รีเซต

เดินทางสู่ปรโลกญี่ปุ่น ที่ โอโซเระซัง หนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดอาโอโมริ

เดินทางสู่ปรโลกญี่ปุ่น ที่ โอโซเระซัง หนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดอาโอโมริ
Muzika
12 พฤศจิกายน 2565 ( 15:45 )
1.4K

     1 ในความเชื่อส่วนใหญ่ของผู้คนบนโลกนี้ ยังไงก็ไม่พ้นเรื่องโลกหลังความตาย หรือ ปรโลก นั่นเอง ถึงจะอยากรู้ว่ามีจริงมั้ยแต่ก็ไม่มีใครอยากไปพิสูจน์ซักเท่าไหร่ ถ้าใครอยากเห็นลองไปเที่ยวญี่ปุ่น ชมประตูสู่ปรโลกได้เลยที่ ภูเขาโอโซเระ Osorezan ซึ่งเป็นที่เที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริครับ

 

 

ภูเขาโอโซเระ Osorezan ประตูสู่ปรโลก จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

 

 

     โอโซเระซัง (恐山) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใจกลางของอำเภอมุตสึ จังหวัดอาโอโมริ ทางตอนเหนือสุดของเกาะฮอนชู ที่นี่เป็น 1 ใน 3 ของภูเขาที่ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกับโคยะซัง (高野山) และฮิเอย์ซัง (比叡山) ที่นี่ตั้งอยู่บนใจกลางของพื้นที่เสี้ยวเกาะชิโมคิตะ (下北半島) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของทะเลสาบที่เคยเกิดการปะทุและระเบิดเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งก็มีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาในแถบคาบสมุทรชิโมะคิตะว่า ภูเขาแห่งนี้เป็นดินแดนที่เชื่อมต่อผืนพิภพสู่นรก และสรวงสวรรค์ ดังนั้นจึงเป็นที่ที่ดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจะเดินทางมากัน โดยมีแม่น้ำซันสึ เป็นตัวแบ่งกั้นระหว่างโลกมนุษย์ และโลกหลังความตาย

 

อิทาโกะ คนทรงสื่อวิญญาณ

 

ภูเขาโอโซเระ Osorezan ประตูสู่ปรโลก จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

 

     โอโซเระซังนั้นยังมีชื่อเสียงในเรื่องของ อิทาโกะ หรือคนทรงที่เป็นผู้สื่อสารระหว่างคนเป็น และคนตายนั่นเอง ซึ่งศาสตร์ในการเป็นอิทาโกะนั้นก็ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องผ่านการเรียนรู้ ฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด โดยที่นี่จะมีเทศกาล เรไทไซ กันปีละ 2 ครั้งในฤดูร้อน (20-24 ก.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง ปลายเดือน ต.ค. เพื่อทำพิธี คุจิโยเสะ ที่อิทาโกะจะอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วให้มาร่วมพิธี เพื่อให้ญาติผู้ตายสามารถพูดคุยกับวิญญาณผ่านอิทาโกะเพื่อคลายความคิดถึงได้ ซึ่งอิทาโกะจะต้องรักษาศีลอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 3 เดือนก่อนถึงงานเทศกาลด้วย

 

ซันสึ แม่น้ำหลังความตาย

 

 

     ไม่ไกลจากทะเลสาบนัก เป็นที่ตั้งของ แม่น้ำซันสึ (三途川) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่คนตายจะต้องเดินทางข้ามผ่านสู่ปรโลก เมื่อข้ามสะพานแดง หรือ สะพานไทโกะ (ว่ากันว่าวิญญาณคนบาปจะมองเห็นสะพานนี้เล็กราวกับเข็ม ทำให้ไม่สามารถข้ามสะพานไปได้) ที่แบ่งกั้นระหว่างโลกมนุษย์ และโลกหลังความตายแล้วจะถึง "ซันมง" หรือ ประตูทางเข้าสู่โลกของวิญญาณ ซึ่งบริเวณนี้จะมีรูปปั้น จิโซ อยู่ทั่วไป ซึ่งเชื่อกันว่าท่านเป็นโพธิสัตว์ที่คอยดูแลปกป้องวิญญาณให้ปลอดภัยจากภูตผีปีศาจ ที่ไม่ยอมให้วิญญาณเด็ก และทารกสามารถข้ามผ่านพ้นไปยังอีกภพได้ 

 

วัดโอโซเระซังโบไดจิ (Osorezan Bodaiji) 

 

 

     วัดนี้เป็นวัดสำคัญของ โอโซเระซัง ที่รอบๆ บริเวณจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของกำมะถัน และไอน้ำที่พุ่งขึ้นมาตามรอยแตกของหิน มีสัตว์ป่าอาศัยอย่างเบาบางจนแทบจะเหมือนดินแดนรกร้าง จนได้บรรยากาศคล้ายยมโลก ส่วนใครที่อยากสัมผัสการใช้ชีวิตในโลกหลังความตาย สามารถสัมผัสประสบการณ์การพักแบบ ชุคุโบ (การพักค้างแรม) ที่วัดได้ เปิดโอกาสให้เราได้ปรับปรุงสภาพร่างกายด้วยอาหารมังสวิรัติ และแช่น้ำพุร้อน รวมถึงใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด เช่น การรับประทานอาหาร เวลาปิดไฟตอนกลางคืน สวดมนต์ทำวัตรเช้า เป็นต้น

 

สถานที่น่าสนใจอื่นๆ ในโอโซเระซัง

 

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในโอโซเระซัง

beibaoke / Shutterstock.com

 

     นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว โอโซเระซัง ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

  • หาดสวรรค์ โกคุราคุฮามะ (Gokurakuhama)
  • น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เรเซ็น (Reisen)
  • ทะเลสาบอุโซริยามะ (Usoriyama-ko)
  • นรกสระโลหิต (Chi-no-Ike Jigoku) 
  • นรกผีพนัน (Toboku Jigoku)
  • นรกอนันต์ (Mugen Jigoku) 
  • นรกขุดทอง (Kanehori Jigoku)  

     ฟังดูแต่ละชื่อก็ให้อารมณ์เหมือนไปทัวร์นรกเลย หากมองข้ามชื่อน่ากลัวเหล่านี้ไป จะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยความสวยงามตามธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ และเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังจริงๆ 

 

ข้อมูล ภูเขาโอโซเระ Osorezan

 

 

  • ที่ตั้ง : 3-2 Tanabu Usoriyama, Mutsu-shi, Aomori-ken
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/TB8mVmMRdC1uDeGJ9
  • เปิดเข้าชม : พฤษภาคม - ตุลาคม (ปิดภูเขาช่วง พ.ย. ถึง เม.ย.) เวลาเปิดทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฤดูกาล ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือน
  • ตุลาคมจะเปิดตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 18.00 น. และในช่วงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงสิ้นเดือนตุลาคมจะเปิดตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 17.00 น.
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กประถมและเด็กมัธยมต้น 200 เยน
  • การเดินทาง : จากรถไฟชิโมะคิตะสาย JR ให้ลงป้าย Osore-zan แล้วนั่งรถบัสสาย Osorezan ต่อประมาณ 45 นาที

====================