สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านวันนี้ผมจะพาไปท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกที่ใกล้กรุงโตเกียวมากที่สุดนั่นก็คือเมืองนิกโก้นั่นเองครับ โดยทริปนี้จะเดินทางท่องเที่ยวในเวลา 1 วัน ซึ่งจะได้พบได้เจออะไรบ้างเชิญติดตามได้จากบทความนี้เลยครับ ก่อนอื่นมารู้ถึงขั้นตอนในการเดินทางไปเมืองนิกโก้ก่อนครับ โดยผมนั่งรถไฟโทบุขบวน Rapid จากสถานี Asakusa มายังสถานี Tobu Nikko โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองนิกโก้แล้วครับ โดยการเดินทางภายในเมืองนิกโก้ ผมจะใช้วิธีการขึ้นรถเมล์ที่วิ่งภายในเมืองครับ ในเมื่อผมมีเวลาแค่ 1 วัน ผมจะสามารถเที่ยวเมืองนิกโก้ได้แค่โซนมรดกโลกเท่านั้นครับ ซึ่งก็ออกลุยกันเลยครับ โดยสถานที่แรกที่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวก็คือ ศาลเจ้าโทโชกุ ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่ดูยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่อื่นใดในศาลเจ้าแห่งนี้นั่นก็คือซุ้มประตูโยเมมง โดยเป็นประตูก่อนเข้าไปสู่ศาลเจ้าชั้นใน ซึ่งมีการแกะสลักไม้ที่ดูวิจิตรงดงามแทบทุกตารางนิ้ว โดยเดินเข้าไปก็จะเป็นบริเวณศาลเจ้าและสุสานครับ ซึ่งจะมีรูปปั้นแกะสลักแมวหลับอันโด่งดังอยู่บนซุ้มประตูทางขึ้นไปสุสานอิเอะยาสุ ซึ่งเป็นตัวแทนความสงบร่มเย็นของบ้านเมือง หลังจากนั้นผมจึงเดินขึ้นไปยังสุสานโชกุนอิเอะยาสุ ซึ่งต้องขึ้นบันไดหินไป 200 ขั้น โดยความสำคัญของท่านโชกุนคือ ท่านได้เลือกเมืองนิกโก้เป็นเมืองหน้าด่านทางทิศเหนือครับ เวลาเปิด -ปิด 08:00-17:00 น. ค่าเข้าชม 1,300 เยน หลังจากนั้นจึงเดินไปที่ วัดไทยูอิน ซึ่งเป็นที่ตั้งสุสานอิเอะมิตสุ โชกุนคนที่ 3 ของตระกูลโทกุงาวะ แต่สิ่งแรกที่เห็นก่อนคือ วัดแฝด ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะว่ามีศาลาใหญ่ 2 หลัง สร้างด้วยรูปทรงและมีขนาดเท่ากัน หลังแรกสร้างแบบศิลปะญี่ปุ่น หลังที่สองสร้างในศิลปะแบบจีน จากนั้นเดินเข้าไปในวัดจะผ่านซุ้มประตูเล็กชื่อว่าประตูสายฟ้า และเมื่อเดินเข้าไปอีกก็จะผ่านไปยังประตูดอกโบตั๋น หลังจากนั้นก็จะเป็นในส่วนของสุสานท่านโชกุนครับ ซึ่งห้ามถ่ายรูปครับ เวลาเปิด-ปิด 08:00-17:00 น. ค่าเข้าชม 550 เยน หลังจากนั้นจึงเดินไปยังเจดีย์ 5 ชั้น โดยสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2193 ตั้งตระหง่านกลางหมู่ต้นสน ซึ่งพอเข้าไปใกล้ ๆ จะเห็นภาพสลักลวดลายสัตว์ใน 12 จักรราศีตามปฏิทินครับ เมื่อชมเสร็จจึงเดินไปยังแลนด์มาร์คอันดับต้น ๆ เมื่อนึกถึงเมืองนิกโก้เลย นั่นก็คือ สะพานชินเคียว โดยจุดเด่นของสะพานชินเคียว คือ เป็นสะพานไม้สีแดงลักษณะโค้งงอทอดข้ามแม่น้ำไดยะ ซึ่งสะพานแห่งนี้ติด 1 ใน 3 สะพานไม้โบราณในญี่ปุ่นที่มีความสวยงามที่สุดด้วยครับ โดยสะพานแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วยครับ สะพานเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินข้ามด้วยครับ แต่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง 500 เยน ซึ่งผมขอผ่านละกันครับ เพราะอยู่บนสะพานคอนกรีตข้าง ๆ ก็ได้เห็นสะพานทุกองศาอยู่แล้วครับ โดยน้ำแถวบริเวณสะพานนั้นน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาดั่งสุภาษิตไทยจริง ๆ ครับ หลังจากนั้นจึงได้เวลาเดินทางกลับครับ โดยใช้วิธีเดิมกลับขามาจนไปถึงสถานี Asakusa ในกรุงโตเกียว จบทริปนิกโก้ใน 1 วันครับ นิกโก้เป็นเมืองมรดกโลกที่ควรจะหาโอกาสมาให้ได้สักครึ่งหนึ่งในชีวิตเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งมีทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสมทุกประการกับการได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก และผมขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยคำขวัญของเมืองนิกโก้ที่ว่า Nikko is Nippon ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน