายสินค้าเมื่อเห็นกลุ่มของพวกเราลงจากรถ เลือกขนมนมที่ตนเองชอบ ช่างเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ ถนนที่เราใช้ในการเดินทางออกจากบ้าน เพื่อตัดเข้าทางสี่เลน จากบ้านถึงมุกดาหารใช้เวลาไม่นานเหมือนแต่ก่อน รถวิ่งประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆ แต่เป็นการวิ่งที่เหยียบชนิดปลิวเพราะถนนค่อนข้างโล่งไม่ค่อยมีใคร อาจจะเป็นเพราะเราเดินทางในช่วงของ 11 นาฬิกาเพื่อไปทานข้าวที่จุดหมาย ถ้าต้องการไปเที่ยว พิกัด >>> สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร <<<การเดินทางนั้นไปได้หลายทาง เดินทางตามถนนหมายเลข 12 ถนนสี่เลน ที่เดินทางจากกาฬสินธุ์สสู่จังหวัดมุกดาหาร ขับรถสะดวกสบายเป็นถนนสร้างใหม่ รวมถึงธรรมชาติสองข้างทางก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่ามอง อุโมงค์ต้นไม้ ตลอดเส้นทางนั้นถนนโล่งแต่พอรถขับมาก่อนที่จะถึงบ้านโคกโก่ง เราจะได้พบกับอุโมงค์ต้นไม้ที่สวยงาม มีความยาวประมาณเกือบห้าร้อยเมตร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สถานที่แรกที่เราลงไปถ่ายภาพ คือช่องเขาขาดที่มีการระเบิดเขาเพื่อจะทำถนน กลายเป็นจุดถ่ายภาพสวยแห่งใหม่ของใครหลายคน เพราะด้านหน้าจะมองเห็นทิวเขาที่สวยงาม ยิ่งในตอนเช้าหรือเวลาใกล้ตะวันจะตกดิน เราจะมองเห็นอย่างชัดเจนทางทิศตะวันตก มีนักเดินทางจอดรถเพื่อเก็บภาพ หรือรอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สิ่งที่ทำให้คนอยากถ่ายภาพด้วย ตรงช่องเขาขาด บริเวณช่องเขาขาดนั้นจะมีเนินสองฝากฝั่งที่เป็นทางลาดชันสูงขึ้นไป บางทีก็มีนักปีนหน้าผานำอุปกรณ์มาเพื่อพิชิต ยังเห็นร่องรอยของเชือกที่ห้อยลงมาบ้าง ถ้าหากเราจะขับรถขึ้นไปด้านบนของช่องตรงนี้ก็ย่อมได้ แต่ต้องเป็นรถที่มีกำลังแรงสักหน่อย เพราะทางขึ้นค่อนข้างจะลาดชัน ถ้าขึ้นด้านบนจะยิ่งความงดงามกว่านี้ สังเกตแนวดินจะเป็นสีขาวลักษณะเหมือนหินปูนเกาะอยู่ สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติแต่เป็นการทำของมนุษย์โดยการนำปูนมาเทลาดจากด้านบนลงมา เพื่อเป็นการยึดเกาะหน้าดิน ซึ่งจะมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการไหลมาจากด้านบน และไหลเป็นทางลงมาด้านล่าง เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้สำหรับผู้ไปเที่ยวและยิ่งเวลาที่ถ่ายภาพ ด้วยพื้นหลังเป็นสีขาว จะทำให้นางแบบนายแบบขาวใสสวยสมวัยแน่นอน ความสวยงามของสะพานในตอนบ่ายๆ เรียกได้ว่าร้อนสุดขีด ดูจากก้อนเมฆบนท้องฟ้าได้ เรามาจอดรถเพื่อถ่ายภาพในอีกด้านหนึ่งคือด้านหลังของสะพาน “สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2” สะพานนี้จะเชื่อมต่อกับแขวงสะหวันนะเขดประเทศลาวกับจังหวัดมุกดาหาร สะพานนี้สามารถเดินทางเข้าไปได้ครึ่งของสะพาน เพราะชายแดนของทั้งสองฝ่ายนั้นจะอยู่ตรงกลางของแม่น้ำโขง(ไทย) หรือแม่น้ำของ (ลาว) เมื่อไปยืนข้างๆ จะเห็นน้ำไหลชัดเจน ในช่วงนี้เป็นฤดูฝนยิ่งทำให้น้ำโขงขุ่นข้นเหมือนน้ำชาไทย ไหลวน สองฝากฝั่งยามเย็น ช่วงเย็นริมแม่น้ำจะมีเนื้อย่างเกาหลีริมโขงที่จะนั่งตรงบันไดทานกันอย่างอร่อย ลมโชยมาจากฝั่งของประเทศลาว ตอนเย็นนั้นเราจะเห็นแสงไฟส่อง ท้องฟ้าดวงดาวส่องสว่าง อาจจะเรียกได้ว่าทานข้าวใต้ไอหมอกและแสงจันทร์ในวันเพ็ญ ความเงียบในความร้อน เวลาประมาณบ่ายสองบ่ายสามเป็นเวลาที่แดดกำลังทำงานเต็มที่ ถ้าเราไปเดินในเวลานี้ เราจะเจอกับความเงียบ ริมฝั่งน้ำยังไม่มีผู้คน เสาไฟที่มีโคมไฟเป็นรูปพญานาค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแม่น้ำโขงตั้งเรียงรายกันอย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้าง อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว ตลาดอินโดจีน แน่นอนว่าทุกครั้งที่เราไปจะต้องมีบ้าง ว่างจากการเที่ยวการทานอาหาร ก็จะเดินย่อย ตลาดอินโดจีนระยะทางยาวสองข้างทางประสาน1 กิโลเมตร เวลาเดินจะมีสินค้ามากมาย ที่ต้องลองคือหมูยอแสนอร่อย ผู้คนจะเดินอยู่ตลอดเวลา เพราะตลาดจะมีทั้งวัน อาจจะเปิดช่วง 10 นาฬิกาเป็นต้นไปจนถึงเย็น ให้ได้เดินเลือกซื้อของ ของใช้ในตลาดนี้มีทุกอย่าง และราคานั้นสามารถต่อรองได้ ลดได่ตามความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ตอนที่เดินเข้าไปในตลาดครั้งแรกนั้นแม่ค้าที่นี่คุยดีน่ารักยิ้มแย้ม แม้ว่าตลาดนี้เกือบจะถูกปิดในช่วงของกาาระบาดโควิด แต่ตอนนี้กำลังจะกลับมาเหมือนเดิม ตลาดนี้จะคึกคักในช่วงเย็นๆ ไปที่ไหนก็มีความสุขได้ แต่เราเปิดใจและเรียนรู้ อากาศคือเรื่องของอากาศ แค่เรามีความสุขก็พอ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์