คูณเคยออกไปถ่ายรูปที่ไหนแล้วรูปที่ได้สามารถสื่อถึงอารมณ์และเรื่องราวได้มั้ยครับ... บทความนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่ารูปภาพที่ผมได้ไปถ่ายมาที่สถานีรถไฟหาดใหญ่นั้นมีความนัยแฝงอะไรยังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว...ไปรับชมกันเลยครับ!!! ภาพที่ 1. ภาพนี้คือภาพบรรยากาศภายในรถไฟที่จอดทิ้งไว้ ผมได้ไปถ่ายภาพกับเพื่อนคนหนึ่งตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย 3 โมง แสงอาทิตย์ที่สาดส่องตกกระทบลงบนที่นั่งภายในรถไฟที่จอดทิ้งไว้ ผมเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปแสงและเงาเป็นอย่างมาก ผมจึงหยิบกล้องฟิล์มขึ้นมา (รุ่น Canon FTB-QL) ทำการวัดแสงผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า "Lux" เมื่อวัดแสงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการปรับความกว้างของรูรับแสงและสปีดชัตเตอร์ "แช๊ะ!!" เสียงชัตเตอร์ของกล้องดังขึ้น ภาพที่ถ่ายในกล้องฟิล์มไม่สามารถที่จะดูผลลัพธ์จากภาพได้ทันที ต้องนำฟิล์มที่ถ่ายจนหมดม้วนไปล้างอีกทีหนึ่ง ต้องลุ้นว่าภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นอย่างไร นี่คือเสน่ห์ของกล้องฟิล์ม ที่ทำให้เกิดกระแสยอดฮิตในช่วงเวลานี้ ภาพที่ 2. หญิงชรานั่งรอค่อยใครสักคนอยู่ที่ชานชาลา รูปภาพรูปนี้ถือเป็นรูปที่ดีที่สุดในม้วนของผม หากคุณใช้ตามองดีๆ จะสังเกตได้ว่าภาพมีการซ้อนของมิติหลายมิติ หลังชัดหน้าเบลอ ภาพนี้ถูกถ่ายขณะที่ผมกำลังจะเดินไปยังรถไฟที่จอดทิ้งไว้ (ภาพที่1.) สำหรับพวกคุณที่กำลังอ่านอยู่ขณะนี้ มีมุมมองและความรู้สึกเกี่ยวกับภาพนี้กันอย่างไรบ้าง... สำหรับผมแล้วภาพนี้สื่อถึงคุณยายชราที่กำลังโดดเดี่ยว เหมือนถูกทอดทิ้ง แต่ในความเป็นจริงอาจจะกำลังรอลูกหรือคุณตามารับอยู่ก็เป็นไปได้ ภาพที่ 3. อุโมงค์ใต้รางรถไฟ รูปภาพรูปนี้ต่อมาจากภาพที่ 1. หลังจากที่ผมได้ไปถ่ายบรรยากาศยามบ่ายที่แสงตกกระทบลงบนรถไฟที่จอดทิ้งไว้ ผมก็เดินลงมาทางอุโมงค์เพื่อที่จะไปโผล่ตรงประตูทางออกของสถานีรถไฟ ด้วยความมืดของอุโมงค์ ผมทำการวัดแสงแต่ด้วยความจำกัดของ ISO200 ทำให้ต้องเปิดรูรับแสงที่กว้างมากๆ และสปีดชัตเตอร์ที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เห็นดังภาพนั่นคือ...อะไรสักอย่างที่เบลอจนดูไม่ออกว่ามันคืออะไร หรือว่าจะเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณ!! ถ้าคิดเห็นยังไงก็ว่ากันไปนะครับ 555+ ภาพที่ 4. แสงและเงาผู้คนเดินทางกลับบ้าน ภาพนี้ต่อเนื่องมาจากภาพที่แล้วใต้อุโมงค์ ซึ่งทางออกของอุโมงค์นั้นเราจะสังเกตได้จากภาพที่แล้วว่ามีแสงตกกระทบอยู่บนผนังที่เต็มไปด้วยกระเบื้องนี้ แสงได้ตกกระทบบนผิวหนังของผู้คนที่กำลังเดินทางกลับบ้านอยู่ ขณะที่พวกเขากำลังเดินผมได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายโดยการปรับสปีดชัตเตอร์ที่สูงเพื่อให้ถ่ายได้อย่างทันท่วงที จึงเกิดมาเป็นภาพดังกล่าว ที่ให้ความรู้สึกถึงครอบครัวที่กำลังรอคอยเราอยู่ที่บ้าน ภาพที่ 5. เด็กสาวชูสองนิ้วและไอติมของเขา ภาพนี้คือภาพสุดท้ายก่อนที่เราจะจากกันไปในบทความนี้ ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะเดินขึ้นบันไดเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผมได้เหลือบเห็นหญิงสาวตัวน้อยกำลังกินไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อย ผมจึงบอกน้องไปว่า "พี่ขอถ่ายรูปหน่อยๆ" น้องเค้าไม่ได้ตอบอะไรผมแต่ชูสองนิ้วขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ รูปนี้ผมจำได้ว่าผมไม่ได้วัดแสง แล้วทำการกดชัตเตอร์ทันที แต่คุณเชื่อไหม ภาพที่ออกมามันกลับไม่ได้แย่เกินไปอย่างที่ผมคิดไว้ สุดท้ายนี้...ผมอยากจะฝากไว้ว่าหากคุณไปเที่ยวที่ไหนหรือได้ออกไปทำอะไรใหม่ๆที่ไหน ถ่ายรูปเก็บไว้นะครับ เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในอดีตได้ แต่เราสามารถดูรูปที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อที่จะรื้อฟื้นความทรงจำเหล่านั้นได้ :) รูปภาพทั้งหมดโดย IG: todtee_film_mod (แอคเค้าน์ของผมเอง) ใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพของผมก็อย่าลืมไปกด follow กันด้วยนะครับ ^ ^