สวัสดีผู้อ่านทุกคนนะครับ ใครหลายๆ คนต่างก็มีประสบการณ์ที่ Epic หรือประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่บางครั้งถ้าเป็นไปได้ก็อยากย้อนเวลากลับไปสัมผัสมันอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็เช่นกัน ในอดีตที่ผ่านมา ผมมีประสบการณ์ต่างๆ มากมายที่เมื่อนึกถึงทีไรก็รู้สึกดีทุกครั้ง ซึ่งหนึ่งในประสบการณ์ที่ผมคิดว่าดีที่สุดในชีวิตตอนนี้ ผมขอยกให้การได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตของผมนั้นเป็นประสบการณ์ที่ Epic ที่สุดของผมเลยครับ บทความนี้ผมเลยจะมาเล่าประสบการณ์ครั้งนั้นให้ผู้อ่านทุกคนกันครับการเดินทางไปเที่ยว (หรือจริงๆ ก็คือทัศนศึกษา) ประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกของผมนั้น ผมและเพื่อนๆ รวมทั้งอาจารย์ได้เดินทางไปที่เกาะฮอกไกโด เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 ซึ่งตอนนั้น โควิด-19 ยังไม่ระบาดเลยด้วยซ้ำครับหลังจากที่ผมได้เดินทางจากสนามบินดอนเมืองมาลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่นแล้วนั้น พวกผมได้เดินทางไปดูทุ่งโซลาร์เซลล์ SOBANK Tomato Anping Solar Park 2 ซึ่งภายในโรงงานมีโซลาร์เซลล์มีจำนวนมากมายกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สมกับเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่นเลยครับหลังจากนั้น พวกผมได้เข้าพักที่ Sounkyo Kanko Hotel ครับ ซึ่งวันที่ผมเดินทางไปถึงญี่ปุ่นวันแรกนั้น เป็นวันแรกของปีเลยที่หิมะตก ทำให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสหิมะครั้งแรกในชีวิต หลังจากนอนพักเก็บแรงและแช่ออนเซ็นเสร็จ พวกผมก็ได้เดินทางไปเยี่ยมชมน้ำตกริวเซอิและน้ำตกกิงกะ ซึ่งตั้งในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซันกันครับซึ่งเนื่องจากก่อนหน้านั้น มีหิมะตกหนักมากกกกก ทำให้ผมมองไม่เห็นสายน้ำที่ไหลลงมาครับ แต่เห็นร่องน้ำตกที่ปกคลุมด้วยหิมะแทน 555555 ถือว่าได้ภาพที่สวยไปอีกแบบนึงครับจากนั้น พวกเราได้เดินทางกันต่อที่ศาลเจ้าฮอกไกโด ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่เกาะฮอกไกโดเลยล่ะครับ ซึ่งนอกจากได้มาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกแล้ว ผมก็ได้มีโอกาสมาขอพรเทพเจ้าภายในศาลเจ้าอีกด้วยหลังจากที่ได้เข้าพักผ่อนกันที่ Karaksa Hotel แล้ว เช้าวันต่อมา พวกผมก็ได้ไปเดินตลาดนิโจกัน ซึ่งตลาดนี้มีอาหารทะเลสดใหม่วางแผงขายมากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นปู ปลาแซลมอน หอยเม่นทะเล ปลาทะเลตั่งต่าง โดยเฉพาะปูเนี่ย มีหลากหลายชนิด แต่ละตัวคือสีสดน่าทานทั้งนั้นเลยครับจากนั้น ผมก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมตึกเก่าและคลองโอตารุ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากครับ ซึ่งทั้งวิวคลอง ย่านตึกเก่าบริเวณ 2 ข้างคลองมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์มาก เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่สุดครับจากนั้นผมก็ได้เดินทางต่อไปถนนซาไกมาจิ บนถนนก็มีอาคารแบบตะวันตกที่สร้างขึ้นในช่วงที่บริเวณนี้ถูกใช้เป็นท่าเรือ จากนั้นผมก็ได้ไปดูพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ โดยด้านหน้าจะมีนาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษ ที่ว่ากันว่าปัจจุบันเหลือแค่ 2 เรือนในโลกเท่านั้นครับเมื่อเข้าในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแล้ว บอกเลยว่าภายในพิพิธภัณฑ์เขาตกแต่งโคตรสวยมาก แล้วมีกล่องดนตรีหลายแบบ ทั้งแบบน่ารักๆ ไปจนถึงแบบหรูหรา ดูแพง โดยที่เราสามารถซื้อเป็นที่ระลึกกลับบ้านไปได้ครับ (ซึ่งตอนนั้น ผมก็ซื้อกลับมาเครื่องนึงเช่นกัน แฮะๆ)ในวันต่อมา พวกผมก็ได้เดินเล่นภายในเมืองซัปโปโร เมืองหลักของเกาะฮอกไกโด ไปที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด ตึกสีแดงสไตล์ตะวันตกที่มีความสวยงามแบบสุดๆ ข้างในเขาก็แสดงภาพวาดและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเกาะฮอกไกโดไว้ด้วยหลังจากนั้น พวกผมก็ได้เดินเล่นต่อไปที่หอนาฬิกาซัปโปโร สวนสาธารณะโอโดริ แล้วจบทริปกันที่ Sapporo TV Tower ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงสุดในเมืองซัปโปโร สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองซัปโปโรกันได้ครับการได้เดินทางไปเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประสบการณ์สำคัญที่เมื่อนึกถึงก็ทำให้มีความสุขทุกครั้ง ถ้าหากมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้ง ผมก็จะเดินทางกลับไปอีกอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เมื่อโควิดหมดแล้ว หากใครอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น อยากไปสัมผัสหิมะซักครั้งล่ะก็ ลองมาเที่ยวเกาะฮอกไกโดช่วงหน้าหนาวกันได้นะครับพิกัดสถานที่น้ำตกริวเซอิและน้ำตกกิงกะศาลเจ้าฮอกไกโดตลาดนิโจคลองโอตารุพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโดหอนาฬิกาซัปโปโรที่มาภาพปกและภาพประกอบ : KyojuroRengoku (ผู้เขียน)บทความหมวดท่องเที่ยวเรื่องอื่นๆ ของผู้เขียนตะลอนเที่ยวกรุงเทพ @สวนเฉลิมหล้า ศูนย์รวมงาน Art แถว BTS ราชเทวี #รีวิวตะลอนเที่ยวกรุงเทพ @สวนเบญจกิติ สวนสาธารณะใจกลางกรุงรีวิวนั่งรถไฟฟ้าจาก สุวรรณภูมิ ไป พญาไท แอร์พอร์ตลิ้งค์ #workshopตะลอนเที่ยวกรุงเทพ @วัดโพธิ์อย่าลืมติดตามบทความอื่นๆ ของผู้เขียนได้ใน KyojuroRengoku นะครับวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !